ชายหนุ่ม และ หญิงสาว คู่หนึ่งชื่นชอบในการล่อลวงคนมากหน้าหลายตาเพื่อมาทรมานและฆ่าอย่างไร้ปราณีเป็นว่าเล่น ความเหมือนที่ต่างกันก็คือเขาฆ่าเหยื่อเพื่อต้องการทำมาเป็นอาหารไว้ประทังชีวิต แต่สำหรับเธอนั้นเปรียบเป็นเกมอย่างหนึ่งที่สามารถสนองความต้องการของเธอได้เป็นครั้งคราว จนกระทั่งทั้งคู่มาเจอกันโดยบังเอิญ โดยต่างคนก็ไม่รู้ว่าตนเองคือฆาตกรเหมือนกัน อภิความมันส์เลือดสาดจึงเกิดขึ้น
พูดเลยว่า ซัดกันดุดัน โหดไม่เกรงใจใคร เชือดกันสด ๆ ส่งตรงจากญี่ปุ่น ที่ท้าทายประสาทสัมผัสของคุณในตลอดเวลา 1 ชั่วโมง 7 นาทีว่าคุณจะ Strong มากน้อยแค่ไหนกับการนั่งดูภาพที่มีแต่เลือดสด ๆ ที่ไหลออกจากร่างกาย เต็มไปด้วยอวัยวะมากมายก่ายกองกระจัดกระจายกองเต็มพื้นโดยไม่ต้องคิดจะหาเหตุผลอะไรจากเรื่องนี้เลยนอกจากวิธีการฆ่าเหยื่อของ 2 ตัวละครหนุ่มสาวนี้ก็ช่างสรรหาวิธีการอันพิสดารชวนหวาดเสียวอ้วกแตกเกินจะกลั้นไหว และ ไม่มีคนสติดีที่ไหนเขาทำกัน ซึ่งเรื่องนี้มีการใช้เทคนิคมุมกล้องแบบ Snuff Films หรือ ถ่ายคลิปวิดีโอใต้ดิน ฟิลม์ม้วนเก่า ๆ มีแทบขีดยาวไล่ลงมา กล้องจะซูมไปที่ตัวละครให้ทราบซึ้งถึง Emotions ของสัญชาตญาณในตัวมนุษย์ที่ทวีความบ้าคลั่งขึ้นเรื่อย ๆ มันจึงให้อารมณ์ดิบ ๆ สมจริงขั้นสุด เหมือนนั่งดูหนัง Slasher Horror ยุค 80 - 90s ที่เช่าจากร้าน VDO หรือ แผ่นก๊อปข้างถนนนั่นแหล่ะ บางช่วงมีจังหวะ Drama ช่วยผ่อนคลายจากความรุนแรงไปบ้าง พอพักยกเสร็จก็กลับมาบวกกันต่อ ตัวละครหลักจะมีแค่ 2 คนชาย-หญิง เป็นตัวเดินของเรื่อง ทำให้การเดินเรื่องมีความรวดเร็ว ทันใจ เปิดเรื่องมาไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงอะไรมาถึงจับเหยื่อมาฆ่าเล่นทันที ส่วนเหตุผลที่เหลือช่างมัน
เรื่องนี้จะแบ่งออกเป็น 3 Chapter โดยในแต่ละ Parts จะเล่าถึง Story ชีวิต Timeline ของเขาและเธอก่อนจะมาพบกัน ดังนี้
Chapter 1 : Part นี้ มีความเป็น Slasher Horror เต็มสูบ ไม่มีการบอกที่มาเลยว่าฆาตกรเป็นใคร มาจากไหน ทำไมก่อเหตุอย่างนี้ นอกจากบุคลิกของอาตี๋ที่แสดงหน้าเดียวทั้งเรื่อง ไม่มีมิติมูลเหตุให้เราเข้าใจว่าเขาคิดอะไรอยู่ บทสนทนาแทบไม่ปริปาก สิ่งที่ทดแทนเต็ม ๆ คือ ความโหดจากการกระทำที่โหดเหี้ยม หนักหน่วงไม่หยุดพักให้หายเหนื่อย มีแต่นิดเดียวก็ไม่ช่วยอะไร ตัวอาตี๋ที่มีรูปร่างอ้วนใหญ่ + ความหนาของไขมันที่สามารถใช้จับเหยื่อที่มีแต่สาว ๆ ร่างบางมาซัดทรมานแล้วฆ่าทิ้งง่าย ๆ จบ Mission นั้นไปแล้วก็เริ่มหาเหยื่อกันต่อ
Chapter 2 : ในส่วน Part นี้ดีขึ้นมาหน่อยตรงที่มีส่วนของ Drama ในการเกริ่นนำใส่ปมตัวหญิงสาวให้เข้าใจกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นประเด็นหลักอะไรนัก แค่เพิ่มเหตุผลให้ความรู้สึกว่าเธอก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งแค่นั้น แต่ยังคงเสิร์ฟฉากความโหดความรุนแรงจากการต่อสู้ฆ่าฟันจนเลือดสาดทะลุมุมกล้องของเธอ ขณะเดียวกันปัญหาที่มีเหมือนกันอีกก็คือเราก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ทำไมก่อเหตุเช่นนี้อีกเช่นเคย ซึ่งถ้าผมตีความเอาเองจะเดาง่ายกว่าตัวอาตี๋อีก เพราะการกระทำของเธอจะเห็นรูปธรรมชัดเจนมากกว่า ส่วนเหยื่อหนุ่ม ๆ ก็ถูกเรียกตัวมาให้ฆ่าเล่น ๆ จนทำให้อาเจียนออกมาได้ง่าย ช่วงท้าย ๆ Part มีจุด Twist เล็กน้อย แต่พอเดาทางง่าย ทำได้สนุกแล้วส่งไม้ต่อไปสู่บทส่งท้ายได้อย่างลงตัว
Chapter 3 : เป็น Part บทสรุปของทั้งคู่ ไม่ต้องกล่าวอะไรมากมายให้เสียเวลา มาถึงก็เจอกัน ( โดยบังเอิญหรือตั้งใจ ? ) แล้วก็ทำการ 10 Fight 10 ทันที หยั่งกะนั่งดูเวทีมวยศึกวันทรงชัยอยู่ขอบสนาม ชอบที่จังหวะมุมกล้องโฟกัสไปที่ต่างคนต่างงัดศิลปะแม่ไม้มวยไทย มีอะไรนึกขึ้นได้มา Mix and Max กัน งัดกลยุทธข้อได้เปรียบแต่ละคนมาประชันกัน มีฉาก Action แบบ Non-stop ผสมจนไม่ให้พักหายใจกันเลย ตรงช่วงนี้ภาพเคลื่อนไหวตัดได้รวดเร็วเหมือนอยู่ในเรื่องจริง ทำให้รู้สึกถึงความสมจริงทันที แต่มาเสียตรงที่การเฉลี่ยปมของ Drama ในช่วงท้ายดันยืดเยื้อจนเหนื่อยใจ คือ โอเค เข้าใจในสาเหตุการคลี่คลายปมแล้วไม่ได้ประหลาดใจกับเหตุผลของมัน แต่ไม่เข้าใจมากกว่าว่าจะย้ำอะไรหนักหนาในส่วนตรงนี้จนกลายเป็นความน่ารำคาญไป 10 นาทีจนจบ
สรุป คือ ทั้งชอบทั้งสะอิดสะเอียนกับภาพซาดิสม์เต็มไปหมด แม้เวลาในเรื่องจะสั้นมากแต่สนุก กระชับ ลื่นไหล เพราะ การเดินเรื่องมุ่งเป็นเส้นตรงไม่แวะข้างทางด้วยทำให้เรารู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับมันได้อย่างดี มีความเป็นหนังญี่ปุ่นที่รู้ตัวเองดีว่าอยู่ระดับไหนแต่ดันทำได้เกินตัวที่สุดจะ Underrated สุด Underground สุดสยอง สุดเลือด สุดเนื้อจนหาที่สุดอะไรกว่านี้มิได้ แถมแต่ละฉากจัดหนักจัดเต็มภาพความโหดแบบไม่แคร์นักวิจารณ์จะพาดพิงถึงตรรกะโลกสวยอะไร และคนดูว่าจะรับแรงกระแทกของมันได้มากน้อยแค่ไหน แม้ภายนอกดูจะเป็นหนัง Horror ขายความไวของปีศาจ 2 คนโดยทิ้งตรรกะโยนเหตุผลอะไรที่มันไม่จำเป็นออกไปให้หมด แต่ถ้าสังเกตุดี ๆ แล้วเนื้อในมันกลับมีประเด็นสอดแทรกถึงภัยสังคมอย่างการล่อลวงข่มขืนจนนำไปสู่การฆาตกรรมขึ้นมาอย่างปฎิเสธไม่ได้ว่าต่อให้โลกพัฒนาก้าวหน้าต่อไปเท่าไหร่ จิตใจของคนก็ยิ่งมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นจนยากเกินกว่าจะหยั่งรู้ ตามสุภาษิตไทยที่ว่า รู้หน้าไม่รู้ใจ ยังใช้ได้อยู่ทุกสมัยทุกแห่งบนโลกใบนี้
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านแล้ว สามารถกด Like กด Share บทความของผม EMCONCEPT และ Facebook : EM Pascal เพื่อเป็นกำลังใจในการรีวิวครั้งต่อไป ขอบคุณครับ
[CR] No.28 Brutal : ไก่เห็นตีนงู V.S. งูเห็นนมไก่
ชายหนุ่ม และ หญิงสาว คู่หนึ่งชื่นชอบในการล่อลวงคนมากหน้าหลายตาเพื่อมาทรมานและฆ่าอย่างไร้ปราณีเป็นว่าเล่น ความเหมือนที่ต่างกันก็คือเขาฆ่าเหยื่อเพื่อต้องการทำมาเป็นอาหารไว้ประทังชีวิต แต่สำหรับเธอนั้นเปรียบเป็นเกมอย่างหนึ่งที่สามารถสนองความต้องการของเธอได้เป็นครั้งคราว จนกระทั่งทั้งคู่มาเจอกันโดยบังเอิญ โดยต่างคนก็ไม่รู้ว่าตนเองคือฆาตกรเหมือนกัน อภิความมันส์เลือดสาดจึงเกิดขึ้น
พูดเลยว่า ซัดกันดุดัน โหดไม่เกรงใจใคร เชือดกันสด ๆ ส่งตรงจากญี่ปุ่น ที่ท้าทายประสาทสัมผัสของคุณในตลอดเวลา 1 ชั่วโมง 7 นาทีว่าคุณจะ Strong มากน้อยแค่ไหนกับการนั่งดูภาพที่มีแต่เลือดสด ๆ ที่ไหลออกจากร่างกาย เต็มไปด้วยอวัยวะมากมายก่ายกองกระจัดกระจายกองเต็มพื้นโดยไม่ต้องคิดจะหาเหตุผลอะไรจากเรื่องนี้เลยนอกจากวิธีการฆ่าเหยื่อของ 2 ตัวละครหนุ่มสาวนี้ก็ช่างสรรหาวิธีการอันพิสดารชวนหวาดเสียวอ้วกแตกเกินจะกลั้นไหว และ ไม่มีคนสติดีที่ไหนเขาทำกัน ซึ่งเรื่องนี้มีการใช้เทคนิคมุมกล้องแบบ Snuff Films หรือ ถ่ายคลิปวิดีโอใต้ดิน ฟิลม์ม้วนเก่า ๆ มีแทบขีดยาวไล่ลงมา กล้องจะซูมไปที่ตัวละครให้ทราบซึ้งถึง Emotions ของสัญชาตญาณในตัวมนุษย์ที่ทวีความบ้าคลั่งขึ้นเรื่อย ๆ มันจึงให้อารมณ์ดิบ ๆ สมจริงขั้นสุด เหมือนนั่งดูหนัง Slasher Horror ยุค 80 - 90s ที่เช่าจากร้าน VDO หรือ แผ่นก๊อปข้างถนนนั่นแหล่ะ บางช่วงมีจังหวะ Drama ช่วยผ่อนคลายจากความรุนแรงไปบ้าง พอพักยกเสร็จก็กลับมาบวกกันต่อ ตัวละครหลักจะมีแค่ 2 คนชาย-หญิง เป็นตัวเดินของเรื่อง ทำให้การเดินเรื่องมีความรวดเร็ว ทันใจ เปิดเรื่องมาไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงอะไรมาถึงจับเหยื่อมาฆ่าเล่นทันที ส่วนเหตุผลที่เหลือช่างมัน
เรื่องนี้จะแบ่งออกเป็น 3 Chapter โดยในแต่ละ Parts จะเล่าถึง Story ชีวิต Timeline ของเขาและเธอก่อนจะมาพบกัน ดังนี้
Chapter 1 : Part นี้ มีความเป็น Slasher Horror เต็มสูบ ไม่มีการบอกที่มาเลยว่าฆาตกรเป็นใคร มาจากไหน ทำไมก่อเหตุอย่างนี้ นอกจากบุคลิกของอาตี๋ที่แสดงหน้าเดียวทั้งเรื่อง ไม่มีมิติมูลเหตุให้เราเข้าใจว่าเขาคิดอะไรอยู่ บทสนทนาแทบไม่ปริปาก สิ่งที่ทดแทนเต็ม ๆ คือ ความโหดจากการกระทำที่โหดเหี้ยม หนักหน่วงไม่หยุดพักให้หายเหนื่อย มีแต่นิดเดียวก็ไม่ช่วยอะไร ตัวอาตี๋ที่มีรูปร่างอ้วนใหญ่ + ความหนาของไขมันที่สามารถใช้จับเหยื่อที่มีแต่สาว ๆ ร่างบางมาซัดทรมานแล้วฆ่าทิ้งง่าย ๆ จบ Mission นั้นไปแล้วก็เริ่มหาเหยื่อกันต่อ
Chapter 2 : ในส่วน Part นี้ดีขึ้นมาหน่อยตรงที่มีส่วนของ Drama ในการเกริ่นนำใส่ปมตัวหญิงสาวให้เข้าใจกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นประเด็นหลักอะไรนัก แค่เพิ่มเหตุผลให้ความรู้สึกว่าเธอก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งแค่นั้น แต่ยังคงเสิร์ฟฉากความโหดความรุนแรงจากการต่อสู้ฆ่าฟันจนเลือดสาดทะลุมุมกล้องของเธอ ขณะเดียวกันปัญหาที่มีเหมือนกันอีกก็คือเราก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ทำไมก่อเหตุเช่นนี้อีกเช่นเคย ซึ่งถ้าผมตีความเอาเองจะเดาง่ายกว่าตัวอาตี๋อีก เพราะการกระทำของเธอจะเห็นรูปธรรมชัดเจนมากกว่า ส่วนเหยื่อหนุ่ม ๆ ก็ถูกเรียกตัวมาให้ฆ่าเล่น ๆ จนทำให้อาเจียนออกมาได้ง่าย ช่วงท้าย ๆ Part มีจุด Twist เล็กน้อย แต่พอเดาทางง่าย ทำได้สนุกแล้วส่งไม้ต่อไปสู่บทส่งท้ายได้อย่างลงตัว
Chapter 3 : เป็น Part บทสรุปของทั้งคู่ ไม่ต้องกล่าวอะไรมากมายให้เสียเวลา มาถึงก็เจอกัน ( โดยบังเอิญหรือตั้งใจ ? ) แล้วก็ทำการ 10 Fight 10 ทันที หยั่งกะนั่งดูเวทีมวยศึกวันทรงชัยอยู่ขอบสนาม ชอบที่จังหวะมุมกล้องโฟกัสไปที่ต่างคนต่างงัดศิลปะแม่ไม้มวยไทย มีอะไรนึกขึ้นได้มา Mix and Max กัน งัดกลยุทธข้อได้เปรียบแต่ละคนมาประชันกัน มีฉาก Action แบบ Non-stop ผสมจนไม่ให้พักหายใจกันเลย ตรงช่วงนี้ภาพเคลื่อนไหวตัดได้รวดเร็วเหมือนอยู่ในเรื่องจริง ทำให้รู้สึกถึงความสมจริงทันที แต่มาเสียตรงที่การเฉลี่ยปมของ Drama ในช่วงท้ายดันยืดเยื้อจนเหนื่อยใจ คือ โอเค เข้าใจในสาเหตุการคลี่คลายปมแล้วไม่ได้ประหลาดใจกับเหตุผลของมัน แต่ไม่เข้าใจมากกว่าว่าจะย้ำอะไรหนักหนาในส่วนตรงนี้จนกลายเป็นความน่ารำคาญไป 10 นาทีจนจบ
สรุป คือ ทั้งชอบทั้งสะอิดสะเอียนกับภาพซาดิสม์เต็มไปหมด แม้เวลาในเรื่องจะสั้นมากแต่สนุก กระชับ ลื่นไหล เพราะ การเดินเรื่องมุ่งเป็นเส้นตรงไม่แวะข้างทางด้วยทำให้เรารู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับมันได้อย่างดี มีความเป็นหนังญี่ปุ่นที่รู้ตัวเองดีว่าอยู่ระดับไหนแต่ดันทำได้เกินตัวที่สุดจะ Underrated สุด Underground สุดสยอง สุดเลือด สุดเนื้อจนหาที่สุดอะไรกว่านี้มิได้ แถมแต่ละฉากจัดหนักจัดเต็มภาพความโหดแบบไม่แคร์นักวิจารณ์จะพาดพิงถึงตรรกะโลกสวยอะไร และคนดูว่าจะรับแรงกระแทกของมันได้มากน้อยแค่ไหน แม้ภายนอกดูจะเป็นหนัง Horror ขายความไวของปีศาจ 2 คนโดยทิ้งตรรกะโยนเหตุผลอะไรที่มันไม่จำเป็นออกไปให้หมด แต่ถ้าสังเกตุดี ๆ แล้วเนื้อในมันกลับมีประเด็นสอดแทรกถึงภัยสังคมอย่างการล่อลวงข่มขืนจนนำไปสู่การฆาตกรรมขึ้นมาอย่างปฎิเสธไม่ได้ว่าต่อให้โลกพัฒนาก้าวหน้าต่อไปเท่าไหร่ จิตใจของคนก็ยิ่งมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นจนยากเกินกว่าจะหยั่งรู้ ตามสุภาษิตไทยที่ว่า รู้หน้าไม่รู้ใจ ยังใช้ได้อยู่ทุกสมัยทุกแห่งบนโลกใบนี้
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อได้อ่านแล้ว สามารถกด Like กด Share บทความของผม EMCONCEPT และ Facebook : EM Pascal เพื่อเป็นกำลังใจในการรีวิวครั้งต่อไป ขอบคุณครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้