Fever 4 (F4 THAILAND) โดย Na Patchara #8

เรื่องนี้แต่งขึ้น เป็นเรื่องสมมุติ ตามจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น ไม่มีเจตนาพาดพิงใดๆนะคะ

ขอขอบคุณ คุณโยโกะ คามิโอะ ผู้เขียน Hana Yori Dango ต้นฉบับแห่งแรงบันดาลใจ


นายหญิงแห่งเตมีย์กรุ๊ป




ทานตะวัน


เตชินท์ เตมีย์อภิทรัพย์วณิชย์

ณาวา กฤษจาวรนันท์ (Snowman)

คิรินท์ อินทราชัยพิศุทธิ์ หรือนายน้อยรินท์

หม่อมราชวงค์พศวีย์ สิริเมฑาวรกุล ชายวีย์แห่งวังสิริเมฑา

พี่แพร แพรธารา

เดียร์น่า ดิษยา


Fever 4 (F4 THAILAND) #1 http://ppantip.com/topic/30896810
Fever 4 (F4 THAILAND) #2 http://ppantip.com/topic/30922852
Fever 4 (F4 THAILAND) #3 http://ppantip.com/topic/30984872
Fever 4 (F4 THAILAND) #4 http://ppantip.com/topic/31008854
Fever 4 (F4 THAILAND) #5 http://ppantip.com/topic/31040591
Fever 4 (F4 THAILAND) #6 http://ppantip.com/topic/31084221
Fever 4 (F4 THAILAND) #7 http://ppantip.com/topic/31132233






Fever 4 (F4 THAILAND) #8

                เช้าวันใหม่ ทานตะวันเดินเข้าห้องเรียนที่เตมีย์ยูอย่างอ่อนล้า ดิษยาเห็นสีหน้าของทานตะวันก็พอที่จะเดาได้ทันที

        "ทำงาน หรือว่า อ่านหนังหนังสือจนดึก ดูตาสิ เป็นหมีแพนด้าเชียว" ดิษยาแซวทานตะวันทันทีที่ทานตะวันเดินมานั่งที่โต๊ะเรียน

        "ทั้งสองอย่าง" ทานตะวันตอบยิ้มๆ ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทางเพราะแท้ที่จริงแล้ว เธอนอนไม่หลับเพราะคิดถึงแต่เรื่องของ ณาวา

        "อืม..ตะวันเห็นข่าวของพี่แพรธาราหรือยัง" ดิษยาถามโดยที่เธอกำลังอ่านอะไรบางอย่างใน แท็บเล็ต ที่ถืออยู่

        "พี่แพรธารา" ทานตะวันทวนชื่อซ้ำ พร้อมกับพยายามนึกถึงเรื่องของคนที่ชื่อนี้

        "พี่แพรธารา ก็รุ่นพี่ที่จบจากเตมีย์ยู ด้วยคะแนนอันดับ 1 ไอดอลของฉันเลยหละตะวัน เพราะพี่แพร ทั้งสวย ทั้งเก่ง ทั้งฉลาด แถมยังรวยมากๆ อีกต่างหาก" ดิษยาเล่าเรื่องเพื่อเตือนความจำของอีกฝ่าย

        "อ๋อ พี่แพร จำได้แล้ว เรื่องของพี่เขา เล่ากันรุ่นต่อรุ่น เป็นผู้หญิงที่เกิดมาพร้อมความสมบูรณ์แบบจริงๆ ถ้าตะวันเก่งได้ครึ่งนึงของพี่เขานะ คงหางานทำได้อย่างสบายเลยหละ เพราะบริษัทไหนก็พร้อมที่จะอ้าแขนรับ" ทานตะวันออกความคิดเห็นถามที่เธอรู้สึก

        ดิษยามองหน้า ทานตะวัน อย่างพอใจ ก่อนจะเผลอยิ้มออกที่มุมปากเพราะเริ่มที่จะเข้าทางเธอแล้ว

        "ใช่ ทั้งเตมีย์กรุ๊ป ทั้งกฤษจากรุ๊ป ต่างก็แย่งกันจองตัวตั้งแต่พี่แพรยังเรียนไม่จยด้วยซ้ำ"

        "กฤษจากรุ๊ป" ทานตะวันทวนชื่อนี้อีกครั้งเธอรู้สึกคุ้นๆชื่อนี้อย่างบอกไม่ถูก

        ดิษยาเห็นทานตะวันทำหน้าสงสัย เลยอธิบายต่อทันที

        "ก็บริษัทของตระกูลกฤษจาวรนันท์ไง"

        "คุณณาวา" ทานตะวันพูดชื่อนี้ขึ้นเมื่อจำได้ ดิษยาแสยะยิ้มขึ้นทันทีเมื่อเห็นท่าทีของทานตะวัน

        "ใช่ แล้วเธอรู้มั้ย ครอบครัวของพี่แพรมีบริษัทเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำงานให้ใคร แต่เคยมีคนถามพี่แพรเล่นๆว่าถ้าเกิดต้องเลือกทำงานให้กับสองบริษัทนี้จริงๆ พี่แพรจะเลือกบริษัทอะไร เธอลองเดาดูสิ ตะวัน"

        "ก็ต้องเป็นเตมีย์กรุ๊ปอยู่แล้ว" ทานตะวันตอบอย่างไม่ต้องคิดอะไรมาก

        "ผิด" ดิษยาตอบก่อนจะถามต่อว่า

        "รู้มั้ยว่าเพราะอะไร" ดิษยายักคิ้วถาม ทานตะวันทำหน้าสงสัย ก่อนจะส่ายหน้าเพราะเธอไม่รู้จริงๆ

        "เพราะคุณณาวาคือรักแแรกของพี่แพรไง แต่ไม่สิ ต้องพูดว่าทั้งคู่เป็นรักแรกของกันและกันถึงจะถูก"

        "รักแรกของกันและกัน" ทานตะวันทวนซ้ำเธอแทบไม่อยากที่จะเชื่อในเรื่องที่กำลังได้ยิน

        "นี่เธอไม่รู้เรื่องนี้จริงๆหรอตะวัน" ดิษยาแกล้งถาม ทานตะวันส่ายหน้าอย่างเบลอๆ ดิษยาแทบจะเก็บความสะใจไว้ไม่อยู่

        "พี่แพรนี่น่าอิจฉาเนอะตะวัน ทุกวันนี้คุณณาวาก็เฝ้ารอพี่แพรว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ อย่างที่เธอก็รู้ว่าพี่แพรไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส แต่จิตใจของคุณณาวาก็มั่นคงมากเลยนะ ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน หัดเล่นไวโอลินทั้งๆที่ตัวเองไม่ชอบ แต่เพื่อพี่แพร คุณณาวาถึงกับหัดเล่นด้วยตัวเองและก็เล่นได้ดีมากด้วย เนี่ยวันนี้พี่แพรก็กลับมาแล้ว มิน่าหละเดี่ยวนี้ได้ข่าวว่าคุณณาวาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ...นี่ ..เธอฟังอยู่หรือเปล่าตะวัน"

        ดิษยาถามพร้อมกับเขย่าแขนทานตะวันเบาๆ ทานตะวันได้แต่พยักหน้าเพราะเธอกำลังช๊อคกับเรื่องที่ได้ยิน เธอได้แต่ภาวนาว่าเรื่องที่เธอฟังอยู่เป็นเรื่องที่โกหก เมื่อคืนเธอยังฝันหวานอยู่เลยเรื่องรอยยิ้มและท่าทีของณาวา ทานตะวันหลงดีใจว่าอาจเป็นเพราะเธอทำให้เขายิ้มได้แบบนั้น เรื่องดอกคามิเลียสีขาว การรอคอยที่มั่นคง จริงๆแแล้วคือพี่แพรธาราสินะ

        ดิษยาพอใจเป็นอย่างมากที่เห็นใบหน้าของทานตะวันเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

        "เค้าสองคนก็เหมาะสมกันดี เธอว่ามั้ย" ดิษยายังไม่หยุดพูดพร้อมกับหันแท็บเล็ตให้ทานตะวันดูรูปภาพของพี่แพรธารา

        ทานตะวันรู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจที่ได้เห็นภาพนั้น ความเพียบพร้อมของอีกฝ่ายทำให้เธออดที่จะนำมาเปรียบเทียบกับตัวเองไม่ได้

        "ใช่ เหมาะสมกันมากๆเลย ดีจัง แอบลุ้นอยู่ตั้งนานว่าคนที่โชคดีคนนั้นจะเป็นใคร ที่แท้ก็พี่แพรนี่เอง"

        ดิษยารู้ดีว่าทานตะวันกลั้นใจพูด ยิ่งได้เห็นอาการของอีกฝ่ายทำให้เธอยิ่งพอใจ เพราะนั่นคือสิ่งที่ดิษยาต้องการให้เป็นตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว




***   ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------   ***


                ทานตะวันเดินใจลอยไปเรื่อยๆ ตามทางมีแต่นักศึกษาพูดถึงแต่เรื่องพี่แพรธารา เธอรู้สึกอยากหนีกลับบ้าน แต่เหมือนกับว่ายิ่งหนีโชคชะตาก็ยิ่งแกล้งทำให้เธอต้องเจอ

        "มาแล้ว มาแล้ว" เสียงนักศึกษาคนหนึ่งร้องขึ้น ทานตะวันทันไปตามเสียง

        แพรธารา เดินลงมาจากรถคันหรู รอบๆตัวเธอมี F4 ยืนอยู่รอบล้อม ทุกคนต่างดีใจในการกลับมาในครั้งนี้ของแพรธารา ทานตะวันอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ณาวา ถึงแม้ว่าเขาจะดูนิ่งที่สุดในบรรดาเพื่อนทั้งสาม แต่ทานตะวันก็รู้สึกได้ว่า ณาวารู้สึกอย่างไรผ่านแววตาของเขา

        "สวยมาก เหมาะกันมากจริงๆ" หนึ่งในกลุ่มนักศึกษาพูดขึ้นอีกครั้ง ทานตะวันได้แต่ยืนอยู่ข้างๆแบบไม่อยากฟังก็ต้องฟัง

        "กับคุณณาวาหรอ นี่เขายังคบกันอยู่หรอ"

        "ก็ใช่นะสิ" นักศึกษายังคงพูดถึงเรื่องนี้กันไม่เลิก ทานตะวันรู้สึกแย่ที่จะฟังเรื่องนี้ต่อไป จึงเลือกที่จะเดินหนีไปจากตรงนี้เองน่าจะดีกว่า

        ทานตะวันเดินไปที่ตึกอีกฝั่ง ที่หน้าตึกมีรูปของ F4 ติดอยู่ครบทั้ง 4 คน

       "พรีเซนเตอร์ของเเตมีย์ยูสินะ" ทานตะวันพูดขึ้นก่อนจะเดินไปที่รูปภาพ คงเป็นเพราะฝุ่นทำให้รูปภาพนั้นอาจเปื้อนไปบ้าง ทานตะวันล้วงผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋า ก่อนจะเช็ดไปยังรูปภาพนั้น ใครที่ผ่านมาเห็นคงคิดว่าเธอลำเอียง แต่ก็ช่างปะไร

        คงไม่ผิดอะไรใช่ไหม........ที่เธอจะเลือกเช็ดรูปในส่วนของณาวา....เพียงคนเดียว

        เตชินท์ ที่แอบยืนดูอยู่เห็นอย่างนั้นก็แอบนอยด์อยู่ไม่น้อย

        "ทานตะวันเค้าชอบคุณณาวาค่ะ" ดิษยาที่แอบยืนดูเตชินท์อยู่ เธอพูดขึ้นอยู่ข้างหลังของเขา เตชินท์ได้ประโยคที่เธอพูดอย่างชัดเจน
        
        "ฉันไม่ได้ถาม และถ้าไม่จำเป็น ทั้งฉันและเธอไม่เห็นต้องมีเรื่องที่จะคุยกัน เด็กทุนน่าจะรู้กฏนี้ดีกว่าใครนะ"

        เตชินท์บอกอีกฝ่ายอย่างเย็นชาเหมือนเช่นเคย ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง โดยไม่หันมามองดิษยาแม้แต่น้อย ดิษยาได้แต่มองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแค้นใจ คำที่เธอเกลียดที่สุด ที่ได้ยินจากปากของเตชินท์บ่อยที่สุด คือคำว่า...เด็กทุนน่าจะรู้กฏนี้ดีกว่าใคร

        "แล้วยังไงค่ะ ยัยทานตะวัน ก็เป็นเด็กทุนเหมือนกัน แถมยังแหกกฏเกือบทุกอย่าง ทำไมคุณต้องมองยัยนั่นด้วยสายตาแบบนั้นด้วย"

        ดิษยาพูดบ่นกับตัวเองเบาๆ ถ้าทำได้เธออยากจะตะโกนให้เตชินท์รับรู้ความรู้สึกของเธอ เผื่อเขาจะหันมามองเธอบ้างก็ยังดี

        เตชินท์ แม้จะเดินออกจากตรงนั้นมาแล้ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองทานตะวันอีกครั้ง ทานตะวันยังคงยืนอยู่ที่เดิม

        "ทานตะวันเค้าชอบคุณณาวาค่ะ" เสียงของดิษยาดังขึ้นมาในความคิดของเขาอีกครั้งอย่าง...ซ้ำไปซ้ำมา

        "เธอนี่! ชอบทำร้ายความรู้สึกของตัวเองนักหรือไง ทำไมไม่มองมาทางนี้บ้าง" เตชินท์พูดเบาๆเพราะกลัวว่าบอดี้การ์ดของเขาจะได้ยิน

        "ก็บอกเขาตรงๆไปเลยสิ" เตชินท์นึกถึงคำพูดของชายวีย์  "รู้แล้วนะต้องทำไง" คำพูดของคิรินท์ก็ลอยมาในความคิดของเขาเช่นกัน เตชินท์มองทานตะวัน เขามีแผนการบางอย่างซ่อนอยู่ เตชินท์หันไปกระซิบบอกลูกน้องของเขา อีกฝ่ายพยักหน้ารับคำสั่งทันที

***   ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------   ***


                ทานตะวันเข้าไปสงบจิตใจที่ห้องสมุด ความพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มที่จะแข่ง มันเจ็บปวดอย่างนี้นี่เอง ทานตะวันฟุปหน้าลงบนหนังสือที่กางอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะหลับตาลงช้าๆ เพื่อที่ต้องการพักสายตาและพักความวุ่นวายในหัวใจ

        "จิ๊บ...จิ๊บจิ๊บ" เสียงนกร้องที่ริมหน้าต่างปลุกให้ทานตะวันลืมตาขึ้นมา ทานตะวันมองภาพนั้นทั้งๆที่ยังฟุปอยู่บนหนังสือ

        "น่ารักจัง" ทานตะวันเผลออุธานออกมาเมื่อได้เห็นนกน้อยตัวนั้น

        "อืมมม ใช่น่ารักดี" เสียงใครอีกคนดังขึ้นจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ทานตะวันเงยหน้าขึ้นมาดู เธอก็ต้องตกใจกับภาพที่ได้เห็น

        "คุณณาวา" ทานตะวันร้องขึ้น เสียงของเธอดังจนทำให้นักศึกษาที่อ่านหนังสืออยู่หันมาดูเธอด้วยสายตาเชิงตักเตือน

        "ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ" ทานตะวันเอ่ยขอโทษนักศึกษาเหล่านั้นเบาๆ พร้อมกับก้มตัวลงเล็กน้อย ณาวาที่มองดูอยู่อดขำไม่ได้

        "คุณมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงค่ะ" ทานตะวันถามอย่างอดสงสัยไม่ได้

       "ก็เดินเข้ามาตรงประตู" ณาวาตอบแอบกวน พร้อมกับหันหน้าไปที่ประตู

        เสียงหัวใจของเธอเต้นแรงมาก เธอหันหน้าหนีไปอีกทางเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกถึงความในใจที่ซ่อนอยู่ในตอนนี้ของเธอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่