“ติ๊ก เจษฎาภรณ์” เผยภรรยาเตรียมคลอดต้นปีหน้า ตอนนี้เครียดจนคิดชื่อลูกไม่ออก ชี้แจงขอไม่เข้าคอร์สคุณพ่อมือใหม่

“ติ๊ก เจษฎาภรณ์” ปลื้มจัด ภรรยาตั้งท้องลูกชายได้ 6 เดือนแล้ว โชคดีที่แพ้ท้องไม่หนัก คลอดต้นปีหน้า ตอนนี้เครียดจนคิดชื่อลูกไม่ออกแล้ว ชี้แจงไม่ขอเข้าคอร์สคุณพ่อมือใหม่เพราะตอนเด็กๆ เคยช่วยคุณแม่เลี้ยงน้องชายคนเล็กมาแล้ว


       
       ก่อนหน้านี้พระเอกสุดหล่อ “ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี” ออกมาบอกข่าวดีว่าภรรยาสาว “พีช สิตมน แตงสุวรรณ” ตั้งท้องลูกชายได้ 5 เดือนแล้ว ทำเอาหลายคนเซอร์ไพรส์และดีใจไปกับเจ้าตัวด้วย ล่าสุดว่าที่คุณพ่อคนใหม่มีคิวมาร่วมงาน “เปิดตัว iPhone 5s และ iPhone 5c กับทรูมูฟ เอช” ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ลาดพร้าว พร้อมเปิดเผยให้ฟังว่าตอนนี้อายุครรภ์ย่างเข้าสู่เดือนที่ 6 แล้ว แต่โชคดีที่ภรรยาแพ้ท้องไม่หนักเท่าไร
       



       “อย่างที่ทุกคนทราบว่ามันเป็นข่าวดีนะครับ ตอนนี้ก็ย่างเข้าสู่เดือนที่ 6 แล้ว เราก็ได้ไปอัลตร้าซาวด์เรียบร้อยแล้วครับได้ลูกผู้ชาย แต่จริงๆ ผมคิดอยู่แล้วไว้ว่ายังไงก็น่าจะได้ผู้ชาย ก็โอเคเพราะที่บ้านผมเองก็มีแต่ลูกผู้ชาย ส่วนกำหนดคลอด ถ้าไม่ปลายมกราคม ก็ต้นกุมภาพันธ์ครับ ถามว่าผมแพ้ท้องไหม ไม่เลยครับ แต่ว่าภรรยาตอนนี้ก็ไม่แล้ว จริงๆ แล้ว ก็ไม่ค่อยมีอาการแพ้อะไรมากเท่าไหร่”
       



       บอกตอนนี้เครียดมากจนคิดชื่อลูกไม่ออก

       “ตอนนี้ยังนึกไม่ออกเลยครับ คือเวลาเราซีเรียสอะไรหัวสมองตื้อๆไปหมด เพราะตอนแรกที่รู้เราก็ประหลาดใจว่าจริงหรือเปล่า แต่ตอนนี้ก็ปกติแล้วครับ เหมือนคุณพ่อทั่วๆ ไปว่าต้องทำอะไรบ้าง วันที่จะไปเห็นหน้าเขาครั้งแรกจะเป็นยังไง แต่ว่าขอให้เขาสุขภาพแข็งแรงปกติดี”
       



       เผยไม่ขอเข้าคอร์สคุณพ่อมือใหม่ เพราะตอนเด็กๆ ตนเองเคยช่วยคุณแม่เลี้ยงน้องชายคนเล็กมาแล้ว


       “สงสัยผมต้องไปฝึกกล้ามแขนเอาไว้อุ้มลูก (หัวเราะ) แต่ก็คงไม่ต้องขนาดเข้าคอร์สคุณพ่อหรอกครับ เพราะว่าสมัยผมเด็กๆ ผมเคยช่วยคุณแม่เลี้ยงน้องชายคนเล็กมาแล้ว ซึ่งเราก็จะคุ้นๆว่ามีขั้นตอนอะไรยังไงบ้าง แต่คิดว่าตอนนี้ต้องแบ่งเวลาต้องแยกระหว่างเรื่องงานกับเรื่องของน้อง แต่สุดท้ายแล้วเราก็คงยังไม่ทิ้งงาน ส่วนภรรยาตอนนี้ก็ให้พักงานแล้วครับ เรื่องสุขภาพก็ไม่ต้องห่วงเพราะมีคนรุมดูแลเยอะมาก ทั้งครอบครัวผมและครอบครัวของแฟนผม เขาดูแลให้เต็มที่เลย”






              http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000133416
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่