วันนี้วันที่เกือบจะว่าง จะมารีวิวนมและโยเกิร์ตไขมันต่ำ
ที่กินดีและมีประโยชน์ แถมไม่อ้วนเท่าไหร่ด้วยจ้า เลือกสรรกันทานกันน่ะ :')

ชนิด1 โยเกิร์ตดัชชี่ 0% ไขมัน  ให้พลังงานทั้งหมด 80 แคลอรี่


-โยเกิร์ตมีจุลินทรีย์แล็กโทบาซิลลัส บัลแกริคัสและเสตรปโทค็อกคัส เทอร์โมฟิลลัส
-ไม่มีไขมัน
-ไม่มีโคเลสเตอรอลน้ำตาลน้อยกว่าสูตรปกติ 50% มีน้ำตาลเพียง 8 กรัม หรือเท่ากับ 2 ช้อนชาจ้า หรือ 30 แคลลอรี่
-แคลเซียม มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง

ชนิดนนี้เราทานบ่อยมากทานทุกวันวันละ 2 ถ้วย แต่ทานแล้วแต่เบิร์นออกได้น่ะ

ชนิดที่สอง นมดัชมิลล์ ทำจากนมโคขาดมันเนย 100% รสชาติอร่อย ไม่มีไขมัน

-ดัชมิลล์ ขนาด 200 ml.    70 kcal น้ำตาล 9 กรัม ต่อ 1 หน่วยบริโภค

ชนิดที่3 นมขาดมันเนยไม่มีไขมัน เมจิ (200 มล.)


-พลังงานทั้งหมด 90 กิโลแคลอรี (พลังงานจากไขมัน 0 กิโลแคลอรี)
-น้ำตาล 11 ก.

ชนิดที่  4 นะค่ะ โยเกิร์ต เมจิ บัลแกเรีย รสธรรชาติน่ะ ย้ำ ย้ำ ย้ำ เลยจ้า


-พลังงานทั้งหมด 60 แคลอรี่ จากไขมัน 25 แคลอรี่ ยังรับได้อยู่เนอะ
- น้ำตาลมีเพียง 4 กรัมเท่านั้น ต่างจากรสกลมกล่อมมีถึง 15 กรัมเลยน่ะสำหรับน้ำตาล

แต่ละอัน เราแค่ให้ดูที่เราทานน่ะ ขอบอกว่าเวลานำไปแช่ห้องฟีตเป็นน้ำแข็ง ตักออกมาฟินมากก ><

ใครมีอะไรเสริมก็สามารถแนะนำได้น่ะ



แท๊น แท่น แท่น บัดนนี้มาดูประโยชน์ของเจ้าพวกนี้กันน่ะ

“นาฬิกาชีวิต”และ“จังหวะวงจรชีวิต”ดูกันซิว่า “นม” นั้นเหมาะกับร่างกายในช่วงเวลาไหนที่สุด

05.00-07.00          เค้าว่ากันว่าช่วงเช้าแบบนี้เป็นช่วงเวลาของการทำงานของลำไส้ใหญ่  ควรหัดขับถ่ายในช่วงเช้าให้เป็นนิสัย   การดื่มนมเปรี้ยวที่มีจุลินทรีย์จะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ใหญ่ทำงานได้ดี  รู้อย่างนี้ตื่นแล้วตรงรี่ไปที่ตู้เย็นหานมเปรี้ยวไม่มีไขมันเมจิ ไพเกนกันเลย

07.00-09.00  ควรทานอาหารเช้าอย่างเต็มที่เพราะเป็นมื้อแรกหลังจากร่างกายได้พักฟื้นจากการหลับยาว  ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาของกระเพาะ   ร่างกายต้องการพลังงาน  น่าจะลองเปลี่ยนจากกาแฟมาดื่มนมพาสเจอร์ไรส์รสกาแฟหรือนมรสช็อกโกแลต มอลต์ที่ให้พลังงานสนองต่อความต้องการของกระเพาะน่าจะเข้าท่ากว่าเยอะ

09.00-12.00  เป็นช่วงจังหวะของการเรียนและทำงาน  สมองต้องการถูกกระตุ้นเพื่อให้สามารถใช้ความจำได้เต็มที่  ถ้าเป็นไปได้ลองพักเบรกด้วยโยเกิร์ตเมจิ ไม่มีไขมัน บิวติไบรท์ซีรีส์ รสโคลีนบีด  ที่ให้ทั้งกลูโคสและกระตุ้นการทำงานเซลส์สมองช่วยให้ปลอดโปร่ง   จำและตัดสินใจได้ฉับไว

ต่อไปเรามาดูสถติเกี่ยวกับการดื่มนมกันดีกว่า



ที่น่าสนใจกว่าคือมีประเทศที่พัฒนาแล้วแต่ยังมีอัตราการดื่มนมอยู่ในระดับต่ำ  ได้แก่

· ญี่ปุ่นดื่มนมกันแค่ 76 ลิตร/คน/ ปี ลิตรต่อคน/ ปี (ไม่รู้ว่าเพราะถูกชาเขียวแซงไปรึไง)  
· ประเทศขวัญใจวัยทีนอย่างเกาหลีใต้ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่เพราะดื่มนมเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 57  ลิตร/คน/ ปี (เห็นแล้วเริ่มเป็นห่วงอนาคตของหนุ่มๆ K-POP  ยักย้ายส่ายสะโพกกันขนาดนั้น  ถึงหน้าหล่อก็กระดูกฝ่อได้นะนี่   เห็นทีแม่ยกคงต้องหอบนมไปซารังเฮโยกันหน่อยแล้ว)
ตรงข้ามกับประเทศที่กำลังพัฒนาบางประเทศกลับมีอัตราค่าเฉลี่ยการบริโภคนมสูงกว่าอีก   อาทิเช่น
· ประเทศซูดานและปากีสถานที่ถึงจะยากจนแต่เค้าดื่มนมเฉลี่ยแล้ว 230 ลิตร/คน/ ปี เชียวนะ  
ยิ่งถ้าประเทศคาซักสถานแล้วยิ่งนำโด่งไปที่  330 ลิตร/คน/ ปี เรียกได้ว่าดื่มนมกันเฉลี่ยแล้วเกือบ 4 แก้วต่อวัน สูงกว่าพวกยุโรปสูงยาวเข่าดีซะอีกนะนั่น
จากผลสำรวจนี้ทำให้พอสรุปได้ว่าอัตราการดื่มนมนั้นไม่ได้กำหนดด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจแต่ผูกติดอยู่
กับวัฒนธรรมการกินของแต่ละท้องถิ่นมากกว่า  
-ส่วนประเทศที่ผลิตนมวัวได้มากที่สุด คือ  อินเดีย  รองลงมาคือ  อเมริกา  ปากีสถาน จีนและเยอรมัน  แต่อินเดียกับปากีสถานนั้นแค่ผลิตไว้ดื่มกินกันเองในประเทศมากกว่าจึงทำให้ประเทศที่ส่งออกนมมากที่สุดในโลกกลายเป็น  ประเทศนิวซีแลนด์  เยอรมัน   เนเธอร์แลนด์  ฝรั่งเศสและเบลเยี่ยม  ตามลำดับ  บ้านเราเองก็ยังต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์นมจากประเทศเหล่านี้ในรูปของนมผงสำหรับทารกและนมผงขาดมันเนยเพื่อนำมาใช้ในอุตสาหกรรมนมบ้านเราจำนวนไม่น้อย

ฮั่นแน่…เห็นคนทั่วโลกเค้าดื่มนมกันแล้ว   ทีนี้คงอยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่าแล้วคนไทยเราดื่มนมกันมากน้อยแค่ไหน  
จากข้อมูลที่สำรวจล่าสุดพบว่าคนไทยดื่มนมเฉลี่ยอยู่แค่  13.02 ลิตร/คน/ ปี หรือพูดให้ใจแป้วง่ายๆก็คือ
คนไทยดื่มนมโดยเฉลี่ยแล้วสัปดาห์ละ 1 แก้วเท่านั้น  ทั้งๆที่เด็กไทย ควรดื่มนม วันละ 2-3 แก้ว
ส่วนผู้สูงอายุควรดื่มให้ได้วันละ 1-2 แก้วเลยด้วยซ้ำ  

นอกจากจะดื่มนมไม่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันแล้ว  อัตราค่าเฉลี่ยการดื่มนมของไทย
ยังต่ำกว่าอัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งอยู่ที่  58.9 ลิตร/คน/ ปี เรียกได้ว่าคนไทยนั้นยังดื่มเหล้ามากกว่าดื่มนมถึง 4 เท่าทีเดียว !!!

องค์การอาหารแห่งสหประชาชาติ หรือ The Food and Agriculture Organization หรือ FAO กำหนดให้วัน ที่ 1มิถุนายน ของทุกปี เป็น “วันดื่มนมโลก” (World Milk Day)  แต่น่าจะดีกว่าถ้าคนไทยหันมากู้หน้าด้วยการงดเหล้าแล้วมาดื่มนมโคจากเต้ากันให้ได้ทุกวันนะจ๊ะ

อึดอัดอยากระบายนมช่วยได้


วิธีดีท็อกซ์ที่ถูกวิธีก็คือการดีท็อกซ์ด้วยการเติมแบคทีเรียรักดีเข้าสู่ลำไส้   ในนมเปรี้ยวนั้นมีการคัดจุลินทรีย์ตัวดีเอาไว้   เราจึงควรดึงจุลินทรีย์ดีๆจากนมเปรี้ยวให้มารับบทบู๊คอยไล่มารอย่างสารพิษออกไป  ยิ่งโดยเฉพาะไขมันที่จับตัวเป็นคราบไคลอยู่ในลำไส้ถ้าอยากจะจับมาขัดถูให้เหมือนคราบไขมันตามจานชาม   วันนี้เราขอแนะให้ลองผสมสูตรนมเปรี้ยวดีท็อกซ์แบบแม่บ้านสมองไวที่ให้ผลในการกำจัดคราบมันประหนึ่งน้ำยาล้างจานกลิ่นมะนาวตามโฆษณาเชียวล่ะ  ส่วนผสมก็แสนง่าย  ได้แก่

-โยเกิร์ตรสธรรมชาติตรา เมจิ 1 ถ้วย
-นมโคสดแท้ เมจิพาสเจอร์ไรส์รสจืด  1 ถ้วย
-น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำมะนาวคั้นสด  1  ลูก
ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีก่อนจะดื่ม  นมเปรี้ยวสูตรดีท็อกซ์นี้จะเข้าไปขจัดคราบไขมันที่สะสมอยู่ตามลำไส้พร้อมกับช่วยระบายเหล่าร้ายออกจากร่างกายให้เร็วที่สุด  เพราะถ้าเกิดเรายังเก็บหมักหมมสะสมของเสียเอาไว้  สารพิษที่ตกค้างจะถูกดูดซึมซับเข้าไว้ในร่างกายก่อให้เกิดเซลส์มะเร็งทำให้มีโอกาสเสี่ยงจะเป็นมะเร็งลำไส้   ถ้าเป็นไปได้จึงไม่แนะนำให้งกเก็บอัดอั้นความทุกข์ไว้แบบเหมาจ่ายควรจะหาทางระบายของเสียออกไปให้ได้แบบรายวันนะจ๊ะ

นอกจากนี้ติดบุหรี่นมก็ช่วยได้น่ะ
เป็นที่รู้กันว่าบุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพปอด ระบบทางเดินหายใจ สร้างริ้วรอยแก่ก่อนวัยให้กับผู้สูบ และควันบุหรี่เผื่อแผ่พิษภัยมาถึงคนใกล้ตัว โดยไม่เลือก ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หญิง ชาย กระทั่งคนชรา

สำหรับคนที่เคยติดบุหรี่ และมีความตั้งใจแน่วแน่ที่ต้องการจะเลิกบุหรี่ ขอแนะนำตัวช่วยดีๆ ที่ประทานมาจากธรรมชาติ และราคาไม่แพงเหมือนกับหมากฝรั่งนิโคติน ลูกอมเลิกบุหรี่ หรืออุปกรณ์ช่วยอื่นๆ ที่ใช้เคี้ยว หรืออมเท่าไหร่ก็ยังไม่หายอยากสูบบุหรี่ซะทีสิน่า

ขอแนะนำ นมสดนี่ล่ะ แน่นอนที่สุด!

ว่าแต่ ทำไมน่ะหรือ?

ลองย้อนนึกดูนะ เคยรู้สึกไหมว่าเวลาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ หรือรับประทานเนื้อวัว จะทำให้การสูบบุหรี่เพิ่มจำนวนมวนมากขึ้นจนน่าตกใจ นั่นเป็นเพราะว่า เนื้อสัตว์ และเครื่องดื่มกาแฟ หรือแอลกอฮอล์ จะทำให้บุหรี่มีรสชาติอร่อยขึ้น (ฟังแค่นี้ก็อยากสูบบุหรี่แล้วใช่ไหม..หยุดน้ำลายสออยากสูบบุหรี่เดี๋ยวนี้นะ! )

เอาอย่างนี้ หากยังเลิกบุหรี่ไม่ได้ ลองเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบนมสดเมจิมาหนึ่งขวด รสอะไรก็ได้ตามชอบใจ ค่อยๆ ดื่มจนหมด ลิ้มรสอร่อยของนมสดเมจิให้ทั่วลิ้น

คราวนี้ อนุญาตให้สูบบุหรี่ได้ครึ่งถึงหนึ่งมวน..

แหวะ.. รสชาติแย่ใช่ไหม? นี่แหละ คุณสมบัติดีล้ำเลิศของนม ที่จะปกป้องคุณ และช่วยคุณให้เลิกบุหรี่ได้
เพราะนม จะทำให้ลิ้นเปลี่ยนการรับรสชาติของบุหรี่นั้นแตกต่างออกไปในทางที่แย่กว่าเดิม..จนคุณไม่รู้สึกว่าบุหรี่อร่อยน่าสูบอีกต่อไป

ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับอาหารชนิดต่างๆ
ที่ส่งผลทำให้การสูบบุหรี่ไม่อร่อยเหมือนเคย เพื่อจะได้ค้นพบการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติแก่ผู้ติดบุหรี่
โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ แถมยังส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว และวิธีการนี้จะช่วยลดงบประมาณ
ที่สูญเสียไปจากการรักษาผู้ป่วยเป็นมะเร็งในปอด และหลอดลมจากการสูบบุหรี่ ในแต่ละปีอีกด้วย
เปลี่ยนจากใช้นิ้วคีบบุหรี่มาเป็นคีบหลอดดื่มนมกันดีกว่า จะได้มีเวลาอยู่กับคนที่เรารักได้อีกนานๆ ไง!


*เห็นประโยชน์จากนมกันแล้วใช่ไหม มาดื่มนมและเลือกดื่มให้ถูกวิธีกันเถอะ หมั่นออกกำลังกายกันด้วยน่ะ
ข้อมูลพวกนี้เป็นสิ่งที่เราพบเจอด้วยตัวเอง และนำมารวมกับเว็บต่างๆ
ต้องขอขอบคุณข้อมูลดีดีจากหลายๆเว็บที่เรารวบรวมมาด้วยน่ะ*