มีช่างทำรองเท้าคนหนึ่งอาศัยอยู่กับภรรยาที่บ้านพัก ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งทำรองเท้า ทั้งวันเขาต้องทำงานอย่างหนัก แต่ก็ไม่มีใครจ่ายค่ารองเท้าเขาอย่างยุติธรรมเลยสักคนเดียว ทำให้เขากับภรรยายากจนเรื่อยๆ
วันหนึ่งช่างทำรองเท้าได้ให้ภรรยาดูแผ่นหนังผืนหนึ่ง
“นี่คืนหนังผืนสุดท้ายที่เรามี” เขากล่าว
“เมื่อใช้หมดแล้วก็จะไม่สามารถทำรองเท้าได้อีกเลย เราคงจะต้องอดอยาก บางทีอาจจะถึงกับอดตาย”
“มิน่าล่ะ ทำไมพี่ชายถึงดูเศร้าสร้อย” ภรรยาบอกกับเขา เธอเองก็รู้สึกเศร้า ช่างทำรองเท้าได้ตัดหนังผืนสุดท้ายเพื่อทำรองเท้าคู่สุดท้าย เขาวางหนังทิ้งไว้บนโต๊ะทำงานไว้อย่างนั้น
“ดึกแล้ว” เขากล่าว
“เราไปนอนกันเถอะ ผมจะเย็บเข้าเป็นรองเท้าในตอนเช้า”
“นี่ตา” เขาเรียกภรรยาเสียงดังในวันรุ่งขึ้น "ตา" เป็นชื่อภรรยาของเขาเอง
“มาดูอะไรนี่ เร็วๆ”
“มีอะไรเหรอ?” ภรรยาถามขณะที่เข้ามาในห้องทำรองเท้า บนโต๊ะมีรองเท้าคู่สวยวางอยู่
“พี่ชายตื่นขึ้นมาทำเมื่อคืนเหรอ?” ตาผู้เป็นภรรยาถาม ช่างทำรองเท้าส่ายหน้าเชิงปฏิเสธ
“ถ้าอย่างนั้นมันมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร?” เธอเองก็สงสัย
“ผมไม่รู้” ช่างทำรองเท้าบอกกับตา
“ใครก็ตามที่ทำรองเท้าคู่นี้ ต้องการจะให้เรา” เขาบอก
"ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่ทิ้งเอาไว้อย่างนี้" ช่างทำรองเท้านำรองเท้าคู่นั้นไปตลาดในเมือง เขาขายมันได้ราคาดีมาก เขากับภรรยา จะไม่อดตายในวันนั้น และวันต่อไป เมื่อซื้ออาหารแล้ว เขามีเงินเหลือพอซื้อหนังสำหรับทำรองเท้า เขาตัดหนังเตรียมไว้สำหรับทำรองเท้าและวางไว้บนโต๊ะ
“ผมจะเย็บมันในวันพรุ่งนี้” เขากล่าว
"นี่ตา มานี่เร็วๆ" ช่างทำรองเท้าร้องขึ้นในเช้าวันต่อมา
“มันเกิดขึ้นอีกแล้ว”
“ฉันไม่อยากจะเชื่อ” ภรรยาบอกเขา ที่บนโต๊ะนั้นมีรองเท้าทำสำเร็จสวยงามวางอยู่สองคู่
“ดูซิว่าฝีมือประณีตมาก” ช่างทำรองเท้ากล่าวกับภรรยา
"รอยเย็บดีจริงๆ"
“รองเท้าคู่งามครับ” เขาร้องเมื่อถึงตลาด
"รองเท้าคู่งามๆ" เขาขายรองเท้าทั้งสองคู่ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีและได้ราคาดีมากด้วย วันนั้นเขาซื้อหนังสำหรับทำรองเท้าสี่คู่ และดังนั้นเหตุการณ์ก็เป็นไปเช่นเดิมอีกทุกๆ คืน ช่างทำรองเท้าทิ้งชิ้นหนังตัดแล้วไว้บนโต๊ะทำงาน ทุกๆ เช้ารองเท้าก็ถูกเย็บเรียบร้อย เขาซื้อหนังมากขึ้น
วันหนึ่งภรรยาของเขาได้กล่าวขึ้นว่า “ฉันอยากจะรู้ ว่าใครเป็นผู้ทำรองเท้าเหล่านี้ให้เรา เราเป็นหนี้เขาสำหรับทุกอย่าง ฉันอยากจะขอบคุณเขา”
“ผมรู้ว่าจะทำยังไง” ช่างทำรองเท้ากล่าว คืนนั้นเขาได้วางชิ้นหนังบนโต๊ะเหมือนเช่นเคย เขาดับไฟเหมือนเคย แต่แทนที่เขาจะเข้านอนเช่นเคย ช่างทำรองเท้ากับภรรยาได้ซ่อนตัวในมุมมืดหลังเสื้อโค้ตที่แขวนไว้กับผนัง และรอคอยเวลาเที่ยงคืน เทวดาตัวเล็กๆ สององค์ได้ย่างผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง พวกเขานั่งขัดสมาธิและเริ่มเย็บรองเท้าโดยไม่ยอมเสียเวลาสักนาทีเดียว ครั้งเย็บถึงรูสุดท้ายแล้ว พวกเขาก็พากันจากไปเงียบ ๆ เหมือนเช่นขามา ช่างทำรองเท้ากับภรรยารีบไปยังหน้าต่างบานนั้นทันที
“เราต้องหาทางขอบคุณพวกเขา” ช่างทำรองเท้าบอก
“ช่างน่าสงสารจริงๆ” ภรรยากล่าวขึ้น
“พี่ชายสังเกตเห็นไหมว่า พวกเขาไม่มีเสื้อผ้าใส่เลย?”
“ผมจะทำรองเท้าให้พวกเขา” ช่างทำรองเท้าเอ่ยขึ้น
“ส่วนฉันก็จะตัดเย็บเสื้อกับกางเกงให้พวกเขาคนละชุด” ภรรยาช่างทำรองเท้าบอกเขา ช่างทำรองเท้าได้นำผืนหนังเนื้อนุ่มที่สุดที่เขามี มาทำรองเท้าคู่เล็กสองคู่ เขาไม่เคยทำอะไรเล็กเท่านี้มาก่อน ตาได้เลือกผ้าเนื้อละเอียดที่สุด และเย็บชุดใหม่เอี่ยมสองชุดเล็กๆ แล้วนางยังถักถุงเท้าคู่เล็กๆ สองคู่ด้วย นางไม่เคยทำอะไรเล็กเท่านี้มาก่อน
พอถึงคืนวันคริสต์มาส ของทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย คืนนั้นช่างทำรองเท้าได้นำเอาหนังทำรองเท้าทั้งหมดไปซ่อนไว้ใต้โต๊ะ แล้วนำชุดเสื้อผ้ารองเท้าใหม่เอี่ยมสองชุดเล็กๆ มาวางไว้แทนหนังรองเท้า แล้วทั้งคู่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด เมื่อเทวดาทั้งสองมองเห็นว่ามีสิ่งๆ หนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ พวกเขาได้ร้องออกมาด้วยความยินดี
“ต้องเป็นของขวัญสำหรับเราแน่เลย” พวกเขากล่าวขึ้น เทวดาทั้งสองสวมเสื้อผ้าเข้าไป ตลอดเวลาเหล่านี้ พวกเขาพากันยิ้มอย่างร่าเริง เทวดาผู้มีความสุขทั้งสองได้พากันเต้นรำอย่างรื่นเริงไปรอบโต๊ะ
“เราจะไม่ยากจนอีกต่อไปแล้ว เราไม่ต้องทำรองเท้าอีกต่อไป” พวกเขาร้อง และแล้วเทวดาทั้งสองได้พากันกระโดดผ่านหน้าต่างและหายตัวไป ช่างทำรองเท้ากับภรรยาไม่เคยพบเทวดาทั้งสองอีกเลย แต่พวกเขากลับโชคดียิ่งขึ้น รองเท้าที่ช่างทำรองเท้าทำ ขายได้ราคาดีพอ ๆ กับรองเท้าที่เทวดาเป็นคนทำ พวกเขาไม่ยากจนอีกต่อไป และมีชีวิตอยู่ด้วยความสุขสบาย
เราดัดแปลงมาจากเว็บ
http://www.school.net.th/library/create-web/10000/generality/10000-2550.html
ปล.ถ้าไม่พอใจอะไรก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยก็แล้วกันค่ะ
เทวดากับช่างทำรองเท้า
วันหนึ่งช่างทำรองเท้าได้ให้ภรรยาดูแผ่นหนังผืนหนึ่ง
“นี่คืนหนังผืนสุดท้ายที่เรามี” เขากล่าว
“เมื่อใช้หมดแล้วก็จะไม่สามารถทำรองเท้าได้อีกเลย เราคงจะต้องอดอยาก บางทีอาจจะถึงกับอดตาย”
“มิน่าล่ะ ทำไมพี่ชายถึงดูเศร้าสร้อย” ภรรยาบอกกับเขา เธอเองก็รู้สึกเศร้า ช่างทำรองเท้าได้ตัดหนังผืนสุดท้ายเพื่อทำรองเท้าคู่สุดท้าย เขาวางหนังทิ้งไว้บนโต๊ะทำงานไว้อย่างนั้น
“ดึกแล้ว” เขากล่าว
“เราไปนอนกันเถอะ ผมจะเย็บเข้าเป็นรองเท้าในตอนเช้า”
“นี่ตา” เขาเรียกภรรยาเสียงดังในวันรุ่งขึ้น "ตา" เป็นชื่อภรรยาของเขาเอง
“มาดูอะไรนี่ เร็วๆ”
“มีอะไรเหรอ?” ภรรยาถามขณะที่เข้ามาในห้องทำรองเท้า บนโต๊ะมีรองเท้าคู่สวยวางอยู่
“พี่ชายตื่นขึ้นมาทำเมื่อคืนเหรอ?” ตาผู้เป็นภรรยาถาม ช่างทำรองเท้าส่ายหน้าเชิงปฏิเสธ
“ถ้าอย่างนั้นมันมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร?” เธอเองก็สงสัย
“ผมไม่รู้” ช่างทำรองเท้าบอกกับตา
“ใครก็ตามที่ทำรองเท้าคู่นี้ ต้องการจะให้เรา” เขาบอก
"ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่ทิ้งเอาไว้อย่างนี้" ช่างทำรองเท้านำรองเท้าคู่นั้นไปตลาดในเมือง เขาขายมันได้ราคาดีมาก เขากับภรรยา จะไม่อดตายในวันนั้น และวันต่อไป เมื่อซื้ออาหารแล้ว เขามีเงินเหลือพอซื้อหนังสำหรับทำรองเท้า เขาตัดหนังเตรียมไว้สำหรับทำรองเท้าและวางไว้บนโต๊ะ
“ผมจะเย็บมันในวันพรุ่งนี้” เขากล่าว
"นี่ตา มานี่เร็วๆ" ช่างทำรองเท้าร้องขึ้นในเช้าวันต่อมา
“มันเกิดขึ้นอีกแล้ว”
“ฉันไม่อยากจะเชื่อ” ภรรยาบอกเขา ที่บนโต๊ะนั้นมีรองเท้าทำสำเร็จสวยงามวางอยู่สองคู่
“ดูซิว่าฝีมือประณีตมาก” ช่างทำรองเท้ากล่าวกับภรรยา
"รอยเย็บดีจริงๆ"
“รองเท้าคู่งามครับ” เขาร้องเมื่อถึงตลาด
"รองเท้าคู่งามๆ" เขาขายรองเท้าทั้งสองคู่ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีและได้ราคาดีมากด้วย วันนั้นเขาซื้อหนังสำหรับทำรองเท้าสี่คู่ และดังนั้นเหตุการณ์ก็เป็นไปเช่นเดิมอีกทุกๆ คืน ช่างทำรองเท้าทิ้งชิ้นหนังตัดแล้วไว้บนโต๊ะทำงาน ทุกๆ เช้ารองเท้าก็ถูกเย็บเรียบร้อย เขาซื้อหนังมากขึ้น
วันหนึ่งภรรยาของเขาได้กล่าวขึ้นว่า “ฉันอยากจะรู้ ว่าใครเป็นผู้ทำรองเท้าเหล่านี้ให้เรา เราเป็นหนี้เขาสำหรับทุกอย่าง ฉันอยากจะขอบคุณเขา”
“ผมรู้ว่าจะทำยังไง” ช่างทำรองเท้ากล่าว คืนนั้นเขาได้วางชิ้นหนังบนโต๊ะเหมือนเช่นเคย เขาดับไฟเหมือนเคย แต่แทนที่เขาจะเข้านอนเช่นเคย ช่างทำรองเท้ากับภรรยาได้ซ่อนตัวในมุมมืดหลังเสื้อโค้ตที่แขวนไว้กับผนัง และรอคอยเวลาเที่ยงคืน เทวดาตัวเล็กๆ สององค์ได้ย่างผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง พวกเขานั่งขัดสมาธิและเริ่มเย็บรองเท้าโดยไม่ยอมเสียเวลาสักนาทีเดียว ครั้งเย็บถึงรูสุดท้ายแล้ว พวกเขาก็พากันจากไปเงียบ ๆ เหมือนเช่นขามา ช่างทำรองเท้ากับภรรยารีบไปยังหน้าต่างบานนั้นทันที
“เราต้องหาทางขอบคุณพวกเขา” ช่างทำรองเท้าบอก
“ช่างน่าสงสารจริงๆ” ภรรยากล่าวขึ้น
“พี่ชายสังเกตเห็นไหมว่า พวกเขาไม่มีเสื้อผ้าใส่เลย?”
“ผมจะทำรองเท้าให้พวกเขา” ช่างทำรองเท้าเอ่ยขึ้น
“ส่วนฉันก็จะตัดเย็บเสื้อกับกางเกงให้พวกเขาคนละชุด” ภรรยาช่างทำรองเท้าบอกเขา ช่างทำรองเท้าได้นำผืนหนังเนื้อนุ่มที่สุดที่เขามี มาทำรองเท้าคู่เล็กสองคู่ เขาไม่เคยทำอะไรเล็กเท่านี้มาก่อน ตาได้เลือกผ้าเนื้อละเอียดที่สุด และเย็บชุดใหม่เอี่ยมสองชุดเล็กๆ แล้วนางยังถักถุงเท้าคู่เล็กๆ สองคู่ด้วย นางไม่เคยทำอะไรเล็กเท่านี้มาก่อน
พอถึงคืนวันคริสต์มาส ของทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย คืนนั้นช่างทำรองเท้าได้นำเอาหนังทำรองเท้าทั้งหมดไปซ่อนไว้ใต้โต๊ะ แล้วนำชุดเสื้อผ้ารองเท้าใหม่เอี่ยมสองชุดเล็กๆ มาวางไว้แทนหนังรองเท้า แล้วทั้งคู่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด เมื่อเทวดาทั้งสองมองเห็นว่ามีสิ่งๆ หนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ พวกเขาได้ร้องออกมาด้วยความยินดี
“ต้องเป็นของขวัญสำหรับเราแน่เลย” พวกเขากล่าวขึ้น เทวดาทั้งสองสวมเสื้อผ้าเข้าไป ตลอดเวลาเหล่านี้ พวกเขาพากันยิ้มอย่างร่าเริง เทวดาผู้มีความสุขทั้งสองได้พากันเต้นรำอย่างรื่นเริงไปรอบโต๊ะ
“เราจะไม่ยากจนอีกต่อไปแล้ว เราไม่ต้องทำรองเท้าอีกต่อไป” พวกเขาร้อง และแล้วเทวดาทั้งสองได้พากันกระโดดผ่านหน้าต่างและหายตัวไป ช่างทำรองเท้ากับภรรยาไม่เคยพบเทวดาทั้งสองอีกเลย แต่พวกเขากลับโชคดียิ่งขึ้น รองเท้าที่ช่างทำรองเท้าทำ ขายได้ราคาดีพอ ๆ กับรองเท้าที่เทวดาเป็นคนทำ พวกเขาไม่ยากจนอีกต่อไป และมีชีวิตอยู่ด้วยความสุขสบาย
เราดัดแปลงมาจากเว็บ http://www.school.net.th/library/create-web/10000/generality/10000-2550.html
ปล.ถ้าไม่พอใจอะไรก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยก็แล้วกันค่ะ