จากเภสัชกรถึง Beauty blogger…กรุณาประกอบอาชีพอย่างมีจรรยาบรรณและให้เกียรติวิชาชีพอื่นด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขออนุญาตแนะนำตัวว่าเป็นเภสัชกรคนหนึ่งที่ได้ทำหน้าที่ปฏิบัติงานทั้งในร้านยาและโรงพยาบาล นอกจากนี้ดิฉันยังมีความสนใจในเรื่องเครื่องสำอาง จึงเป็นผลให้ได้มาทำงานในวงการเครื่องสำอาง และเคยได้พูดคุย และติดตามอ่านผลงานของ beauty blogger หลายๆท่าน ซึ่งก็ชื่นชมหลายๆท่าน และเป็น follower ของ beauty blogger หลายๆคน ซึ่งก็ชื่นชมในอาชีพนี้ค่ะที่สามารถทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการเสริมความงามต่างๆ ดังนั้นการตั้งกระทู้วันนี้ ไม่ได้ทำเพราะมีอคติกับอาชีพ beauty blogger อย่างแน่นอนค่ะ
แต่เหตุการณ์ที่ทำให้ต้องออกมาโวยวายดังๆวันนี้ คือเหตุการณ์ที่มี beauty blogger ที่มีชื่อเสียงโด่งดังท่านหนึ่ง ได้กระทำการวิจารณ์ (ด้วยความคิดเห็นส่วนตัว???) ผ่านสื่อที่อยู่ในมือเธอทั้ง facebook fanpage และ instagram ว่าเธอมีปัญหาเรื่องมีผื่นขึ้นนิดหน่อยที่ไหล่ และได้ไปปรึกษาเภสัชกรที่ร้านยาในพารากอน จากนั้นเธอได้ยาทาที่เป็นสเตียรอยด์ความแรงสูงมากมาทา จนผื่นเธอแย่ลง ทำให้เธอไม่ปลื้มกับเภสัช วันหลังเธอจะไม่ไปปรึกษาเภสัชโดยเด็ดขาด จะไปหาหมอเท่านั้นพร้อมทั้งเลือกทำการรักษาด้วยการยิงเลเซอร์และ check-in สถานที่เสร็จสรรพ เป็นคลีนิกผิวหนังและความงามแห่งหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่เธอโพสท์ข้อความดังกล่าวได้ไม่นาน คาดว่ามีผู้ไปแสดงความไม่พอใจ ทำให้เธอลบข้อความดังกล่าวออกไป พร้อมทั้งตั้งสเตตัสขออภัยเภสัชกรออกมาภายหลังค่ะ




ซึ่งการขออภัยดังกล่าว ดิฉันในฐานะเภสัชกรเห็นว่าเหมาะสมดีแล้วค่ะ และยินดีให้อภัยกับ beauty blogger ท่านนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากบอกไปถึงเหล่า beauty blogger ทุกๆท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของข้อความดังกล่าว ก็คือ


1.“เภสัชกร” เป็นวิชาชีพ ที่มีเกียรติและจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพค่ะ การจ่ายยาของเรากระทำไปโดยการซักประวัติและพิจารณาอาการของผู้ป่วยร่วมกัน และหากเรารู้สึกว่าเกินกำลังของเรา แน่นอนว่าเราย่อมจะส่งต่อผู้ป่วยไปยังแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคมากกว่าค่ะ เรื่องการให้ยาที่ทำให้อาการของโรคเลวลง หรือยาแรงเกินความจำเป็น ไม่ได้อยู่ในสิ่งที่พวกเราถูกสอนมาค่ะ เรียนตามตรงว่าไม่พอใจกับข้อความที่บอกว่า “เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าซื้อยาตามร้านกับเภสัชกร”

2. การที่คุณเป็น beauty blogger ที่มีคนติดตามจำนวนมาก คุณควรระวังทุกเรื่องที่คุณจะเขียนลงในหน้าเพจของคุณ จะเขียนเรื่องส่วนตัว แชร์ความรู้สึก แชร์ความคิดเห็น ไม่ใช่เรื่องผิดค่ะ แต่ข้อความที่คุณพาดพิงถึงวิชาชีพอื่นๆแบบนั้น ถึงแม้จะบอกว่าเป็นความคิดส่วนตัวก็ตาม มันสมควรแล้วหรือคะ? เมื่อการแสดงความคิดส่วนตัวของคุณหนึ่งครั้ง อาจมีคนเข้ามาเห็นและอ่านมากถึงครึ่งแสน เพจของคุณก็ไม่ต่างจากสื่อประเภทหนึ่ง คุณเป็นผู้มีอิทธิพลต่อความคิดของผู้บริโภค (อย่าเถียงว่าไม่จริงค่ะ เพราะไม่อย่างนั้น บริษัทเครื่องสำอางคงไม่จ้าง blogger ชื่อดังที่มีอัตราค่าตัวหลายหมื่นในทำคลิปรีวิวเพียงคลิปเดียว) ดังนั้นขอความกรุณาช่วยคิดก่อนเขียนค่ะ และจำเป็นอย่างมากที่จะต้องคิดให้เยอะๆด้วยค่ะ เพราะ beauty blogger ก็ควรมีจรรยาบรรณของอาชีพเหมือนกันในการพิจารณาข้อมูลต่างๆก่อนนำมาเผยแพร่ และตามมารยาททางสังคมแล้ว ไม่ว่าจะประกอบอาชีพใดๆ เราก็ควรให้เกียรติอาชีพอื่นๆเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วค่ะ

3. ดิฉันเป็นคนใจแคบ และอคติหรือไม่ ในเมื่อมีการขออภัยแล้ว ก็ไม่ควรมาตั้งกระทู้นี้หรือไม่?...ยินดีให้มองแบบนั้นได้ค่ะ และขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวกับเภสัชกรท่านอื่นๆค่ะ
“เภสัชกร” เป็นวิชาชีพของดิฉันที่จะติดตัวไปจนวันตาย เป็นวิชาชีพที่ดิฉันรัก สิ่งที่ดิฉันเห็นคืออาจารย์ เพื่อนและรุ่นพี่รุ่นน้องหลายๆท่านของดิฉันทำงานหนักมาก เพื่อการดูแลผู้ป่วย บางคนอยู่โรงพยาบาลมากกว่าอยู่บ้าน เจอผู้ป่วยมากกว่าพ่อแม่ตัวเอง ร้านยาบางแห่งเป็นเหมือนศูนย์กลาง เป็นที่พึ่งของชุมชน ทุกคนทำเพื่อมุ่งหวังจะยกระดับวิชาชีพเราให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น เพราะฉะนั้นการมีคนแสดงความคิดเห็นส่วนตัวโดยออกสื่อสาธารณะ และมีผลกระทบต่อความคิดเห็นของคนอื่นในสังคมที่อาจมองวิชาชีพเภสัชกรว่าไม่ดี แม้จะมีการออกมาขออภัยแล้ว แต่ดิฉันรู้สึกได้ว่าเหมือนถูกตบหน้าแรงๆไปแล้ว ถึงแม้ใจจะยินยอมให้อภัย แต่รอยแดงบนใบหน้ามันไม่จางหายไปง่ายๆหรอกค่ะ จึงต้องตั้งกระทู้นี้เพื่อหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวอีก ทั้งจาก beauty blogger ท่านใดๆก็ตาม นอกจากนี้ยังหวังให้ beauty blogger ทุกท่าน ให้เกียรติวิชาชีพอื่นๆด้วยค่ะ ถ้าคุณรักในงานที่คุณทำ เราก็รักในวิชาชีพของเรามากเช่นเดียวกัน


4. สุดท้ายขอแก้ไขความเข้าใจที่คุณเผยแพร่ผิดๆไปนะคะ ยาที่คุณกล่าวอ้างว่าเภสัชกรจ่ายมาให้นั้น เป็นสเตียรอยด์ความแรง medium potency หรือความแรงปานกลางค่ะ ไม่ใช่สูงมาก และจากลักษณะผื่นที่คุณเป็น คาดว่าเป็นลักษณะของรูขุมนอักเสบ (folliculitis) ซึ่งจะรักษาโดยการให้ antibiotics หรือเรียกว่า “ยาฆ่าเชื้อ หรือ ยาปฏิชีวนะ” ค่ะ การเรียกว่า “ยาแก้อักเสบ” อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ว่าเป็นยาที่ลดการบวม แดง ร้อน (inflammation) ซึ่งอาจทำให้เข้าใจได้ว่าคุณหมอที่คุณไปรักษาก็ให้สเตียรอยด์มาด้วยเหมือนกันค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่