การศึกษาไทยให้อะไรกับเยาวชน

ทุกวันครูทุกกลุ่มวิชาต้องเข้าประชมวิชาการเพื่อเตรียมประเมินโน้นนั่นนี่ การสอนกลายเป็นงานรอง งานประเมินเป็นงานหลัก ทั้งครูและเด็กต่างช่วยกันสร้างชิ้นงาน สร้างสถานการณ์เพื่อรองรับการประเมินภายนอก  ครูแนะแนวแต่ก่อนเคยมีหน้าที่ช่วยเหลือเด็กๆที่มีปัญหา ช่วยแนะนำการศึกษาต่อกลับมีหน้าที่ให้เด็กๆทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อสร้างเหตุการณ์เอกสารประเมินและบอกว่า นี่คือคำสั่งจาก สพฐ .. มันคงเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทุกคนคงทำกันไปเรื่อยๆตามคำสั่งหากวันนี้ ดิฉันไม่ได้รับข่าวร้ายว่า เด็กประจำชั้นของดิฉิน กินยาฆ่าตัวตาย และได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบหรือเปล่าไม่แน่ใจ..
เด็ก วิ่งมาหา ชวนไปงานศพเพื่อน เด็กสาวคนหนึ่งทีเคยร่าเริง แปรเปลี่ยนเป็นหงอยเหงา ดวงตามีแววหวาดกลัว เฝ้าเพียรถามดิฉันว่าทำไมเพื่อนถึงกินยาฆ่าหญ้า ทำไมเพื่อนถึงเลือกความตาย ..ดิฉันก็บอกว่า ช่างเขาเถอะจะเพราะอะไร เราไม่ต้องอยากรู้ ปัญหาคงหนัก หากเรารู้ภาพสวยงามของเพื่อนที่เก็บไว้อาจเปลียนก็ได้ สู้ไม่รู้ดีกว่า .. เด็กๆ 10 คนมองหน้ากันไปมา ไม่มีใครรู้สาเหตุว่าเพราะอะไร แล้วจุ่ๆ เด็กคนหนึ่งก็ น้ำตาไหลพรู เด็กคนนั้นปกติร่าเริง ร้องเพลงเก่ง เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆเสมอ ทุกคนตกใจ ขอเรียกเธอว่า น้ำฝน เธอเล่าว่า เธอมีพ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงหยาบคาย เธอต้องระวังตัวทุกฝีก้าว พออีกคนพูด คนต่อมมก็ร้องไห้ บอกว่า ครุหนูก็เหมือนกัน มีปัญหาทางบ้าน อีกคนบอกว่า หนูเคยจะผูกคอตายแต่น้องเห็นมาห้ามไว้ .. ยอมรับว่าตกใจมาก เด็กประจำชั้นโดยภาพรวมดูสดใส มาจากครอบครัวดีงาม 10 คนมีปัญหาครอบครัว 8 คน ทุกคนตั้งใจเรียนเพื่อจะมีอนาคตที่ดี บางคนโอดครวญว่า "ครู ทำไมโรงเรียนสนให้งานหนูทำ เช่นโครงงาน โครงการ และโน้นนั่นนี่มากมาย "

ความรู้สึกหดหู่จึงเกิดขึ้นกับดิฉัน ทำไม ครูทุกคนทำเอกสารประเมิน ทำไมครูแนะแนวบังคับนักเรียนทำสาธารณประโยชน์ ปล่อยให้เด็กแก้ปัญหาชีวิตด้วยตัวเอง  บางทีเขายอมเปิดใจกับครูมากกว่าพ่อแม่ เช่นกรณีดิฉัน หากเด็กคนที่จากไป เปิดใจก่อนหน้านี่ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิด

โปรดหยุดการประเมิน หยุดการตรวจเอกสาร หยุดสร้างภาพ หยุดหลอกตัวเอง หันมาช่วยกันเยียวยาจิตใจ หันมาแก้ปัญหาให้ชีวิตเด็กๆให้ผ่านพ้น วิกฤตกันเถอะค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่