นิทานขนานโลก#13 ตลกคาเฟ่

“ขะ ขะ ขะ ขี้!!”

เสียงหัวเราะลั่นไปทั่วคาเฟ่ ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง คนแก่ หรือเด็ก

บรรยากาศในคาเฟ่เต็มไปด้วยแสงไฟหลากหลายสี

“หนึ่ง สอง สาม”

“ปลาฉลามขึ้นบก”

“สี่ ห้า หก”

“จิ้งจกยัดไส้”

“ไอแอมซอรี่”

ผัวะ เสียงตบดังๆ พร้อมกับจังหวะกลอง ตะลึง ตึง โป๊ะ!

“ตบกูทำไม??”

“แล้วมาจั๊กกะจี้กูทำไม!”

“ก็ ไอแอมซอรี่ จั๊กกะจี้หัวใจ”

ตะลึง ตึง โป๊ะ! เสียงกลองดังขึ้นตามจังหวะเรียกเสียงฮา

“แหม แล้วดันมาจั๊กกะจี้ตรงจุด! ด้วย เอาซะเคลิ้มเลย”

ผู้คนในคาเฟ่ยังหัวเราะให้กับการทำท่าทางและเสียงของนักแสดงตลก



แต่



ในขณะการแสดงนั้น

ก็มีการสนทนาภายในโต๊ะๆหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากเวทีพอประมาณ

“ฉันว่าไม่ไหวแล้วนะ”

“มีอะไรเหรอ?”

“ก็ตั้งแต่ดูมามีแต่มุขเสื่อมๆทั้งนั้นเลย”

“เอาน่า ก็มันเป็นตลกไง”

“ดูสิ เล่นแต่มุขที่ไม่ดีขนาดนี้แล้วเด็กมาดูก็จะได้รับสิ่งที่ไม่ดีทั้งนั้นแหละ”

เสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆจนโต๊ะข้างๆเริ่มหันมาดูกัน

“นี้ฉันว่านะ นี้เป็นจุดที่ทำให้เด็กเริ่มมีความคิดที่ไม่สร้างสรรค์กันซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาชาติที่เริ่มเสื่อมเหมือนทุกวันนี้”

“มันเยอะไปรึเปล่าเธอ”

“ไม่เยอะไปหรอก! ทุกวันนี้ที่เด็กหลายคนก้าวร้าวหรือมีความคิดแตกแยกไปจากคนสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็สาเหตุมาจากสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้นแหละ”

เสียงเริ่มดังจนคนทั้งร้านต้องหยุดที่จะมาฟัง

“นี้ที่ฉันคิดว่าฉันเอาความจริงมาพูดนี้มันผิดด้วยหรอ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเหตุผลนะ นักวิจัยก็บอกมาในหนังสือพิมพ์ นี้แหละคือตัวการทำให้เกิดปัญหาในบ้านเมืองต่างๆ แม้จะเป็นเพียงจุดเล็กๆก็ตาม!”

"ฉันว่าเธอคิดมากไปแล้วล่ะ!!"

"ฉันไม่ได้คิดมาก"

“แล้วทำไมคนเราถึงแต่งงานกับมนุษย์ต่างดาวได้ล่ะ?”

“จะเป็นไปได้ยัง เธอชักจะเพ้อเจ้อไปใหญ่ล่ะ”

“เธอนั้นแหละเพ้อเจ้อ! เพราะที่ฉันพูดมามันคือตัวละครในนิยายของเธอยังไง!!”



ความเงียบเข้ามาปกคลุมไม่มีเสียงหัวเราะใดๆเกิดขึ้น แม้แต่ นักแสดงตลกก็ไม่อาจจะทำให้เกิดเสียงหัวเราะได้



…………

……





ตะลึง ตึง โป๊ะ!

เสียงจากเด็กชายตัวเล็กๆร้องออกมา



และนั้นก็ทำให้ ทั้งคาเฟ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

ค่ำคืนนั้นถ้าถามว่ามุขอะไรโดนใจคนดูมากที่สุดก็คงจะเป็น



ตะลึง ตึง โป๊ะ!



……………………………………………………………





ตอนที่ 13 แล้วเย้ๆ!!

ตอนนี้ตั้งใจจะสื่ออะไร?

ผมเห็นว่าคนเดี๋ยวนี้ดูเครียดกันยังไงไม่รู้ สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่ามันเป็นสาเหตุเพราะว่า

“เราใช้สมองมากไป จนลืมที่จะใช้ใจ”

ผมว่าการดำเนินชีวิตไปบนโลกนี้บางเรื่องก็แทบไม่ต้องคิดอะไรมาก

เมื่อเราดูตลก มันก็เป็นแค่ตลก

เมื่อเราเขียนนิยาย สิ่งนั้นก็เป็นแค่นิยาย

ปล่อยมันเป็นไปตามเรื่องของมันนั้นแหละ

เรื่องที่จำเป็นต้องใช้ใจ แต่เราพยายามไปคิดมากกับมัน

ยิ่งจะทำให้เราเห็นเป็นแง่ร้ายมากขึ้น

แต่ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่ไม่ให้คิดอะไรเลยนะ

แต่ดูด้วยว่าเรื่องนั้นคือเรื่องอะไร

พยายามมองโลกให้มีความสุขเข้าไว้ แล้วคุณจะมีความสุขทุกวัน

อย่าคิดมากนะ!! ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่