พอดีเมื่อวานปวดหัวอย่างหนักค่ะ ไม่ได้เป็นโรคสำออยแต่อย่างใด วันนี้ตอนกลางวันก็เลยเล่าให้พี่อีกคนฟัง แกก็พูดซะจนเราเป็นคนป่วยเส้นเลือดสมองตีบ เราก็เถียงไปว่าไม่ใช่หรอก เราอ่านเจอว่าคนที่ป่วยเส้นเลือดสมองตีบมักจะมีอาการชาครึ่งตัวด้วย ของเราไม่ชา พี่แกก็บอกว่า เราจะไปอ่านที่ไหนมาก็ช่าง แต่คนที่แกรู้จักตอนนี้ป่วยอยู่ แล้วก็เป็นอัมพฤกษ์ อายุเพิ่งจะ 30 กว่าๆ ไม่มีอาการชาอะไรอย่างที่เราบอก


เราเคยปวดหัวไมเกรนค่ะ แต่ไม่บ่อยมาก ปวดครั้งหลังสุดน่าจะเกินปีแล้ว หนักบ้างเบาบ้าง แต่อาการแบบที่เราเป็นเมื่อวาน เคยเป็นประมาณ 2-3 ครั้งเมื่อสัก 3-4 ปีก่อน

ตอนแรกเราก็ออกจากบ้านมาทำงานปกติค่ะ ถึงที่บริษัทก็นั่งจิบกาแฟ เปิดเว็บไปเรื่อยๆ สักพักพี่เขาก็ลงมาส่งงานเราก็ยังปกติดี หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที เรามีอาการดังนี้ค่ะ

1.    ตาพร่าค่ะ... ตาพร่าที่ว่าคือ ตอนที่หยิบเอกสารขึ้นมา มันจะเหมือนมีเมฆดำกลุ่มหนึ่ง บดบังอยู่ ไม่ว่าจะเลื่อนสายตาไปทางไหนมันก็ตามไปบดบัง เราก็นั่งกดๆ คลึงๆ ตรงหัวตา และรอบดวงตาจนมันเป็นปกติ
2.    อาการต่อมาหลังจากที่หายตาพร่าแล้ว มีอาการปวดหัวด้านซ้ายรุนแรงตามมา
3.    มีอาการเหมือนคนโง่ คือคิดช้า สมองช้า.. พี่อีกคนส่งยา Bufen พร้อม Ranitidine มาให้ โดยปกติเราก็รู้อยู่แล้วว่า Ranitidine มันคือยาโรคกระเพาะ แต่ ณ เวลานั้นเรานึกไม่ออกค่ะ ได้แต่ย้อนถามว่ายาอะไร .. พอส่งยาคืน เราก็พูดคำว่า ขอบคุณค่ะ พี่............ พี่อะไรล่ะ เรานึกชื่อไม่ออก คลับคล้ายคลับคลา แต่ไม่แน่ใจว่าใช่ชื่อนี้ไหม
4.    จากนั้นมีอาการคลื่นไส้ วิ่งเข้าไปอาเจียนหมดไส้หมดพุงในห้องน้ำ 2 รอบ

หลังจากอาเจียนไปแล้ว อาการปวดหัวก็ค่อยๆ เบาลงในตอนใกล้ๆ เที่ยง พอตกบ่ายอาการปวดหัวก็หายสนิท เหลือแต่ความปวดร้าวที่หัว ถ้าสั่นหัวหรือกระเทือน ไอ จาม ก็จะเจ็บขึ้นมา พร้อมๆ กับหลงเหลืออาการปวดที่เบ้าตา

พอตอนเย็นได้กลับบ้านไปนอนวันนี้ก็เป็นปกติทุกอย่างค่ะ เหลืออยู่แค่อาการเหมือนคนนอนไม่พอ

เราคิดว่านี่เป็นอาการปวดไมเกรน แต่พี่อีกคนจะให้เราเป็นเส้นเลือดสมองตีบให้ได้ เลยอยากสอบถามทุกท่านว่าอาการนี้มันใช่ไมเกรนจริงหรือเปล่าคะ หรือจะเป็นเส้นเลือดสมองตีบ อย่างที่พี่เขาว่า