เราเพิ่งผ่อนรถหมดค่ะ ใช้เวลา 3 ปี ไม่เคยจ่ายเงินช้าเลยซักงวด เพราะตัดปัญหาด้วยการให้ลิสซิ่งตัดจากบัญชีเราเลย แต่ตอนนี้เราต้องจ่ายค่าโอนรถยนต์จากน้ำพักน้ำแรงของเรา 1400 บาท หากรับเล่มไปโอนเองต้องเสียค่าเอกสารจากบริษัท 300 บาท จริงๆเงินนะมีจ่าย ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาคือเรารู้สึกว่ากำลังถูกเอาเปรียบมากค่ะ เลยมีคำถามมาถามตามนี้

1. ในสัญญาระบุว่าเมื่อจ่ายเงินงวดสุดท้ายเรียบร้อยถือว่าสิทธิ์ของรถเป็นของเราโดยอัตโนมัติ ถ้าอย่างนั้นสมุดทะเบียนรถ ก็ต้องเป็นของเราด้วยสิคะ แล้วทำไมเราต้องจ่ายเงิน 1400 บาทเพื่อเอาของๆ เราด้วย

2. ในสัญญาระบุให้เราเป็นผู้ชำระค่าโอน หากประสงค์จะให้ลิสซิ่งโอนให้ (ประมาณข้อ 15) ซึ่งในการตีความของเราคือ ต้องเป็นไปตามที่กฏหมายกำหนด (ไม่น่าจะเกิน 200 บาท) อีกทั้งสัญญาไม่ได้ระบุว่าเราต้องชำระเงินค่าบริการในการโอน  อันนี้เราอ้างอิงตาม พรบ. ว่าด้วยสัญญาที่ไม่เป็นธรรม (เกี่ยวกับการรับภาระมากกว่าที่กฏหมายกำหนด)

3. อ้างจากประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง "ให้ธุรกิจรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา 2555" หน้าสุดท้ายข้อ (6) ที่เกี่ยวกับสัญญาของผู้ประกอบธุรกิจต้องไม่ใช่ข้อสัญญาที่เกี่ยวกับ "...การรับภาระผูกพันใดๆ เพิ่มเติมจากสัญญาเช่าซื้อ โดยผู้เช่าซื้อไม่ได้ยินยอมเป็นหนังสือ" นั่นคือเราก็ไม่ต้องจ่ายเงินค่าบริการโอนรถยนต์ด้วยสิคะ เพราะไม่ได้ถูกระบุไว้ในสัญญา

4. อย่างไรก็ตาม เรายังคิดว่าตัวเองอาจตีความเข้าข้างตัวเองมากเกินไปหน่อย เลยมาตั้งคำถามในที่นี้ เพื่อให้ผู้รู้ช่วยวิเคราะห์

5. แจ้งสคบ. แล้วค่ะ แต่หวั่นว่าสคบ.จะให้เราคุยอย่างสันติวิธี ซึ่งเราก็คุยนะ แต่กับเจ้าหน้าที่จากแผนกบัญชี ซึ่งเธอก็ตัดสินใจในส่วนของข้อกฏหมายไม่ได้ แล้วก็ไม่โอนสายเราให้ฝ่ายกฏหมายคุยอีกต่างหาก

เนื่องจากสิ่งที่เราเกลียดที่สุดคือการเอาเปรียบกันเองค่ะ อีกทั้งเมื่อศึกษาดูแล้วก็ยิ่งเคือง เพราะพบว่าหลายอย่างลิสสิ่งตุกติก จากการที่เราไม่ยอมอ่านสัญญาซื้อ/ขายให้ดี