ขอออกตัวก่อนนะครับ ว่าผมไม่ได้เป็นผู้เชียวชาญด้านภาษา แต่ก็มีความรู้พอตัว
และผมก็เป็นคนตรงๆ ด้วย จึงขอถกประเด็นความหมาย"หยาบคาย"ของคุณแตงโมสักหน่อยที่ว่าสื่อเนื่องจากพาดหัวว่าหยาบคายยังไง
ผมเคยได้ยินมาว่า คุณเคยให้สัมภาษณ์ว่าการศึกษาในระดับหมาวิทยาลัยไม่สำคัญ เพราะตอนนี้คุณสามารถหาเงินได้มากมายจากอาชีพดารา
แต่จากเหตุการณ์ที่คุณปะทะคารมกับแฟนคลับตัวเอง ทำให้ผมยิ่งตระหนักว่าการเรียนสำคัญ แค่ไหน โดยเฉพาะการอ่านจับใจความ และจับประเด็น เพราะพบว่าคุณแตงโมตีความผิดเต็มๆ รวมถึงคำว่า"ขอโทษ" ที่คุณพิมพ์ แล้วบอกว่าความหมายมันคือได้ขอโทษไปแล้ว แต่จริงๆ บริบทของข้อความมันไม่ใช่ sorry แต่เป็น excuse me
เอาล่ะผมจะไม่พูดถึงประเด็นเก่า แต่ขอพูดถึงเรื่องล่าสุดของคำว่า "โคตร" อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่า ภาษาไทยมันดิ้นได้ การจะตีความหรือ ข้อความ บางครั้งต้องอ้างอิงข้อความรอบด้าน บริบทของประโยค ซึ่งต้องบอกก่อนว่า จริงๆ แล้ว คำว่าโคตร [โคด, โคดตฺระ-] หมายถึง วงศ์สกุล, เผ่าพันธุ์, ต้นสกุล, จะเห็นว่าโดยรากศัพท์ มันไม่ได้เป็นคำหยาบคายเลย แต่คํานี้บางทีก็นําไปใช้ในความหมายไม่สุภาพหรือเป็นคําด่า
เช่น โคตรเอี้ย เลวโคตร แต่ด้วยเวลาผ่านไป ปัจจุบันคำว่าโคตรยังถูกแปลงมาใช้เป็นคำขยายบอกปริมาณ ที่แปลว่า มากๆ เช่น เล็กโคตร โคตรเจ็บเลย ซึ่งคำพวกนี้ อาจไม่ใช่คำสุภาพ แต่ไม่ได้ถือว่าเป็นคำหยาบคายอะไร จัดอยู่ใน ภาษาไม่เป็นทางการ
ทีนี้เรามาดูพาดหัวของนักข่าว ที่บอกว่า "โคตรเวอร์" ซึ่งปกติแล้วการพาดหัวของข่าว ต้องใช้คำน้อย เร้าอารมณ์ให้ผู้อ่านสนใจ ดึงสายตาจากผู้พบเห็น และอีกอย่าง คำว่า"เวอร์"ที่มาประกอบคำ ก็ไม่ได้หมายความไปในทางด่าเลย แต่หมายถึง มากเกินพอดี
อยากให้คุณแตงโมลองดูคำภาษาอังกฤษพวกนี้นะครับ เช่นคำว่า ฟั๊คคิ่ง บิ้วตี้ฟูล , แดม ฮอต ในกรณีนี้มันไม่ได้เป็นคำว่า แต่มันแปลว่า โคตรสวยเลยว่ะ , คุณโคตรเร่าร้อนเลย
ผมอยากให้คุณแตงโมลองมองโลกในอีกมุมบ้าง ใช่ว่าโลกนี้จะมีแต่สิ่งสวยกว่า แต่ก็ใช่ว่าโลกนี้จะไม่มีสิ่งดีๆ อยู่เลย
แค่คำชมคุณยังคิดว่าเค้าหลอกด่าคุณด่า นี่ผมขอซูฮกให้เลย เพราะขนาดผมยังคิดไม่ออกเลย
เอ่อ คุณแตงโมครับ ผมสงสัยตรรกความหยาบคายของคุณครับ
และผมก็เป็นคนตรงๆ ด้วย จึงขอถกประเด็นความหมาย"หยาบคาย"ของคุณแตงโมสักหน่อยที่ว่าสื่อเนื่องจากพาดหัวว่าหยาบคายยังไง
ผมเคยได้ยินมาว่า คุณเคยให้สัมภาษณ์ว่าการศึกษาในระดับหมาวิทยาลัยไม่สำคัญ เพราะตอนนี้คุณสามารถหาเงินได้มากมายจากอาชีพดารา
แต่จากเหตุการณ์ที่คุณปะทะคารมกับแฟนคลับตัวเอง ทำให้ผมยิ่งตระหนักว่าการเรียนสำคัญ แค่ไหน โดยเฉพาะการอ่านจับใจความ และจับประเด็น เพราะพบว่าคุณแตงโมตีความผิดเต็มๆ รวมถึงคำว่า"ขอโทษ" ที่คุณพิมพ์ แล้วบอกว่าความหมายมันคือได้ขอโทษไปแล้ว แต่จริงๆ บริบทของข้อความมันไม่ใช่ sorry แต่เป็น excuse me
เอาล่ะผมจะไม่พูดถึงประเด็นเก่า แต่ขอพูดถึงเรื่องล่าสุดของคำว่า "โคตร" อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่า ภาษาไทยมันดิ้นได้ การจะตีความหรือ ข้อความ บางครั้งต้องอ้างอิงข้อความรอบด้าน บริบทของประโยค ซึ่งต้องบอกก่อนว่า จริงๆ แล้ว คำว่าโคตร [โคด, โคดตฺระ-] หมายถึง วงศ์สกุล, เผ่าพันธุ์, ต้นสกุล, จะเห็นว่าโดยรากศัพท์ มันไม่ได้เป็นคำหยาบคายเลย แต่คํานี้บางทีก็นําไปใช้ในความหมายไม่สุภาพหรือเป็นคําด่า
เช่น โคตรเอี้ย เลวโคตร แต่ด้วยเวลาผ่านไป ปัจจุบันคำว่าโคตรยังถูกแปลงมาใช้เป็นคำขยายบอกปริมาณ ที่แปลว่า มากๆ เช่น เล็กโคตร โคตรเจ็บเลย ซึ่งคำพวกนี้ อาจไม่ใช่คำสุภาพ แต่ไม่ได้ถือว่าเป็นคำหยาบคายอะไร จัดอยู่ใน ภาษาไม่เป็นทางการ
ทีนี้เรามาดูพาดหัวของนักข่าว ที่บอกว่า "โคตรเวอร์" ซึ่งปกติแล้วการพาดหัวของข่าว ต้องใช้คำน้อย เร้าอารมณ์ให้ผู้อ่านสนใจ ดึงสายตาจากผู้พบเห็น และอีกอย่าง คำว่า"เวอร์"ที่มาประกอบคำ ก็ไม่ได้หมายความไปในทางด่าเลย แต่หมายถึง มากเกินพอดี
อยากให้คุณแตงโมลองดูคำภาษาอังกฤษพวกนี้นะครับ เช่นคำว่า ฟั๊คคิ่ง บิ้วตี้ฟูล , แดม ฮอต ในกรณีนี้มันไม่ได้เป็นคำว่า แต่มันแปลว่า โคตรสวยเลยว่ะ , คุณโคตรเร่าร้อนเลย
ผมอยากให้คุณแตงโมลองมองโลกในอีกมุมบ้าง ใช่ว่าโลกนี้จะมีแต่สิ่งสวยกว่า แต่ก็ใช่ว่าโลกนี้จะไม่มีสิ่งดีๆ อยู่เลย
แค่คำชมคุณยังคิดว่าเค้าหลอกด่าคุณด่า นี่ผมขอซูฮกให้เลย เพราะขนาดผมยังคิดไม่ออกเลย