แต่บังเอิญมาสะดุดกับคำว่า “ในฐานะเป็นคน 14 ตุลาคนหนึ่ง” ผมเลยเกิดความรู้สึกว่า ไม่ข้องแวะด้วยคงไม่ได้แล้วล่ะครับ เพราะคุณธีรยุทธกำลังจะทำให้กลุ่มคน 14 ตุลาที่ยอมพลีชีพเพื่อประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการต้องมัวหมอง มีมลทิน ซึ่งผมคงยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาดครับ

คุณธีรยุทธครับ ถึงแม้คุณธีรยุทธจะไม่ได้กลายพันธุ์อย่างโจ๋งครึ่มเหมือนคน 14 ตุลาหลายคน ที่ยอมมอบตัวถวายหัวให้กับเหล่าเผด็จการ แต่คุณธีรยุทธก็ได้แสดงอย่างโจ่งแจ้งแล้วว่า คุณธีรยุทธไม่ได้อยู่เคียงข้างประชาชนอีกต่อไป และอาจอิงแอบเผด็จการเสียด้วยซ้ำไป

ไม่อย่างนั้นคุณธีรยุทธจะไม่ทนนิ่งเฉย เมื่อมีการทำรัฐประหารยึดอำนาจประชาชน
ไม่อย่างนั้นคุณธีรยุทธคงจะไม่ปิดปากเงียบ เมื่อมีการสังหารประชาชนกลางเมืองหลวง

คุณธีรยุทธครับ คุณธีรยุทธอาจจะลืมกำพืดตัวเองได้ แต่คุณธีรยุทธจะต้องไม่ลืมคน 14 ตุลาที่ยอมพลีชีพ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เพราะนั่นเป็นอุดมการณ์ร่วมกัน แต่เมื่อคุณธีรยุทธลืมได้ นั่นย่อมแสดงให้เห็นแล้วว่า 14 ตุลาวันนั้น คุณธีรยุทธเพียงแต่พลัดหลงเข้าไปสู่วังวนความขัดแย้งแค่นั้นเอง ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า อะไรคือประชาธิปไตย อะไรคือเผด็จการเสียด้วยซ้ำไป

คงไม่ต่างกับเด็กมัธยม ช่างกลและเด็กรามฯบางกลุ่มที่กำลังทำตัวเป็นพวกกอบกู้ชาติด้วยการปิดถนนอุรุพงษ์ในเวลานี้ ต่างกันก็แค่คุณธีรยุทธมีโอกาสอยู่กับกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตย แต่อีกกลุ่มกำลังเรียกหาเผด็จการเท่านั้นเอง

เพราะถ้าคุณธีรยุทธมีจิตใจที่รักในประชาธิปไตยแค่ส่วนเสี้ยวในเดือนตุลาคราวนั้น ไม่ว่าคุณธีรยุทธจะมองคนเสื้อแดง เป็นการเรียกร้องเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของคุณทักษิณ หรือจะเป็นเพราะถูกชักจูงมาก็ตาม คุณธีรยุทธคงไม่ยอมให้รัฐบาลลุแก่อำนาจ ใช้อาวุธสงครามปราบปรามประชาชนที่มีแต่มือเปล่าๆได้หรอกครับ

คุณธีรยุทธคงจะไม่นิ่งเฉย เพราะคุณธีรยุทธล้วนแต่เคยผ่านเหตุการณ์นั้นมาแล้วทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการใส่ร้ายผู้ชุมนุมมีอาวุธ ใช้ความรุนแรง หรือแม้กระทั่งเผาบ้านเผาเมือง ความเจ็บช้ำในครานั้น ไม่มีทางหรอกครับที่ใครจะลืมได้ง่าย แต่คุณธีรยุทธกลับนิ่งดูดาย อย่างนี้ไงครับที่ผมบอกว่า ผมทนไม่ไหวที่คุณธีรยุทธมาพูดในฐานะของคน 14 ตุลาคนหนึ่ง ผมคลื่นไส้ครับ

ยิ่งมาได้ฟังคำวิจารณ์เรื่องกองทัพทำอะไรครึ่งๆกลางๆทั้งๆที่มีโอกาส มีอำนาจในการแก้ไขเรื่องคอรัปชั่น ป๊าดโธ่เอ๊ย นี่หรืออาจารย์คนที่เคยเป็นหนึ่งในคนเดือนตุลา คนที่เคยต่อต้านเผด็จการ แต่กลับพูดในทำนองสนับสนุนให้การยึดอำนาจประชาชน มีความชอบธรรมในการแก้ไขเรื่องคอรัปชั่น ช่างน่าสมเพชเสียจริงเลยนะครับคุณธีรยุทธ ไม่น่าเชื่อว่าคนระดับอาจารย์อย่างคุณธีรยุทธมีแนวคิดจะให้ โจรมาปราบคนโกง

มิน่าเล่าคุณธีรยุทธจึงมองเห็นแต่การคอรัปชั่นของนักการเมือง แต่กลับไม่เคยแตะกับการตรวจสอบไม่ได้ของกองทัพ

มิน่าเล่าคุณธีรยุทธจึงออกมาวิพากษ์วิจารณ์แต่รัฐบาลจากการเลือกตั้ง แต่ไม่แตะต้องรัฐบาลจากกองทัพอุ้ม

มิน่าเล่าคุณธีรยุทธจึงเมินเฉยกับการสังหารหมู่คนเสื้อแดง และไม่แสดงความคิดเห็นกับการจ้องล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้ง

อย่างนี้แล้ว ผมว่าคุณธีรยุทธใส่เสื้อกั๊กไปเป็นแกนนำพวกแช่แข็งประเทศเลยดีกว่าไหม จะได้แสดงจุดยืนให้มันชัดเจนไปเลย ดีกว่ามาแสดงความคิดเห็นที่คอยตอดเล็กตอดน้อยอย่างนี้ให้ตัวเองด้อยค่าลงทุกทีๆเลยครับ

โดยเฉพาะความคิดเห็นเรื่องคี่ข้า เรื่องนายกฯชอบแต่งตัวสำอางอะไรเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นคำกล่าวอ้างของเหล่าคนแพ้ทั้งสิ้น หวังว่าสุดท้ายคุณธีรยุทธคงไม่งัดเอาคำว่า karee แรด torแหลอะไรเหล่านี้มาเล่นอีกคนนะครับคุณธีรยุทธ เซ็งกับเอ็งจริงๆ ขอบอก

ส่วนที่คุณธีรยุทธบอกให้สังคมไทยมองให้ลึก ด้วยประเด็นต่างๆ ผมขอแย้งบ้างเป็นบางประเด็นนะครับ

1.คุณธีรยุทธบอกให้สังคมไทยต้องไม่มองเรื่องทักษิณ คนเสื้อเหลือง และเสื้อแดงเป็นวิกฤติต่อไป เพราะทั้งหมดเป็นเพียงปัญหาที่รอการแก้ไข

แต่คุณธีรยุทธกลับไม่พูดการแก้ไขที่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของกติกา ซึ่งเป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วม ตราบใดที่ไม่มีการเคารพกติกา ตราบนั้นจะมองหรือไม่มองทั้งสามฝ่าย ปัญหาก็ไม่มีทางทีจะได้รับการแก้ไขหรอกครับ

2.ปัญหาของทักษิณไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่เป็นปัญหาของธรรมรัฐหรือธรรมาภิบาล การคอรัปชั่นและทำผิดกฎหมาย จึงต้องแก้ด้วยกฎหมาย

แต่คุณธีรยุทธกลับไม่ได้พูดถึงความยุติธรรมที่ฉ้อฉล บนพื้นฐานของสิทธิที่ไม่เท่าเทียมกันตามรัฐธรรมนูญ จนเป็นเหตุให้สังคมเกิดความขัดแย้ง อย่างนี้ไม่เกี่ยวกับประชาธิปไตยได้อย่างไร

3.นโยบายประชานิยม เป็นปัญหาเศรษฐกิจ จนคุณธีรยุทธออกมาเรียกร้องให้กลุ่มธุรกิจออกมาประท้วง โดยเฉพาะนโยบาย 300 บาท

นี่ยิ่งเป็นแนวคิดชัดเจนว่า คุณธีรยุทธเป็นคนกลุ่มใด ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นปัญหาเศรษฐกิจ กลับเรียกร้องให้กลุ่มธุรกิจออกมาประท้วงเรื่องค่าแรง 300 บาท ทั้งๆที่ความจริงที่ผ่านมา ผู้ประกอบการถูกผลกระทบมันน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นเพียงการขาดทุนกำไรเท่านั้นเอง เปรียบกับการไม่ขึ้นค่าแรง ผู้ที่ถูกผลกระทบจะมากกว่าเท่าใด เรื่องเหล่านี้คุณธีรยุทธกลับพยายามมายุยงให้สังคมเกิดปัญหาให้ได้ ส่อให้เห็นว่า คุณธีรยุทธรักรัฐบาลจากการเลือกตั้งมากเพียงใด เฮ่อ นักวิชาการหรือวิชาเกินกันแน่ฟะ

ข้อสำคัญ หลายฝ่ายต่างทักท้วงกันเหลือเกินเรื่องประชานิยม แต่กลับไม่มีใครเรียกร้องให้รัฐบาลสุรยุทธ หรือรัฐบาลอภิสิทธิ์ยกเลิกประชานิยมกันสักนิด นั่นเป็นเพราะเหตุใด คุณธีรยุทธตอบได้ไหม

และถ้าไม่ลืม ประชานิยมในสมัยทักษิณ มันเป็นแค่การแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า เคยได้ยิน 4 ปีสร้าง อีก 4 ปีซ่อมหรือเปล่าครับ แต่เพราะการไม่เคารพกติกา ต้องการอำนาจโดยไว จนทำให้เกิดการยึดอำนาจ จนทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ความจริงว่า คุณทักษิณสามารถซ่อมได้ดังปากหรือเปล่า อย่างนี้มันความผิดใครกันครับคุณธีรยุทธ

สำหรับข้อ 4 ผมไม่มีความคิดเห็น เพราะเกินความรู้ความสามารถของผม ก็เลยยกประโยชน์ให้กับคุณธีรยุทธก็แล้วกันนะครับ

สุดท้ายก็แค่อยากฝากคุณธีรยุทธว่า ปัญหาของประเทศไม่ใช่เพียงแค่นักการเมือง ไม่ใช่เพียงแค่เสื้อเหลือง และก็ไม่ใช่แค่เสื้อแดง แต่รวมถึงพวกนักวิชาการที่ไม่เคยรับรู้ถึงความต้องการของคนส่วนใหญ่ แล้วยังขยันออกมาแสดงความคิดเห็น จนสร้างความสับสนให้กับสังคม ดังนั้นคุณธีรยุทธอย่าลืมนับตัวเองเข้ามาเป็นตัวปัญหาที่ต้องรอการแก้ไขเช่นกันครับคุณธีรยุทธ