สวัสดีครับ ผมอาจจะเขียนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะว่าผมไม่ใช่นักรีวิวตัวยง
แต่ว่าจากที่ได้ดูเรื่องนี้มาผมคิดว่าอยากจะเขียนเพื่อเชียร์หนังเรื่องนี้หน่อยครับ เพราะมันดีกว่าที่คาดไว้จริงๆ
ปี 2004 ที่หนังเรื่องต้มยำกุ้งออกฉาย บอกตามตรงว่าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ครับ อาจเพราะตอนนั้นผมเป็นเด็ก เลยไม่ค่อยสนุกไปกับเรื่องแต่พอโตขึ้นก็ได้มีโอกาสดูอีกรอบหนึ่ง ก็ทำให้ซึมซับความรู้สึกจากต้มยำกุ้งได้ไม่น้อย โดยเฉพาะฉาก Long take ในตอนสุดท้ายทำให้ผมประทับใจในลีลาการต่อสู้ของ จา พนม เพราะว่าเค้าทุ่มเทมากครับ ไม่ใช่แค่เทคเดียวผ่าน แต่ใช้ไปทั้งหมด 7 เทคในการถ่ายฉากนี้ คิดดูนะครับ นักแสดงทุกคนจะต้องพยายามและตั้งใจขนาดไหนกว่าหนังจะออกมาสำเร็จได้ขนาดนี้ และการที่ไปถ่ายไกลถึงประเทศซิดนีย์ ก็ทำให้หนังไทยดูมีระดับสามารถเทียบเคียงกับหนังต่างประเทศได้
จนเวลาผ่านไป ข่าวดีที่ผมได้รับคือจะมีการสร้างภาคสอง จากข่าวลือต่างๆที่ได้ยินมาบอกว่าเนื้อเรื่องจะเป็นการเอาระเบิดยัดไว้ในท้องช้าง7ตัวแล้วให้ช้างไปเดินในเมือง แล้วจาจะต้องมาตามหาช้างอีก ผมก็อดขำไม่ได้กับไอเดียนี้ เพราะว่าเป็นการตามหาช้างอีกแล้ว จนมาเมื่อสามเดือนก่อน เนื้อเรื่องและข้อมูลคร่าวๆของหนังก็ได้เปิดเผยให้ทุกคนได้รู้กัน มันทำให้ผมโล่งใจเพราะ่ว่าเรื่องของหนังไม่ได้เป็นแบบนั้น และก็นับวันรอทุกวันว่าเมื่อไหร่หนังเรื่องนี้จะเข้าโรง
วันนี้ก็ไปดูมากครับ ก็ไม่ได้หวังอะไรมาก เพราะว่ามันเป็นยุคขาลงสำหรับหนังแอ๊คชั่นเมืองไืทย จาก็มีปัญหากับเสี่ย จีจ้าก็เป็นคุณแม่ไปแล้ว การดูหนังในครั้งนี้ของผมก็เป็นเหมือนการไปผ่อนคลายจากการออกกำลังกายที่เหนื่อยล้ามากกว่าครับ ผมเลือกดูแบบสามมิติ เพราะอยากรู้ว่าหนังไทยที่เป็นหนังแนวต่อสู้จะออกมาเป็นยังไง
หนังเรื่องต้มยำกุ้ง 2 นั้นว่าด้วยเรื่องของขามที่ตามหาช้างที่หายไปครับ(หลายคนอาจจะบอกว่าอะไรวะ ช้างหายอีกแล้ว แต่มันมีมากกว่าช้างหายครับ) เรื่องราวของภาคนี้จะต่อจากภาคที่แ้ล้ว เหตุการณ์จะเกิดขึ้นในประเทศไทย มันเป็นการเอาคืนของแก๊งค์มาเฟียที่จะมาแก้แค้น พล๊อตเรื่องในช่วงแรกเหมือนหนังจีนสมัยก่อนที่เน้นเรื่องของบุญคุณต้องทดแทนความแค้นต้องชำระ จาเชื่อมันในตัวของพ่อใหญ่(ช้าที่ถูกฆ่าในตอนแรก)มากครับ แต่เมื่อรู้ว่าจะมีคนเอาขอนไปฆ่าอีก ก็ต้องฝึกมวยมาสู้ นั่นคือ"มวยคชสาร" ที่เกิดจากการที่ไอ้ขาม(จา พนม) เข้าไปที่ถ้ำตั้กแตน เพื่อฝึกวิชากับอาจารย์ดำ หลังจากออกจากถ้ำมาก็มันส์ละครับ ไล่ล่ากันล้วนๆ ทั้งการแก้แค้นและความรักของแฟนเก่า(ญาญ่า ยิ๋ง) และไฟรักใหม่ของไอ้ขามนั่นคือฝาแฝดจีจ้านั่นเอง เรื่องราวจะบอกว่าเป็น action เลยก็ไม่ใช่ แต่มันเป็นเหมือน Love comedy ครับ เหมือนได้เข้าไปดูทุกแนวเลย แล้วอีกเรื่องที่สำคัญคือประชาคมอาเซียน(AEC)ที่ถูกแทรกไว้ในหนังทำให้คนดูได้ความรู้เรื่องนี้มากขึ้นครับ
ผมเิดินออกจากโรงมาพร้อมกับรอยยิ้ม และพูดกับตัวเองว่า นี่แหละหนังที่จะมาทำให้คนบอกว่าหนังไทยไม่ห่วย
9/10 ครับ
สำหรับเรื่อง 3D ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ทุกอย่างกระเด็นใส่หน้าเหมือนได้ไปร่วมวงกับเค้ายังไงอย่างงั้น
CG ที่คิดว่าไม่เนียนพอรวมเป็น 3D กับดีเหลือเชื่อ ไม่คิดเลยว่าการทำงานของคนไทยจะออกมาดีครับ
คิวบู้นี่ผมว่าออกมาดูดีมากๆเลยหละ จังหวะเหมือนไม่ได้ันัดกันมา แต่ว่าเข้ากันแบบสุดๆครับ
หวังว่าทุกคนจะไปสนับสนุนเรื่องนี้กันนะครับ
23 ตุลานี้ครับ
[Review & Spoil] "ต้มยำกุ้ง 2 3D" หนังไทยน้ำดีที่มีมากกว่าการต่อสู้!!!!!
สวัสดีครับ ผมอาจจะเขียนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะว่าผมไม่ใช่นักรีวิวตัวยง
แต่ว่าจากที่ได้ดูเรื่องนี้มาผมคิดว่าอยากจะเขียนเพื่อเชียร์หนังเรื่องนี้หน่อยครับ เพราะมันดีกว่าที่คาดไว้จริงๆ
ปี 2004 ที่หนังเรื่องต้มยำกุ้งออกฉาย บอกตามตรงว่าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ครับ อาจเพราะตอนนั้นผมเป็นเด็ก เลยไม่ค่อยสนุกไปกับเรื่องแต่พอโตขึ้นก็ได้มีโอกาสดูอีกรอบหนึ่ง ก็ทำให้ซึมซับความรู้สึกจากต้มยำกุ้งได้ไม่น้อย โดยเฉพาะฉาก Long take ในตอนสุดท้ายทำให้ผมประทับใจในลีลาการต่อสู้ของ จา พนม เพราะว่าเค้าทุ่มเทมากครับ ไม่ใช่แค่เทคเดียวผ่าน แต่ใช้ไปทั้งหมด 7 เทคในการถ่ายฉากนี้ คิดดูนะครับ นักแสดงทุกคนจะต้องพยายามและตั้งใจขนาดไหนกว่าหนังจะออกมาสำเร็จได้ขนาดนี้ และการที่ไปถ่ายไกลถึงประเทศซิดนีย์ ก็ทำให้หนังไทยดูมีระดับสามารถเทียบเคียงกับหนังต่างประเทศได้
จนเวลาผ่านไป ข่าวดีที่ผมได้รับคือจะมีการสร้างภาคสอง จากข่าวลือต่างๆที่ได้ยินมาบอกว่าเนื้อเรื่องจะเป็นการเอาระเบิดยัดไว้ในท้องช้าง7ตัวแล้วให้ช้างไปเดินในเมือง แล้วจาจะต้องมาตามหาช้างอีก ผมก็อดขำไม่ได้กับไอเดียนี้ เพราะว่าเป็นการตามหาช้างอีกแล้ว จนมาเมื่อสามเดือนก่อน เนื้อเรื่องและข้อมูลคร่าวๆของหนังก็ได้เปิดเผยให้ทุกคนได้รู้กัน มันทำให้ผมโล่งใจเพราะ่ว่าเรื่องของหนังไม่ได้เป็นแบบนั้น และก็นับวันรอทุกวันว่าเมื่อไหร่หนังเรื่องนี้จะเข้าโรง
วันนี้ก็ไปดูมากครับ ก็ไม่ได้หวังอะไรมาก เพราะว่ามันเป็นยุคขาลงสำหรับหนังแอ๊คชั่นเมืองไืทย จาก็มีปัญหากับเสี่ย จีจ้าก็เป็นคุณแม่ไปแล้ว การดูหนังในครั้งนี้ของผมก็เป็นเหมือนการไปผ่อนคลายจากการออกกำลังกายที่เหนื่อยล้ามากกว่าครับ ผมเลือกดูแบบสามมิติ เพราะอยากรู้ว่าหนังไทยที่เป็นหนังแนวต่อสู้จะออกมาเป็นยังไง
หนังเรื่องต้มยำกุ้ง 2 นั้นว่าด้วยเรื่องของขามที่ตามหาช้างที่หายไปครับ(หลายคนอาจจะบอกว่าอะไรวะ ช้างหายอีกแล้ว แต่มันมีมากกว่าช้างหายครับ) เรื่องราวของภาคนี้จะต่อจากภาคที่แ้ล้ว เหตุการณ์จะเกิดขึ้นในประเทศไทย มันเป็นการเอาคืนของแก๊งค์มาเฟียที่จะมาแก้แค้น พล๊อตเรื่องในช่วงแรกเหมือนหนังจีนสมัยก่อนที่เน้นเรื่องของบุญคุณต้องทดแทนความแค้นต้องชำระ จาเชื่อมันในตัวของพ่อใหญ่(ช้าที่ถูกฆ่าในตอนแรก)มากครับ แต่เมื่อรู้ว่าจะมีคนเอาขอนไปฆ่าอีก ก็ต้องฝึกมวยมาสู้ นั่นคือ"มวยคชสาร" ที่เกิดจากการที่ไอ้ขาม(จา พนม) เข้าไปที่ถ้ำตั้กแตน เพื่อฝึกวิชากับอาจารย์ดำ หลังจากออกจากถ้ำมาก็มันส์ละครับ ไล่ล่ากันล้วนๆ ทั้งการแก้แค้นและความรักของแฟนเก่า(ญาญ่า ยิ๋ง) และไฟรักใหม่ของไอ้ขามนั่นคือฝาแฝดจีจ้านั่นเอง เรื่องราวจะบอกว่าเป็น action เลยก็ไม่ใช่ แต่มันเป็นเหมือน Love comedy ครับ เหมือนได้เข้าไปดูทุกแนวเลย แล้วอีกเรื่องที่สำคัญคือประชาคมอาเซียน(AEC)ที่ถูกแทรกไว้ในหนังทำให้คนดูได้ความรู้เรื่องนี้มากขึ้นครับ
ผมเิดินออกจากโรงมาพร้อมกับรอยยิ้ม และพูดกับตัวเองว่า นี่แหละหนังที่จะมาทำให้คนบอกว่าหนังไทยไม่ห่วย
9/10 ครับ
สำหรับเรื่อง 3D ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ทุกอย่างกระเด็นใส่หน้าเหมือนได้ไปร่วมวงกับเค้ายังไงอย่างงั้น
CG ที่คิดว่าไม่เนียนพอรวมเป็น 3D กับดีเหลือเชื่อ ไม่คิดเลยว่าการทำงานของคนไทยจะออกมาดีครับ
คิวบู้นี่ผมว่าออกมาดูดีมากๆเลยหละ จังหวะเหมือนไม่ได้ันัดกันมา แต่ว่าเข้ากันแบบสุดๆครับ
หวังว่าทุกคนจะไปสนับสนุนเรื่องนี้กันนะครับ
23 ตุลานี้ครับ