วิจารณ์หนัง : ต้มยำกุ้ง 2 แกงจืดในหม้อต้มยำ



นับเป็นโปรเจกต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดหลายปีที่ผ่านมาของค่ายสหมงคลฟิล์ม และขึ้นแท่นหนังที่ใช้ทุนสร้างมากที่สุดในไทยไปแล้วสำหรับ ต้มยำกุ้ง 2 3D ด้วยเม็ดเงินกว่า 500 ล้านบาท ทีมงานคงแบกความกดดันพอสมควร

หากไม่นับปัญหาส่วนตัวเกี่ยวกับ จาพนม หรือ โทนี่จา ต้มยำกุ้ง 2 ถ่ายทำกันได้ราบลื่น มีองค์ประกอบที่จะเป็นหนังฟอร์มยักษ์แห่งปี ทว่า เมื่อฟังบทสัมภาษณ์ของ ปรัญชา ปิ่นแก้ว ก่อนหนังเข้าฉาย นํ้าเสียงมีความกังวล ทั้งเรื่องงบประมาณบานปลาย บทหนังที่ถูกแก้แล้วแก้อีก ก่อนหน้านี้ ต้มยำกุ้ง ภาคแรกถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องบทภาพยนตร์ที่ไม่ค่อยน่าสนใจ ขายแต่แอ็คชั่น ภาคนี้ได้ เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ (13เกมสยอง,หลุด4หลุด) มือเขียนบทชั้นดีของค่ายมาร่วมงาน กระนั้น กรอบที่ถูกตีว่าไม่เอาช้างทำให้หนังขาดธีมหลัก สุดท้ายทีมงานก็หันมาใช้ช้างเป็นหลักในการดำเนินเรื่องเหมือนเดิม ทำให้ต้องเขียนบทใหม่หมด ซึ่งต่อมาสร้างปัญหาให้หนัง ต้มยำกุ้ง2 พอสมควร

ต้มยำกุ้ง2 เล่าถึง ขาม (จาพนม) จากภาคแรกที่ไปบู๊สนั่นในประเทศซิดนีย์ซึ่งกลับมาเมืองไทยใช้ชีวิตเรียบง่ายเป็นคนเลี้ยงช้างในชนบท จนกระทั่งมีกลุ่มนายทุนมาขอซื้อช้างของเขา แน่นอนเขาไม่ขาย ไม่นานช้างของเขาก็ถูกขโมยไป (ตัวเบอเร่อเอาไปกันง่ายๆ) และภารกิจตามล่าช้างสุดขอบฟ้าจึงเริ่มต้นขึ้น

บทของหนังดำเนินเรื่องเร็วยิ่งกว่าหนังรถแข่ง จนอดคิดในใจไม่ได้ว่า นี่พวกคุณจะไม่หยุดคุยกันให้รู้เรื่องหน่อยเหรอ เนื้อหาของหนังไม่มีอะไรใหม่จากภาคแรกเลย ตัวละครก็ซํ้าเดิม ที่เพิ่มมาก็ไม่มีใครโดดเด่น ไม่อาจโทษคนเขียนบทคนเดียว เพราะหนังเรื่องนี้ถูกสร้างมาให้ขายแอ็คชั่น ฉากจึงมาก่อนบทสนทนา

ฉากต่อสู้หลายๆฉากเหมือนเคยผ่านตามาในหนังบู๊ของเครือสหมงคลหลายเรื่อง เพียงแต่เปลี่ยนโลเคชั่น ซึ่งเมื่อใส่แอ็คชั่นทุกอย่างที่มีลงมาหมดโดยไม่สนใจแก่นของหนัง มันจึงดูมั่วและเยอะมากเกินไป ทำให้ผมนึกถึงประโยคติดปากของผู้กำกับหลายคน 5 4 3 2 แอ็คชั่น! คือซัดกันลูกเดียวเลย

จึงเป็นอย่างที่เห็น ต้มยำกุ้ง 2 นอกจากจะไม่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ยังมีส่วนที่น่าเบื่อและชวนงงอยู่มาก หนังไม่มีความสมจริงเลย อาทิ ทำไมผู้ร้ายจงใจจะเอาช้างตัวนี้ให้ได้ ทั้งที่ถ้าเอาตัวอื่นที่เจ้าของไม่ดุขนาดนี้งานคงง่ายกว่า จาพนมฆ่าไม่ตายครับ เด็กแว้นเป็นร้อยทำอะไรไม่ได้ โดดตึกก็ไม่ตาย ตกสะพานก็ชิว ไฟช็อตแค่สั่นๆ (อีกนิดเดียวเป็น มาเชเต้ ล่ะ) ในเรื่องยิงกันหูดับตับไหม้แต่แทบไม่มีใครตายด้วยอาวุธปืนเลย องค์กรลับของMr.LCดูยิ่งใหญ่มาก แต่ไหงมีคนน้อยจัง นับเบอร์อื่นๆหายไปไหนหมด และอื่นๆอีกมากมาย

ซีนสามมิติไม่ได้ทำให้หนังดูดีขึ้นเท่าไหร่ แค่เฟี้ยวฟ้าวพอให้คนดูรู้ว่ากำลังดูหนังสามมิติ แต่ไม่มีช็อตอลังการที่ทำให้คนดูร้องว้าว ซีจีไม่เนียนและดูเฟคมากๆจนออกจะตลก กลายเป็นจุดอ่อนของหนังแบบชัดเจน ไม่คุ้มกับตัวเลขที่ลงทุนไป  

ด้านการแสดง จาพนม ไม่ได้พัฒนาไปไกลกว่าเดิมนัก บทพูดมากขึ้นก็ยิ่งเห็นข้อผิดพลาด อารมณ์เดียวที่เขาทำได้ดีคือ โกรธ ขณะที่ หม่ำจ๊กมก ในบท จ่ามาร์ค แม้พี่แกจะติดเล่นไปบ้างจนขาดความน่าเชื่อถือในการเป็นตำรวจสากล แต่เขาเป็นคนเดียวที่สร้างสีสันไม่ให้เรื่องจืดชืด

รฐา โพธิ์งาม ในบท Twenty ดูดีมีสเน่ห์ดั่งนางพญา เสียดายที่จุดจบของเธอช่างง่ายดายและไร้เหตุผล จี้จ้า เป็นคนที่ได้เล่นฉากบู๊ไม่แพ้ใครในเรื่อง รวมถึงเป็นคนที่มีบทพูดน้อยที่สุดในเรื่อง ซึ่งถ้าใส่บทพูดให้เธอมากกว่านี้ ตัดฉากบู๊ออกหน่อย อาจจะเป็นตัวละครที่น่าสนใจทีเดียว ส่วนตัวละครอย่าง เพื่อนของขาม หรือ ฝาแฝดของจีจ้า พวกเขาคือส่วนเกินของหนังอย่างแท้จริง

ริซา ที่แสดงเป็น Mr.LC ดูไม่ได้มีคาแร็กเตอร์ความโหดเหี้ยมหรือเก่งกาจพอที่จะเป็นผู้คุมองค์กรลับที่ก่อการร้ายระดับโลกได้ นี่อาจจะเป็นหนังแอ็คชั่นไม่กี่เรื่องที่หัวหน้าใหญ่อึดถึกตายยากมาก แถมลงมาบู๊กับตัวเอกด้วยตัวเองชนิดไม่กลัวสูทยับ

ทั้งหมดนี้พิสูจน์ว่า มุขตามหาช้างที่หายไปได้มาถึงทางตันแล้ว สุดท้ายยังสงสัยอยู่ว่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับ ต้มยำกุ้ง เพราะแม้แต่รสชาติของหนังที่ออกมาก็ไม่ได้เผ็ดแซ่บแต่อย่างใด ซํ้ายังจืดไร้รสชาติอีกด้วย

คะแนน 5.5/10

โดย นกไซเบอร์

ที่มาจาก http://movie.bugaboo.tv/watch/89692
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่