เคยอ่านข่าวและกระทู้ในแง่ลบของแพทย์เอกชนมาเยอะ เลยอยากเอาอีกด้านมาให้อ่านกันครับ
เกริ่นก่อนนะครับ ว่าผมเป็นนักเรียนที่อังกฤษ ซึ่งกำลังจะสมัครเข้าคณะแพทยศาสตร์ ระหว่างเลือกมหาลัยอยู่ผมก็ได้เจอกับรายงานของนักศึกษาแพทย์ของอังกฤษ ซึ่งได้ placement ระหว่างช่วงเลือกฝึกงานตามอัธยาศัย (elective weeks) ในปีสุดท้าย (ปี 5) ที่ประเทศไทย โรงพยาบาล Overbrook เชียงราย (มีชื่อไทยหรือเปล่าไม่รู้) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดกลางนะครับ
นักศึกษาคนนี้ชื่อ William English จากมหาลัย Queen Mary college, university of London ตอนไปไทยก็อยู่ ENT หู คอ จมูก
ในรายงานของเขาก็มีการติชมระบบสาธารณะสุชของไทยไว้คร่าวๆ เช่น ประเทศไทยนั้นไม่มีระบบปฐมพยาบาลเบื้องต้น (จริงๆมันก็มี คืออนามัยนั่นเอง แต่คนไม่ค่อยไปกัน 555 หรือมีน้อย อุปกรณ์ไม่เยอะ etc. คือตรงนี้ความเห็นผมนะ) เพราะฉะนั้นคนไข้จำนวนมากจึงไปอัดอยู่ที่พยาบาล ที่ OPD คือที่อังกฤษจะไม่มีอะนะ จะมีก็พวก GP คืออนามัย แต่ก็มีแพทย์ มีอุปกรณ์ครบอะครับ ถ้าไม่ไหวจริงๆถึงจะ refer ไปโรงพยาบาล แต่ในโรงพยาบาลก็มีคลีนิก เช่น fracture clinic ก็เป็นพวกแขนหัก ขาหัก กระดูกร้าว ที่จะระบายผู้ป่วยออกจาก A&E ได้บ้างและก็จะได้เจอกับหมอเฉพาะทางครับ (อันนี้จากที่ผมเคยไปตามหมอ ดูงานหมอในโรงพยาบาล เรียกว่า work experience อะนะ)
อีกเรื่องก็คือ อุปกรณ์ห้องผ่าตัดของไทย ตามโรงพยาบาลขนาดเล็ก - กลาง จะค่อนข้างล้าสมัย แต่เขาก็บอกว่าแพทย์ของไทยสามารถใช้อุปกรณ์พวกนี้อย่างเต็มที่ และได้ผลดีมาก คือมีถึงขนาดมีกล้องจุลทรรศน์โบราณ เลนส์พัง ขยับยาก แต่ก็ใช้กันมาได้ 555
แล้วก็มีเรื่องความส่วนตัวของผู้ป่วย และจิปาถะ ที่โดนติ (แต่เขาก็บอกว่า ผู้ป่วยเหมือนจะไม่ได้สนใจ คือไม่ได้ไม่พอใจกับเรื่องพวกนี้).
โอเค เกริ่นยาวมากกกก เข้าเรื่องดีกว่าครับ คืออ่านแล้วก็ซึ้งอะ. ผมจะเอาส่วนนึงของรายงานของนักศึกษาคนนี้ให้ดู และจะแปลอย่างคร่าวๆ อาจจะไม่ตรงทุกตัว ก็ขออภัยไว้ในที่นี้ ศัพท์เทคนิคอาจจะไม่แม่น เพราะผมไปอยู่อังกฤษนานแล้วครับ
เรื่องเกี่ยวกับการนำอุปกรณ์ที่ใช้แล้ว มาใช้ใหม่นั้น เป็นเรื่องที่ผมได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่เป็นเวลานาน อุปกรณ์ส่วนมากจะนำกลับมาใช้ใหม่ ชุดผ่าตัดจะได้รับการทำสะอาดและฆ่าเชื้อ ที่นี่ไม่มีอุปกรณืที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง กล้องที่ใช้ตรวจภายในร่างกายผู้ป่วย (endoscope เข้าทางปากหรืออะไรงี้นะครับ ไม่ใช่สูติ) จะได้รับการล้างด้วยน้ำเปล่า และราดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อในคลีนิก (คิดว่าหมายถึงห้องเตรียมอุปกรณ์ในที่นี้) ก่อนจะนำไปใช้ใหม่ แม้แต่ท่อช่วยหายใจก็มีการนำมาใช้ใหม่ (เฉพาะกับผู้ป่วยที่ไม่สามารถจ่ายค่าท่ออันใหม่ได้). แม้ว่าตอนแรกเราอาจจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้ แต่เมื่อคิดถึงสถาณการณ์ที่ผู้ป่วยไม่สามารถจ่ายได้นัน ทางเลือกนี้ซึ่งไม่มีการคิดค่าใช้จ่าย ผมคิดว่านอกจากจะพอรับได้แล้ว ยังจะน่าชื่นชมอีกด้วย โรงพยาบาลจะเก็บของพวกนี้ไว้จำนวนมาก เพื่อผู้ป่วยกลุ่มนี้
ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่โรงพยาบาลจะทำเช่นนี้ นอกจากความเอื้ออาทร และความมีมนุษยธรรม เท่านั้น
มีต่อครับ. เห็นไหมครับ ว่าโรงพยาบาลเอกชนที่มีความเอื้ออาทรแก่ผู้ป่วยนั้น มันมีจริงๆ
[แชร์] ใครว่าหมอเอกชนไทยเห็นแก่เงินมากกว่าผู้ป่วยทุกคน
เกริ่นก่อนนะครับ ว่าผมเป็นนักเรียนที่อังกฤษ ซึ่งกำลังจะสมัครเข้าคณะแพทยศาสตร์ ระหว่างเลือกมหาลัยอยู่ผมก็ได้เจอกับรายงานของนักศึกษาแพทย์ของอังกฤษ ซึ่งได้ placement ระหว่างช่วงเลือกฝึกงานตามอัธยาศัย (elective weeks) ในปีสุดท้าย (ปี 5) ที่ประเทศไทย โรงพยาบาล Overbrook เชียงราย (มีชื่อไทยหรือเปล่าไม่รู้) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดกลางนะครับ
นักศึกษาคนนี้ชื่อ William English จากมหาลัย Queen Mary college, university of London ตอนไปไทยก็อยู่ ENT หู คอ จมูก
ในรายงานของเขาก็มีการติชมระบบสาธารณะสุชของไทยไว้คร่าวๆ เช่น ประเทศไทยนั้นไม่มีระบบปฐมพยาบาลเบื้องต้น (จริงๆมันก็มี คืออนามัยนั่นเอง แต่คนไม่ค่อยไปกัน 555 หรือมีน้อย อุปกรณ์ไม่เยอะ etc. คือตรงนี้ความเห็นผมนะ) เพราะฉะนั้นคนไข้จำนวนมากจึงไปอัดอยู่ที่พยาบาล ที่ OPD คือที่อังกฤษจะไม่มีอะนะ จะมีก็พวก GP คืออนามัย แต่ก็มีแพทย์ มีอุปกรณ์ครบอะครับ ถ้าไม่ไหวจริงๆถึงจะ refer ไปโรงพยาบาล แต่ในโรงพยาบาลก็มีคลีนิก เช่น fracture clinic ก็เป็นพวกแขนหัก ขาหัก กระดูกร้าว ที่จะระบายผู้ป่วยออกจาก A&E ได้บ้างและก็จะได้เจอกับหมอเฉพาะทางครับ (อันนี้จากที่ผมเคยไปตามหมอ ดูงานหมอในโรงพยาบาล เรียกว่า work experience อะนะ)
อีกเรื่องก็คือ อุปกรณ์ห้องผ่าตัดของไทย ตามโรงพยาบาลขนาดเล็ก - กลาง จะค่อนข้างล้าสมัย แต่เขาก็บอกว่าแพทย์ของไทยสามารถใช้อุปกรณ์พวกนี้อย่างเต็มที่ และได้ผลดีมาก คือมีถึงขนาดมีกล้องจุลทรรศน์โบราณ เลนส์พัง ขยับยาก แต่ก็ใช้กันมาได้ 555
แล้วก็มีเรื่องความส่วนตัวของผู้ป่วย และจิปาถะ ที่โดนติ (แต่เขาก็บอกว่า ผู้ป่วยเหมือนจะไม่ได้สนใจ คือไม่ได้ไม่พอใจกับเรื่องพวกนี้).
โอเค เกริ่นยาวมากกกก เข้าเรื่องดีกว่าครับ คืออ่านแล้วก็ซึ้งอะ. ผมจะเอาส่วนนึงของรายงานของนักศึกษาคนนี้ให้ดู และจะแปลอย่างคร่าวๆ อาจจะไม่ตรงทุกตัว ก็ขออภัยไว้ในที่นี้ ศัพท์เทคนิคอาจจะไม่แม่น เพราะผมไปอยู่อังกฤษนานแล้วครับ
เรื่องเกี่ยวกับการนำอุปกรณ์ที่ใช้แล้ว มาใช้ใหม่นั้น เป็นเรื่องที่ผมได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่เป็นเวลานาน อุปกรณ์ส่วนมากจะนำกลับมาใช้ใหม่ ชุดผ่าตัดจะได้รับการทำสะอาดและฆ่าเชื้อ ที่นี่ไม่มีอุปกรณืที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง กล้องที่ใช้ตรวจภายในร่างกายผู้ป่วย (endoscope เข้าทางปากหรืออะไรงี้นะครับ ไม่ใช่สูติ) จะได้รับการล้างด้วยน้ำเปล่า และราดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อในคลีนิก (คิดว่าหมายถึงห้องเตรียมอุปกรณ์ในที่นี้) ก่อนจะนำไปใช้ใหม่ แม้แต่ท่อช่วยหายใจก็มีการนำมาใช้ใหม่ (เฉพาะกับผู้ป่วยที่ไม่สามารถจ่ายค่าท่ออันใหม่ได้). แม้ว่าตอนแรกเราอาจจะไม่เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้ แต่เมื่อคิดถึงสถาณการณ์ที่ผู้ป่วยไม่สามารถจ่ายได้นัน ทางเลือกนี้ซึ่งไม่มีการคิดค่าใช้จ่าย ผมคิดว่านอกจากจะพอรับได้แล้ว ยังจะน่าชื่นชมอีกด้วย โรงพยาบาลจะเก็บของพวกนี้ไว้จำนวนมาก เพื่อผู้ป่วยกลุ่มนี้ ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่โรงพยาบาลจะทำเช่นนี้ นอกจากความเอื้ออาทร และความมีมนุษยธรรม เท่านั้น
มีต่อครับ. เห็นไหมครับ ว่าโรงพยาบาลเอกชนที่มีความเอื้ออาทรแก่ผู้ป่วยนั้น มันมีจริงๆ