สวัสดีครับ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ในห้องสินธรและห้องสีลม
วันนี้ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การลงทุนของผม ที่กำลังจะครบ 4 ปีในเดือน ธ.ค. นี้

ผมเป็น 1 ในมนุษย์เงินเดือนที่มีความฝันที่อยากจะมีอิสรภาพทางการเงินเหมือนหลายๆ คน
โดยหลังจากที่ได้อ่านหนังสือ พ่อรวยสอนลูก เมื่อปี 2551 ผมจึงเริ่มสนใจในการลงทุน และเริ่มต่อยอดหาความรู้ด้านการลงทุนจากหนังสือและเว็บไซต์ และออมเงินไปเรื่อยๆ

จนกระทั่งช่วงเดือน ธ.ค. 52 ผมจึงตัดสินใจเปิดพอร์ต โดยปีแรกของการลงทุนของผมถือว่าทำผลงานได้ดี แต่อาจจะเป็นโชคดีด้วยเพราะช่วงปี 52 - 53 เป็นช่วงที่ตลาดฟื้นตัวหลังจากซับไพร์ม จึงทำให้หุ้นหลายๆ ตัวทั้งหุ้นดีและไม่ดีวิ่งขึ้นมา โดยรูปแบบการเลือกหุ้นของผม ผมจะเน้นในข้อมูลด้านพื้นฐาน ตัวเลขทางการเงินสำคัญๆ โดยยังไม่ได้ดูคุณภาพของกิจการมากนัก

มาถึงปี 54 ผมอยากจะเร่งให้พอร์ตผมโตเร็วขึ้น โดยขายหุ้นที่มีกำไรแล้วไปซื้อหุ้นบางตัว ซึ่งมารู้ตอนหลังว่ามันคือหุ้นวัฏจักร  แต่ด้วยความไม่เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจึงทำให้ผมขาดทุน แต่ยังดีที่การขาดทุนครั้งนี้ ไม่ได้ขาดทุนจนถึงเงินต้นของผม แต่ก็ทำให้ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับความอันตรายและความสวยงามของหุ้นวัฏจักรได้ในเวลาเดียวกัน    

* มาถึงปี 55 * ซึ่งถือเป็นปีที่จริงจังกับการลงทุนมากขึ้น โดยยึดหลัก vi จาก ดร.นิเวศน์, วอร์เรน บัฟเฟตต์ และ ปีเตอร์ ลินช์ อย่างเข้มข้นมากขึ้น  อาจจะเพราะเงินที่ทยอยเติมเข้าไปในพอร์ตเริ่มมากขึ้นและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการลงทุนให้ดีขึ้นกว่าปีก่อนๆ โดยยึดหลักสำคัญๆ ประมาณนี้
1. ดูบริษัทที่มีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15 - 20 % ต่อปี  
2. เป็นธุรกิจที่มีอนาคต ไม่ใช่ธุรกิจตะวันตกดิน
3. ผู้บริหารมีความซื่อสัตย์และมีความสามารถ
4. เป็นบริษัทที่เป็นเบอร์ต้นๆ ของอุตสาหกรรม
5. กำไรหลักของบริษัทต้องเข้ามาเป็นเงินสดจริงๆ  ไม่ใช่กำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมหรือกำไรพิเศษ
6. ไม่พึ่งพิงลูกค้าน้อยราย
7. ไม่ละเลยในการวิเคราะห์งบการเงินในบริษัทที่เราสนใจ

ซึ่งทั้ง 7 ข้อเหล่านี้ เป็นตัวอย่างที่ผมยึดถือ ซึ่งจริงๆ บางบริษัทผมอาจจะใช้เป็นหลักการในการวิเคราะห์เพิ่มเติมอีกครับ
และผมคิดว่าหลักการ 7 ข้อนี้ หลายๆ คนก็เคยได้เรียนรู้กันมาแล้วนะครับ

ซึ่งหลังจากที่ผมยึดมั่นในสิ่งเหล่านี้  ก็ทำให้พอร์ตผมพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และยังส่งต่อมายังในปี 56 นี้ด้วย

โดยรูปข้างล่างเป็นพอร์ตการลงทุน ณ ปัจจุบันของผม ซึ่งผมขออนุญาตปิดชื่อหุ้นนะครับ
โดย 3 ใน 4 เป็นหุ้นที่ซื้อมาตั้งแต่ปีที่แล้วและมีการทยอยซื้อเพิ่มเพราะผลประกอบการของบริษัทยังไปในทิศทางที่ผมพอใจครับ
และบริษัทดีๆ ที่ผมถือเหล่านี้ก็ทำให้ผมภูมิใจทั้งในผลตอบแทนเพราะทำให้พอร์ตผมโตขึ้นกว่าที่คิดและการได้เป็นหุ้นส่วนกับพวกเขา

สุดท้ายผมก็อยากเป็นกำลังใจให้กับมนุษย์เงินเดือนและนักลงทุนที่พอร์ตยังไม่ใหญ่มาก และตัวผมเองก็ยังเป็น 1 ในนั้นเช่นกันครับ  
หากเราพยายามออมเงินเรื่อยๆ และทยอยนำเงินมาลงทุนในบริษัทดีๆ ผมเชื่อว่าสักวันพวกเราก็จะเห็นคำว่า "อิสรภาพทางการเงิน" ครับ


โชคดีครับ