สวัสดีครับ คือครอบครอบผม มีถิ่นฐานโดยอาศัยการเช่าพื้นที่วัดแห่งหนึ่งในจ.กรุงเทพฯแห่งนึงอยู่ (เป็นชุมชนข้างวัดครับ) บ้านจะมี 2 หลัง แต่ใช้ทะเบียนบ้านเดียวกัน (เพราะอีกหลังไปขอเลขที่บ้านไม่ได้ เป็นบ้านของญาติครับ)
น้ำ จะใช้ชื่อญาติที่ตอนนี้ไม่ได้อาศัยอยู่มานานแล้ว(แต่ก่อนจะให้ลูกกับลูกสะใภ้อยู่ ก่อนย้าย)
ส่วน ไฟ ตอนนี้เป็นชื่อของย่าแล้ว (อาศัยอยู่ในปัจจุบัน)
คุณย่าจะมีปัญหาเรื่องการคุยจรจากับอีกฝั่งหนึ่งเสมอ เรื่องที่จะเปลี่ยนชื่อที่ใช้น้ำมาเป็นชื่อของย่าเอง
ซึ่งก่อนนี้สามารถเปลี่ยนชื่อไฟได้ (พราะเหตุใดผมก็ไม่ทราบแน่ชัด)
ก่อนหน้าก็เฉลี่ยค่าน้ำค่าไฟกันได้ตามปกติ แฮะ
แต่ที่มีปัญหาอีกคือ ณ ปัจจุบัน บ้านอีกหลัง ได้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วเกือบสัก 2 ปีได้ ปล่อยให้บ้านนั้นรกร้าง โดยค่าเช่าที่ของวัด ครอบครอบผมก็ให้ตามปกติ พ่อผมลองเจรจากับเจ้าของบ้านหลังเก่าแล้ว เขาก็บอกว่าให้จ่ายเงินมาจำนวนหนึ่ง(ค่าไม้ค่าบ้าน) เพื่อที่จะเอาบ้านหลังนั้นไปเลย แต่ติดอยู่ที่ว่าบ้านหลังนั้นมีสภาพที่เก่ามากแล้ว (บ้านไม้) แบบเข้าไปเดินในบ้านทีก็ถล่มแน่ๆ ตอนน้ำท่วมปี54 เขาก็ไม่มาดู ยิ่งแย่ไปใหญ่
ครอบครัวผมได้ประเมินแล้วว่าถ้าซื้อบ้านหลังนั้นต่อมาก็ไม่สามารถน้ำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างแน่ๆ จะซื้อมารื้อทิ้งชัดๆ เปลืองเงินสิ้นดี
ณ ตอนนี้น่ากลัวมากๆ บ้านหลังนี้มีอาการทรุดลงแล้ว เหมือนจะพังลงให้ได้ เพราะเกิดจากน้ำท่วมด้วยมั้งผมว่า ผมเกรงว่ามันจะล้มมาใส่บ้านของผมและบ้านข้างเคียงหรือไม่ และครอบครัวผมก็อยากจะได้พื้นที่นั้นกลับมาใช้งานแทนด้วย
ส่วนตัวผมเอง ผมอยากรู้ครับว่าเราไม่มีทางไหนเลยหรอครับที่จะได้พื้นที่นั้นมา พื้นที่ไม่มากหรอกครับ ถ้าจะให้เขามารื้อบ้านทิ้งไปก็คงไม่ยอม การเจรจาไม่เป็นผลสักที และไม่อยากเสียเงินไปซื้อบ้านนั้นด้วย
และถ้าเกิดบ้านนั้นถล่มมาพรุ่งนี้ มะรืนนี้ เขาจะหาว่าครอบครัวเราเป็นคนทำไหมครับ และเมื่อบ้านพังจริง ไม่สามารถอยู่ได้ เขาจะมาชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากที่ไปล้มทับบ้านคนอื่นเสียหายไหมครับ และเขาจะมาเก็ยซากไหมอันนี้น่าคิดแหะ
แล้วเราสามารถที่จะขอพื้นที่ดินที่เช่าวัดที่เป็นสัญญาของย่าผม คืนได้เลยไหมครับโดยที่ไม่เจรจา
แบบว่ายึดเลย เอิ๊กๆ (เคยคุยกับทางเจ้าอาวาสวัดแล้วครับก็บอกให้เจรจากันก่อน เฮ้อ) ตลอดเลย
ผมรบกวนสอบถามผู้ที่มีความรู้เรื่องนี้ด้วยนะครับ ว่าควรทำอย่างไรดี เราสามารถใช้กฏหมายอะไรมาเป็นข้อยุติได้ไหม
TT ขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ครับ
สอบถามเกี่ยวกับ การเช่าที่ดินวัด ครับ
น้ำ จะใช้ชื่อญาติที่ตอนนี้ไม่ได้อาศัยอยู่มานานแล้ว(แต่ก่อนจะให้ลูกกับลูกสะใภ้อยู่ ก่อนย้าย)
ส่วน ไฟ ตอนนี้เป็นชื่อของย่าแล้ว (อาศัยอยู่ในปัจจุบัน)
คุณย่าจะมีปัญหาเรื่องการคุยจรจากับอีกฝั่งหนึ่งเสมอ เรื่องที่จะเปลี่ยนชื่อที่ใช้น้ำมาเป็นชื่อของย่าเอง
ซึ่งก่อนนี้สามารถเปลี่ยนชื่อไฟได้ (พราะเหตุใดผมก็ไม่ทราบแน่ชัด)
ก่อนหน้าก็เฉลี่ยค่าน้ำค่าไฟกันได้ตามปกติ แฮะ
แต่ที่มีปัญหาอีกคือ ณ ปัจจุบัน บ้านอีกหลัง ได้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วเกือบสัก 2 ปีได้ ปล่อยให้บ้านนั้นรกร้าง โดยค่าเช่าที่ของวัด ครอบครอบผมก็ให้ตามปกติ พ่อผมลองเจรจากับเจ้าของบ้านหลังเก่าแล้ว เขาก็บอกว่าให้จ่ายเงินมาจำนวนหนึ่ง(ค่าไม้ค่าบ้าน) เพื่อที่จะเอาบ้านหลังนั้นไปเลย แต่ติดอยู่ที่ว่าบ้านหลังนั้นมีสภาพที่เก่ามากแล้ว (บ้านไม้) แบบเข้าไปเดินในบ้านทีก็ถล่มแน่ๆ ตอนน้ำท่วมปี54 เขาก็ไม่มาดู ยิ่งแย่ไปใหญ่
ครอบครัวผมได้ประเมินแล้วว่าถ้าซื้อบ้านหลังนั้นต่อมาก็ไม่สามารถน้ำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างแน่ๆ จะซื้อมารื้อทิ้งชัดๆ เปลืองเงินสิ้นดี
ณ ตอนนี้น่ากลัวมากๆ บ้านหลังนี้มีอาการทรุดลงแล้ว เหมือนจะพังลงให้ได้ เพราะเกิดจากน้ำท่วมด้วยมั้งผมว่า ผมเกรงว่ามันจะล้มมาใส่บ้านของผมและบ้านข้างเคียงหรือไม่ และครอบครัวผมก็อยากจะได้พื้นที่นั้นกลับมาใช้งานแทนด้วย
ส่วนตัวผมเอง ผมอยากรู้ครับว่าเราไม่มีทางไหนเลยหรอครับที่จะได้พื้นที่นั้นมา พื้นที่ไม่มากหรอกครับ ถ้าจะให้เขามารื้อบ้านทิ้งไปก็คงไม่ยอม การเจรจาไม่เป็นผลสักที และไม่อยากเสียเงินไปซื้อบ้านนั้นด้วย
และถ้าเกิดบ้านนั้นถล่มมาพรุ่งนี้ มะรืนนี้ เขาจะหาว่าครอบครัวเราเป็นคนทำไหมครับ และเมื่อบ้านพังจริง ไม่สามารถอยู่ได้ เขาจะมาชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากที่ไปล้มทับบ้านคนอื่นเสียหายไหมครับ และเขาจะมาเก็ยซากไหมอันนี้น่าคิดแหะ
แล้วเราสามารถที่จะขอพื้นที่ดินที่เช่าวัดที่เป็นสัญญาของย่าผม คืนได้เลยไหมครับโดยที่ไม่เจรจา
แบบว่ายึดเลย เอิ๊กๆ (เคยคุยกับทางเจ้าอาวาสวัดแล้วครับก็บอกให้เจรจากันก่อน เฮ้อ) ตลอดเลย
ผมรบกวนสอบถามผู้ที่มีความรู้เรื่องนี้ด้วยนะครับ ว่าควรทำอย่างไรดี เราสามารถใช้กฏหมายอะไรมาเป็นข้อยุติได้ไหม
TT ขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ครับ