มาดูเหตุผลว่าทำไม หมอของเราเก็บหุ้นเข้าพอร์ตกว่าพันล้านบาทช่วงที่ผ่านมา เพราะมันอาจจะมีพลังบางอย่างแอบแฝงอยู่ก็....เป็น...ด้ายยยย
BGH กำลังถึงจุดสยายปีก จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญนั้นเอง
.
.
.
อาณาจักรธุรกิจ เครือกรุงเทพดุสิตเวชการ (BANGKOK DUSIT MEDICAL SERVICES: BDMS) หรือกลุ่ม BGH ที่มีมูลค่ารวมในตลาดหลักทรัพย์ (มาร์เก็ตแคป) เกือบ 170,000 ล้านบาท กำลังเปิดเกมรุกสยายปีกครั้งใหม่แบบเจาะทุกชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งเป้าหมายของมหาเศรษฐีไทย นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ไม่ใช่แค่การเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่ต้องเป็นที่ 1 ในตลาดเอเชียแปซิฟิก เป็นยุทธศาสตร์โค่นล้มและสกัดคู่แข่งยักษ์ใหญ่สายพันธุ์มาเลเซีย ที่พยายามเจาะฐานประเทศไทยและประเทศอื่นๆ โดยรอบ เพื่อยึดตลาดอาเซียนทั้งหมด
ปัจจุบัน กลุ่ม BGH ประกอบด้วย
กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบีเอ็นเอช กลุ่มโรงพยาบาลรอยัล กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล กลุ่มโรงพยาบาลที่ลงทุนถือหุ้นใหญ่แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารอีก 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลรามคำแหง โรงพยาบาลกรุงธน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และโรงพยาบาลเอกอุดร
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ได้แก่ บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเทมส์ ศูนย์วิเคราะห์โลหิตที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดของไทยและอยู่ในระดับแนวหน้าของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ไบโอ โมเลกุลลาร์ แลบบอราทอรี่ส์ห้องปฏิบัติการชีวโมเลกุล บริษัท สหแพทย์เภสัช จำกัด ผู้ผลิตยา บริษัท กรุงเทพเฮลิคอปเตอร์ เซอร์วิสเซส จำกัด ให้บริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางอากาศทั่วประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมสนับสนุนการให้บริการของทุกโรงพยาบาลในเครือ และบริษัท กรุงเทพพรีเมียร์นายหน้าประกันชีวิต จำกัด ผู้ให้บริการประกันสุขภาพและประกันชีวิต
สำหรับปฏิบัติการรุกสยายปีกครั้งใหม่และครั้งใหญ่เริ่มต้นอย่างชัดเจนในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่กลุ่ม BGH ต้องการเปิด
“คลินิกชุมชน” เปรียบเสมือนการขยายหน้าด่านแผนก OPD หรือ Out Patient Department ซึ่งเป็นจุดเริ่มรับคนไข้ในโรงพยาบาลออกสู่ชุมชน เพื่อเปิดช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งท้ายที่สุดจะกลายเป็นลูกค้าประจำของโรงพยาบาลตามกระบวนการการส่งต่อที่เริ่มต้นตั้งแต่การรักษาพยาบาลเบื้องต้น การส่งต่อไปยังโรงพยาบาลระดับกลางและโรงพยาบาลแม่ในกรณีการรักษาพยาบาลที่ต้องการหมอเฉพาะทางที่เชี่ยวชาญพิเศษ ซึ่งกลุ่ม BGH ขยายเครือข่ายครบทุกระดับการรักษาพยาบาลและทุกกลุ่มตลาด
ระดับที่ 1 ตติยภูมิ หรือ Top Tertiary Care Hospital เป็นโรงพยาบาลระดับท็อป ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่
ระดับที่ 2 ศูนย์ตติยภูมิหรือ Tertiary Hub ได้แก่ โรงพยาบาลสมิติเวช พญาไท 2
กรุงเทพพัทยา ภูเก็ต นครราชสีมา และเชียงใหม่ ที่กำลังก่อสร้างจะเปิดให้บริการในปี 2557
ระดับที่ 3 ตติยภูมิธรรมดา ได้แก่ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช ตามด้วยระดับที่ 4ทุติยภูมิ หรือโรงพยาบาล ระดับกลาง ได้แก่ โรงพยาบาลเปาโล กรุงเทพพระประแดง และโรงพยาบาลที่จะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ คือ โรงพยาบาลจอมเทียน จ. ชลบุรี สุนทรภู่ จ.ระยอง และดีบุก จ.ภูเก็ต
และระดับที่ 5 ขั้นปฐมภูมิ หรือ Primary หรือ “คลินิกชุมชน” ที่ถือเป็นโมเดลใหม่ที่กำลังบุกเต็มแพลทฟอร์มแยกตามลักษณะตลาดของแต่ละแบรนด์ เพื่อขยายไปยังชุมชน หัวเมือง จังหวัดใหญ่ ซึ่งตามแผนตั้งเป้าขยายคลินิกชุมชนมากกว่า 100 แห่ง
อย่างคลินิกชุมชนของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ใช้ชื่อว่า B+TELECARE Clinic (บีพลัส เทเลแคร์คลินิก) ซึ่งเริ่มนำร่องให้บริการ 2 สาขา คือ สาขารามคำแหง 106 กับสาขาเจริญกรุง 93 ส่วนสาขาที่ 3 วัชรพล จะเปิดให้บริการต้นปีหน้า
กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชใช้ชื่อว่า “สมิติเวช คลินิกเวชกรรม” ปัจจุบันเปิดแล้ว 9 แห่ง ได้แก่ สาขาเมืองทองธานี สาขาแจ้งวัฒนะ สาขาอมอรินี รามอินทรา สาขาลาซาล สาขาสนามบินสุวรรณภูมิ สาขาอีสเทิร์นซีบอร์ด สาขาชลบุรี สาขาแหลมฉบัง และสาขาเครือสหพัฒน์
กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท ใช้ชื่อว่า “พญาไท คลินิกเวชกรรม” ล่าสุดเริ่มทดลองเปิด 2 สาขาที่บ่อวินและศรีราชา แต่จะรวมเป็นสาขาเดียวที่บ่อวิน จ. ชลบุรี
ส่วนกลุ่มโรงพยาบาลเปาโลยังเน้นการขยายในรูปแบบโรงพยาบาลมากกว่าคลินิก เนื่องจากทั้ง 4 สาขาในปัจจุบัน ได้แก่ พหลโยธิน (สะพานควาย) โชคชัย 4 นวมินทร์ และสมุทรปราการ อยู่ในทำเลย่านชุมชน เดินทางสะดวก และโดยนโยบายวางกลุ่มเปาโลเป็นโรงพยาบาลชุมชนอย่างแท้จริง เน้นตลาดระดับกลาง คนทำงาน ชนชั้นกลางและกลุ่มประกันสังคมอยู่แล้ว
ทั้งนี้ รูปแบบคลินิกชุมชนใช้เงินลงทุนต่อสาขาเบื้องต้นประมาณ 20 ล้านบาท จะมีแพทย์และพยาบาลประจำแต่ละสาขา พร้อมทั้งเครื่องเอกซเรย์และแล็บต่างๆ ซึ่งในกรณีการอ่านผลหรือการปรึกษารักษาในเคสยากๆ จะส่งมายังส่วนกลาง ผ่านระบบ Tele conference หรือประชุมทางไกล เพื่อปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง
อัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสเครือโรงพยาบาลพญาไทและเครือโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล กล่าวกับ ผู้จัดการ360 ํ เกี่ยวกับแนวคิดการขยายคลินิกชุมชน เนื่องจากการเปิดคลินิกมีต้นทุนการบริหารต่ำกว่าต้นทุนของโรงพยาบาล ซึ่งทำให้ยอดค่าบริการต่ำกว่และในข้อเท็จจริงการรักษาโรคกว่า 70-80% เป็นอาการพื้นฐาน ปวดหัว ตัวร้อน ท้องเสีย ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาล แต่คลินิกที่มีอยู่ในตลาดทั่วไปยังขาดจุดแข็งเรื่องคุณภาพ ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงเพื่อมาโรงพยาบาล ทั้งค่าบริการ ค่าแพทย์ ค่ายา ที่คิดตามมาตรฐานโรงพยาบาล
-
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ See more at: http://www.gotomanager.com/content/%E2%80%9Cbgh%E2%80%9D-%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81-3-%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%81-%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99-%E2%80%9C%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%8A%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%81%E2%80%9D-%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94#sthash.KvKseqTJ.dpuf
ต่อ........
** ก้าวสำคัญของ BGH ใน 5-10 ข้างหน้า เปิดโมเดลใหม่ "“แฟรนไชส์คลินิก”"
BGH กำลังถึงจุดสยายปีก จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญนั้นเอง
.
.
.
อาณาจักรธุรกิจ เครือกรุงเทพดุสิตเวชการ (BANGKOK DUSIT MEDICAL SERVICES: BDMS) หรือกลุ่ม BGH ที่มีมูลค่ารวมในตลาดหลักทรัพย์ (มาร์เก็ตแคป) เกือบ 170,000 ล้านบาท กำลังเปิดเกมรุกสยายปีกครั้งใหม่แบบเจาะทุกชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งเป้าหมายของมหาเศรษฐีไทย นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ไม่ใช่แค่การเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่ต้องเป็นที่ 1 ในตลาดเอเชียแปซิฟิก เป็นยุทธศาสตร์โค่นล้มและสกัดคู่แข่งยักษ์ใหญ่สายพันธุ์มาเลเซีย ที่พยายามเจาะฐานประเทศไทยและประเทศอื่นๆ โดยรอบ เพื่อยึดตลาดอาเซียนทั้งหมด
ปัจจุบัน กลุ่ม BGH ประกอบด้วยกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบีเอ็นเอช กลุ่มโรงพยาบาลรอยัล กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล กลุ่มโรงพยาบาลที่ลงทุนถือหุ้นใหญ่แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารอีก 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลรามคำแหง โรงพยาบาลกรุงธน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และโรงพยาบาลเอกอุดร
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ได้แก่ บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเทมส์ ศูนย์วิเคราะห์โลหิตที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดของไทยและอยู่ในระดับแนวหน้าของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ไบโอ โมเลกุลลาร์ แลบบอราทอรี่ส์ห้องปฏิบัติการชีวโมเลกุล บริษัท สหแพทย์เภสัช จำกัด ผู้ผลิตยา บริษัท กรุงเทพเฮลิคอปเตอร์ เซอร์วิสเซส จำกัด ให้บริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางอากาศทั่วประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมสนับสนุนการให้บริการของทุกโรงพยาบาลในเครือ และบริษัท กรุงเทพพรีเมียร์นายหน้าประกันชีวิต จำกัด ผู้ให้บริการประกันสุขภาพและประกันชีวิต
สำหรับปฏิบัติการรุกสยายปีกครั้งใหม่และครั้งใหญ่เริ่มต้นอย่างชัดเจนในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่กลุ่ม BGH ต้องการเปิด “คลินิกชุมชน” เปรียบเสมือนการขยายหน้าด่านแผนก OPD หรือ Out Patient Department ซึ่งเป็นจุดเริ่มรับคนไข้ในโรงพยาบาลออกสู่ชุมชน เพื่อเปิดช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งท้ายที่สุดจะกลายเป็นลูกค้าประจำของโรงพยาบาลตามกระบวนการการส่งต่อที่เริ่มต้นตั้งแต่การรักษาพยาบาลเบื้องต้น การส่งต่อไปยังโรงพยาบาลระดับกลางและโรงพยาบาลแม่ในกรณีการรักษาพยาบาลที่ต้องการหมอเฉพาะทางที่เชี่ยวชาญพิเศษ ซึ่งกลุ่ม BGH ขยายเครือข่ายครบทุกระดับการรักษาพยาบาลและทุกกลุ่มตลาด
ระดับที่ 1 ตติยภูมิ หรือ Top Tertiary Care Hospital เป็นโรงพยาบาลระดับท็อป ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่
ระดับที่ 2 ศูนย์ตติยภูมิหรือ Tertiary Hub ได้แก่ โรงพยาบาลสมิติเวช พญาไท 2 กรุงเทพพัทยา ภูเก็ต นครราชสีมา และเชียงใหม่ ที่กำลังก่อสร้างจะเปิดให้บริการในปี 2557
ระดับที่ 3 ตติยภูมิธรรมดา ได้แก่ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช ตามด้วยระดับที่ 4ทุติยภูมิ หรือโรงพยาบาล ระดับกลาง ได้แก่ โรงพยาบาลเปาโล กรุงเทพพระประแดง และโรงพยาบาลที่จะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ คือ โรงพยาบาลจอมเทียน จ. ชลบุรี สุนทรภู่ จ.ระยอง และดีบุก จ.ภูเก็ต
และระดับที่ 5 ขั้นปฐมภูมิ หรือ Primary หรือ “คลินิกชุมชน” ที่ถือเป็นโมเดลใหม่ที่กำลังบุกเต็มแพลทฟอร์มแยกตามลักษณะตลาดของแต่ละแบรนด์ เพื่อขยายไปยังชุมชน หัวเมือง จังหวัดใหญ่ ซึ่งตามแผนตั้งเป้าขยายคลินิกชุมชนมากกว่า 100 แห่ง
อย่างคลินิกชุมชนของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ ใช้ชื่อว่า B+TELECARE Clinic (บีพลัส เทเลแคร์คลินิก) ซึ่งเริ่มนำร่องให้บริการ 2 สาขา คือ สาขารามคำแหง 106 กับสาขาเจริญกรุง 93 ส่วนสาขาที่ 3 วัชรพล จะเปิดให้บริการต้นปีหน้า
กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชใช้ชื่อว่า “สมิติเวช คลินิกเวชกรรม” ปัจจุบันเปิดแล้ว 9 แห่ง ได้แก่ สาขาเมืองทองธานี สาขาแจ้งวัฒนะ สาขาอมอรินี รามอินทรา สาขาลาซาล สาขาสนามบินสุวรรณภูมิ สาขาอีสเทิร์นซีบอร์ด สาขาชลบุรี สาขาแหลมฉบัง และสาขาเครือสหพัฒน์
กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท ใช้ชื่อว่า “พญาไท คลินิกเวชกรรม” ล่าสุดเริ่มทดลองเปิด 2 สาขาที่บ่อวินและศรีราชา แต่จะรวมเป็นสาขาเดียวที่บ่อวิน จ. ชลบุรี
ส่วนกลุ่มโรงพยาบาลเปาโลยังเน้นการขยายในรูปแบบโรงพยาบาลมากกว่าคลินิก เนื่องจากทั้ง 4 สาขาในปัจจุบัน ได้แก่ พหลโยธิน (สะพานควาย) โชคชัย 4 นวมินทร์ และสมุทรปราการ อยู่ในทำเลย่านชุมชน เดินทางสะดวก และโดยนโยบายวางกลุ่มเปาโลเป็นโรงพยาบาลชุมชนอย่างแท้จริง เน้นตลาดระดับกลาง คนทำงาน ชนชั้นกลางและกลุ่มประกันสังคมอยู่แล้ว
ทั้งนี้ รูปแบบคลินิกชุมชนใช้เงินลงทุนต่อสาขาเบื้องต้นประมาณ 20 ล้านบาท จะมีแพทย์และพยาบาลประจำแต่ละสาขา พร้อมทั้งเครื่องเอกซเรย์และแล็บต่างๆ ซึ่งในกรณีการอ่านผลหรือการปรึกษารักษาในเคสยากๆ จะส่งมายังส่วนกลาง ผ่านระบบ Tele conference หรือประชุมทางไกล เพื่อปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง
อัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสเครือโรงพยาบาลพญาไทและเครือโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล กล่าวกับ ผู้จัดการ360 ํ เกี่ยวกับแนวคิดการขยายคลินิกชุมชน เนื่องจากการเปิดคลินิกมีต้นทุนการบริหารต่ำกว่าต้นทุนของโรงพยาบาล ซึ่งทำให้ยอดค่าบริการต่ำกว่และในข้อเท็จจริงการรักษาโรคกว่า 70-80% เป็นอาการพื้นฐาน ปวดหัว ตัวร้อน ท้องเสีย ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาล แต่คลินิกที่มีอยู่ในตลาดทั่วไปยังขาดจุดแข็งเรื่องคุณภาพ ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงเพื่อมาโรงพยาบาล ทั้งค่าบริการ ค่าแพทย์ ค่ายา ที่คิดตามมาตรฐานโรงพยาบาล
-[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ต่อ........