อยากจะแชร์ประสบการณ์ขูดมดลูก ที่ผ่านมาของตัวเราเองค่ะ พอดีได้กลับมาอ่านบันทึกที่ตัวเองได้เขียนไว้ แล้วทำให้นึกได้ว่า อืมม..เราก็ผ่านมันมาได้จริงๆ ความโศกเศร้า เสียใจในตอนนั้น และสำหรับในตอนนี้เราก็ได้ตั้งครรภ์ใหม่อีกครั้ง ยังไงก็เป็นกำลังใจให้แม่ๆ ทุกคนสู้ๆ อย่าท้อ หรือเศร้าโศกเสียใจนาน ชีวิตยังต้องมีความหวังกันต่อไปนะคะ
มาเริ่มกันเล๊ยยย.........
ก็ไม่เคยคิดนะว่า..ตัวเองจะได้สัมผัสประสบการณ์นี้ มันไม่ใช่เรื่องที่สวยงามเท่าไหร่เลย แต่เราต้องผ่านมันไปได้
หลังจากที่เมื่อวาน วันที่ 9 ก.ค. 2556 ในขณะที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในช่วงบ่าย ก็รู้สึกมีอาการปวดท้องน้อยจี๊ด.. จี๊ด.. ไม่ปวดมาก แต่ก็รีบเข้าห้องน้ำเพื่อเช็คความผิดปกติทันที.. แต่ก็ต้องใจหายแว๊ป.. เมื่อเจอมูกเลือดเปื้อนติดกระดาษทิชชู่ออกมา จากนั้นเราก็รีบเดินไปบอกพี่ๆที่ออฟฟิศ และรีบโทรบอกบ๊อง(สามี) โทรบอกหมอ คุณหมอบอกให้รีบมา ร.พ. ทันที
ออกจากออฟฟิศมาถึง ร.พ. ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที คุณหมอให้ทำอัลตร้าซาวด์เพื่อดูว่าลูกยังปลอดภัยดีหรือป่าว ระหว่างที่รอ รู้สึกเลยว่าตัวเองสั่นมาก มือสั่น ขาสั่น ควบคุมอาการสั่นไม่ได้เลย เรากำลังกลัวมากๆ...
ไม่นานคุณหมอก็เรียกเข้าห้องเพื่อทำอัลตร้าซาวด์ โดยทำผ่านทางช่องคลอด เรามองไปที่จอมอนิเตอร์ด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ
"คุณหมอคะ ทำไมเค้าตัวเล็กจังคะ เค้าจะเป็นไรหรือป่าวคะ"
"เดี๋ยวนะครับ ใจเย็นๆ ขอหมอเช็คให้ละเอียดก่อน"
ซักพักได้ยินเสียงถอนหายใจของคุณหมอ...
"วัดจากถุงตั้งครรภ์ของคุณแม่ ได้ประมาณ 9 วีค 3 วันนะครับ ส่วนตัวอ่อน ให้วัดยาวสุดๆ แล้วมีขนาดแค่ 4 มิลกว่าๆเอง ซึ่งเมื่อเทียบกับ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ตัวอ่อนก็ยังเท่าเดิม ไม่มีการพัฒนาเพิ่มเลย และที่สำคัญไม่มีสัญญาณชีพบอกเลย เค้าไม่มีหัวใจเต้น"
"หรอคะ คุณหมอ.. แปลว่าเค้าไม่อยู่แล้วใช่ไหมคะ" ถามเสียงเบา
"ครับ ผ่านมา 2 อาทิตย์ จากการอัลตร้าซาวน์ครั้งที่แล้ว หมอมั่นใจว่า.. เค้าไม่อยู่แล้วครับ หมอเสียใจด้วยนะครับ"
ไม่มีคำพูดใดๆ มันเจ็บปวดลึกๆ นะ ถึงแม้ว่าจะทำใจมาตั้งแต่ 2 อาทิตย์ก่อนแล้วก็ตาม แต่สุดท้ายเราสองคนก็ต้องยอมรับความจริง และเดินหน้าต่อไป
คุณหมอให้เราเลือกระหว่างขูดมดลูก หรือรอให้หลุดเองตามธรรมชาติ เราเลือกวิธีขูดมดลูก เพราะลดความเสี่ยง หากว่ารอให้หลุดเอง ก็ไม่รู้จะหลุดเมื่อไหร่ หลุดครบไหม เสี่ยงต่อการตกเลือดที่อาจเกิดขึ้นได้..
"ตกลง คุณแม่เลือกขูดมดลูกนะครับ ถ้างั้นหมอจะนัดให้คุณแม่มาเหน็บยา ในเช้าพรุ่งนี้ มาถึง ร.พ. ประมาณ 7 โมงตรงนะครับ เพราะต้องทำเรื่องเบิกยา แล้วตอน 8 โมง หมอจะเหน็บยาให้คุณแม่เอง"
"ค่ะ" ได้แต่ตอบสั้นๆ คืนนี้ลูกคงได้อยู่กับเราเป็นคืนสุดท้าย..
เช้าวันรุ่งขึ้นของวันที่ 10 ก.ค. 2556 เราสองคนมาถึง ร.พ. ก่อนเวลา 15 นาที ที่จะ 7 โมงตรง นำใบนัดของหมอ ส่งให้พยาบาลที่เคาท์เตอร์ แล้วนั่งรอซักพัก...
ประมาณ 7.05 นาที
"คุณ xxx zzz ค่ะ" (นามสมมติ) พยาบาลขานชื่อ..
"ค่ะ"
"คุณ xxx นั่งรถเข็นนะคะ เดี๋ยวจะไปส่งที่ห้องรอคลอดค่ะ"
"อ่า.. ค่ะ" นั่งรถเข็น แล้วบุรุษพยาบาลก็เข็นไปส่งที่ห้องรอคลอด บ๊อง(สามี)ก็เดินตามมาด้วย ระหว่างทาง ใจเต้นตุบตับ..
พอถึงห้องรอคลอด มีพยาบาลคอยรับ และให้เราไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และบอกให้ญาตินั่งรอข้างนอกห้อง..
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เราก็มานอนรอที่เตียงผู้ป่วย ซึ่งมีแค่เราคนเดียว ยังไม่มีคนไข้คนอื่นๆ เลย
เวลา 7.30 พยาบาลก็มาเข้าสายน้ำเกลือให้
"ปวดหน่อยนะคะ คุณแม่" พยาบาลบอก
"ค่ะ..... " อุ๊บ!! ปวดจริงๆ ไม่นึกว่าจะปวดอย่างเง้..แอบเหลือบไปมอง เอ๊ะ?.. ยังไม่เข้าน้ำเกลือนี่นา เห็นกำลังเจาะเลือดเก็บใส่หลอด ด้วยความสงสัยเลยถามพยาบาล..
"อ๋อ เก็บเลือดไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน จะได้มีใช้ทันนะคะ ปวดหน่อยนะ"
เอ่อ... คิดในใจ ไม่หน่อยอ่า ปวดมากๆเลยแหล่ะ แต่ก็ทน T.T
ไม่นานก็ได้ยินพยาบาลอีกคน บอกว่า ยาเบิกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวรีบโทรบอกอาจารย์มาเหน็บยา...
เอาหล่ะสิ.. ร้อนๆ หนาวๆ ไม่รู้หลังเหน็บยาจะเป็นยังไง แอบถามพยาบาลว่า หลังจากเหน็บเสร็จจะเป็นยังไง ปวดท้องมากไหม พยาบาลบอกว่า จะปวดเหมือนปวดประจำเดือน
"คุณแม่ เคยปวดประจำเดือนไหมคะ" พยาบาลถาม
"อ่า.. เคยค่ะ แต่ก็ปวดไม่มาก พอทนได้" ตอบแล้วยิ้มแหยๆ
"ก็ ปวดราวๆนั้นหล่ะค่ะ แต่จะปวดมากกว่าหน่อย"
หือ... เอาหล่ะซี้ ปวดกว่าหน่อย คือ.. เราก็จำไม่ค่อยได้แล้วว่า ล่าสุดตรูปวดประจำเดือน ปวดมากน้อยแค่ไหน แล้วถ้าปวดกว่ามาก.. มันจะปวดไงว๊า นึกไม่ออกเลยจริงๆ -.-
7.45 คุณหมอมาแล้ว ถามเราว่า เมื่อคืนมีอาการปวดท้องไหม เราบอกว่าไม่มี หมอบอกโอเค เยี่ยม..
แล้วหมอก็อธิบายวิธีเหน็บยา พร้อมทั้งบอกหลังจากเหน็บแล้วจะมีอาการอย่างไรบ้าง.. บลาๆ ๆ
แล้วก็ถึงตอนเหน็บ.. มีพยาบาลช่วยจับขาถ่างออก หมอก็จัดการเหน็บยา มีทั้งหมด 4 เม็ด เม็ดนึงแบ่งออกเป็น 4 ส่วน แล้วหมอก็เหน็บๆ กดๆ ลึกๆ ในช่องคลอด คือ.. ก็เจ็บเหมือนกันนะ เจ็บตึงๆ
ไม่ถึง 3 นาที หมอก็เหน็บเสร็จ แล้วก็รอให้ยาออกฤทธิ์ เพื่อให้ปากมดลูกนิ่ม บาง และปากมดลูกเปิด ถึงจะทำการขูดมดลูกได้ ซึ่งก็ใช้เวลานานพอสมควร หมอคาดไว้ว่าน่าจะได้ขูดราวๆ บ่าย 2 ของวันนี้.. แล้วหมอก็ออกไป
ช่วงที่รอให้ปากมดลูกเปิด พยาบาลก็คอยมาวัดความดัน วัดไข้ เป็นระยะๆ
8.30 น. ยังชิวล์ ไม่มีอาการปวดท้องแต่อย่างใด
9.30 น. เริ่มมีปวดหน่วงๆ นิดเดียว นิดเดียวจริงๆ
10.30 น. มีปวดหน่วง คล้ายๆ ปวดประจำเดือน แต่ก็ยังรู้สึกปวดไม่มาก เมื่อเทียบกับปวดตอนเข้าน้ำเกลือ
11.00 น. เริ่มรู้สึกแล้วว่ามันจะปวดมากกว่า ปวดประจำเดือน แต่ก็พอทนได้ สูดหายใจเข้า-ออกลึกๆ
11.30-12.30 โอย... ช่วงนี้ปวดพีคแบบสุดๆ ความรู้สึกเหมือนสะโพกจะหลุดออกจากบั้นเอว เหมือนมีอะไรมาดึงให้มันหลุดออกจากกันให้ได้ ปวดมากกกก....ปวดถี่ๆ นอนตัวงอ เท้าจิก มือจิก จนจะไม่ไหวแล้ว ร้องบอกพยาบาลขอยาแก้ปวด พยาบาลบอกให้ไม่ได้ ถึงให้ตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น.... โอ๊ะ!! พระจ้าว.. พยายามหลับตา ข่มความเจ็บนี้ มดลูกบีบตัวแรงมาก แอบน้ำตาไหล เหมือนสติจะหลุด เลยพลิกตัวจะนอนหงาย แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีก้อนเลือดหลุดจากช่องคลอด
"ผลุบ"
"ปึ๊ด.. ปึ๊ด..." เหมือนมีเลือดไหลออกมาเยอะ 2 ครั้ง
จากนั้น... ความปวดก็ทุเลาลง รีบบอกพยาบาลมาดู ว่ามีอะไรหลุดออกมาหรือป่าว
หลังจากพยาบาลดูเสร็จ ก็รีบโทรหาคุณหมอว่า ปากมดลูกเราน่าจะพร้อมแล้ว เพราะเลือดไหลออกมาเยอะ
13.30 น. คุณหมอเข้ามาตรวจภายใน ดูว่าปากมดลูกเปิดพร้อมแล้วหรือยัง
หมอกำลังคลำปากมดลูก.. "อือ..ปากมดลูกเริ่มเปิดแล้ว แต่ยายังละลายไม่หมด"
หันไปบอกพยาบาล "เซ็ตเวลาเป็น บ่าย2โมงครึ่งนะ"
พร้อมหันมาบอกเรา "เดี๋ยว.. หมอจะขูดมดลูกให้ตอนบ่าย 2 โมงครึ่งนะ ตอนนี้ยาที่เหน็บละลายยังไม่หมด รออีกประมาณ 1 ชม. พร้อมขูดมดลูกนะ"
"ค่ะ คุณหมอ" ตอนนี้ยังพอรอไหว เพราะไม่ปวดท้องเท่าไหร่
14.00 น. เจ้าหน้าที่มารับตัวไปที่ห้องผ่าตัด เพื่อขูดมดลูก
ไปถึงห้องผ่าตัด พยาบาลวัดไข้ วัดความดัน พร้อมอธิบายการทำหัตถการขูดมดลูก และการรักษาตัวหลังภายหลังจากขูดมดลูก
"ขั้นตอนการขูดมดลูก คุณแม่จะไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ นะคะ เพราะแพทย์จะฉีดยานอนหลับผ่านสายน้ำเกลือให้คุณแม่หลับไป ซึ่งมีฤทธิ์อ่อนกว่ายาสลบ นับ 1-3 คุณแม่จะเคลิ้มหลับไปเลย จากนั้นแพทย์จะใช้เวลาในการขูดประมาณ 15 นาทีนะคะ"
"ค่ะ" รับแซ่บ
"หลังจากเสร็จแล้ว เราจะนำตัวคุณแม่มานอนพัก เพื่อเฝ้าดูอาการประมาณ 2 ชม. ถ้าคุณแม่ไม่มีอาการผิดปกติ เราจะส่งตัวคุณแม่กลับห้องพักนะคะ"
"ค่ะ" พยักหน้า หงึกๆ
หลังจากนั้นก็อธิบาย การรักษาตัวหลังจากขูดมดลูก บลาๆ ๆ
"คุณแม่มีคำถามอะไร อยากถามไหมคะ"
"มีค่ะ.. เอ่อ.. คือ หลังจากเสร็จแล้ว ทานข้าวได้ตอนไหนคะ แบบว่า.. หิวมากค่ะ แหะๆ" ^^'
เพราะก่อนขูดมดลูก ต้องงดน้ำ งดข้าว เป็นเวลา 6-8 ชม.
พยาบาลขำ.. "สงสัยคุณแม่จะหิวมากจริงๆ น่าจะกินได้เลยนะคะข้าวเย็น ถ้าหากคุณแม่ไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน"
14.30 น. เจ้าหน้าที่เข็นเตียงเข้าห้องผ่าตัด อื้อหือ.. ห้องนี้เย็นเฉียบเชียว ว่าแล้วก็ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า... ห้องดูขลังๆ ไงไม่รู้อ่ะ
"เย็นหน่อยนะคะ คุณแม่ ห้องนี้ หนาวไหม เดี๋ยวล้างทำความสะอาด ช่องคลอดให้ปลอดเชื้อนะคะ" พยาบาลบอก
"อ่าค่า" ตัวสั่นหงึกๆ ๆ
จากนั้นพยาบาลก็จับแขนกางออกทั้ง 2 ข้าง พร้อมมัดไว้ ฮ่วย -.-
แล้วก็ติดสายวัดการเต้นของหัวใจ แปะตรงหน้าอก ซี่โครง เยอะแยะเต็มไปหมด พร้อมทั้งยกขาทั้ง 2 ข้างขึ้นขาหยั่ง และครอบจมูกปากด้วยอ๊อกซิเจน
รู้สึกว่ามีหมอ และพยาบาลเยอะมาก ไม่ได้นับ ทุกคนดูเร่งมือทำ ตอนล้างช่องคลอด เย็นมาก สะดุ้งโหยงเลยล่ะ!!
"ต่อไป หมอจะฉีดยานอนหลับให้นะคับ แป๊ปนึงนะ.."
เหลือบไปมอง เห็นหมอกำลังฉีดเข้าสายน้ำเกลือ
"นับ 1-3 นะครับ"
ความรู้สึกตอนนั้น มันรู้สึกปวดมากตรงนิ้วกลางข้างซ้าย แล้วแขนชา ลามมาถึงต้นแขน กำลังจะบอกหมอว่า "หมอคะ ทำไมปวดแขนจัง" ก็ได้ยินหมอบอกให้นับ 1-3
"เอ้า นับก็นับ...หนึ่ง รู้สึกตาเริ่มเบลอ"
"สอ ง งงง ง..... หนังตาหนักอึ้ง แล้วก็หลับไปตอนไหนไม่รู้เรื่อง"
นับไม่ถึง 3 เลยอ่ะ -.-
มารู้สึกตัวอีกที หูได้ยินเสียงพยาบาลหลายคนร้องพร้อมกันเสียงดังว่า "เรียบร้อยแล้วค่ะ"
ลืมตามองเพดาน รู้ว่าตัวเองอยู่บนเตียงพักฟื้นแล้ว พร้อมทั้งอ๊อกซิเจนครอบปากจมูกอยู่...
พยาบาลบอกให้นอนพักซักงีบก่อน.. ก็หลับตา แต่ไม่ได้นอนหลับจริง ไม่ง่วง หูได้ยินแต่เสียง ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เครื่องบอกการเต้นของหัวใจ และเสียงวัดความดันเป็นระยะๆ..
และเนื่องจากกลัวตัวเองจะจำอะไรไม่ได้ นอนหลับตานึกว่า.. ตัวเองชื่ออะไร สามีชื่ออะไร พ่อแม่เราชื่ออะไร มีหมากี่ตัว ชื่ออะไรบ้าง ทำงานที่ไหน เกิดวันที่เท่าไหร่ วันนี้มาทำอะไร.. นึกๆ แล้วก็ขำตัวเองชมัด 555 นอนนึกอยู่อย่างนั้นจริงๆ จนแน่ใจว่าตัวเองไม้ได้ลืม เหอๆ
แล้วก็ลืมตามองไปรอบๆ ห้อง ไม่มึนหัว เลยมองไปที่นาฬิกา อ้าว!.. นี่ จะ 4 โมงครึ่งแล้วหรอ.. จำได้ว่าเราเข้าห้องผ่าตัดไปตอนบ่าย 2 ครึ่งนี่นา เราหลับไปนานขนาดนั้นเชียว.. เพราะตอนรู้สึกตัว ก็ว่าตัวเองไม่ได้หลับนานขนาดนั้น o.O
ซักพักก็มีพยาบาลโผล่หน้าเข้ามาในห้อง ถามเจ้าหน้าที่ว่า "เป็นไง!.. ได้ปั๊มหัวใจไหม"
"ไม่.. คนไข้ปลอดภัยดี รู้สึกตัวแล้ว" เจ้าหน้าที่ตอบ
... โชคดีที่เราปลอดภัย ....
ส่วนอาการหลังจากขูดเสร็จ เราก็รู้สึกยังมีเลือดไหล และปวดท้องหน่วงหน่อยๆ ไม่มาก พอทนได้ ซักพักหาย ซักพักปวดแค่นั้น
ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็เข็นเตียงมาส่งที่ห้องพัก เจอหน้าบ๊องก็สบายใจ.. พรุ่งนี้เราจะได้กลับบ้านแล้ว
หมอบอกให้พักผ่อนซัก 3-4 วัน ไม่ยกของหนักหรือทำกิจกรรมผาดโผน แล้วก็นัดตรวจอาการอีก 1 อาทิตย์..
สำหรับลูกของแม่.. แม่ไม่รู้ว่าหนูเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่แม่ก็หวังว่าลูกของแม่คงจะเป็นเทวดาหรือนางฟ่าตัวน้อยๆ ที่ิอยู่บนสวรรค์ รอพร้อม สมบูรณ์ และแข็งแรงที่จะมาเกิดเป็นลูกพ่อกับแม่อีกครั้งนะจ๊ะ จะรอหนูนะ รัก.. ^3^
มาแชร์ประสบการณ์ขูดมดลูกค่ะ
มาเริ่มกันเล๊ยยย.........
ก็ไม่เคยคิดนะว่า..ตัวเองจะได้สัมผัสประสบการณ์นี้ มันไม่ใช่เรื่องที่สวยงามเท่าไหร่เลย แต่เราต้องผ่านมันไปได้
หลังจากที่เมื่อวาน วันที่ 9 ก.ค. 2556 ในขณะที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในช่วงบ่าย ก็รู้สึกมีอาการปวดท้องน้อยจี๊ด.. จี๊ด.. ไม่ปวดมาก แต่ก็รีบเข้าห้องน้ำเพื่อเช็คความผิดปกติทันที.. แต่ก็ต้องใจหายแว๊ป.. เมื่อเจอมูกเลือดเปื้อนติดกระดาษทิชชู่ออกมา จากนั้นเราก็รีบเดินไปบอกพี่ๆที่ออฟฟิศ และรีบโทรบอกบ๊อง(สามี) โทรบอกหมอ คุณหมอบอกให้รีบมา ร.พ. ทันที
ออกจากออฟฟิศมาถึง ร.พ. ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที คุณหมอให้ทำอัลตร้าซาวด์เพื่อดูว่าลูกยังปลอดภัยดีหรือป่าว ระหว่างที่รอ รู้สึกเลยว่าตัวเองสั่นมาก มือสั่น ขาสั่น ควบคุมอาการสั่นไม่ได้เลย เรากำลังกลัวมากๆ...
ไม่นานคุณหมอก็เรียกเข้าห้องเพื่อทำอัลตร้าซาวด์ โดยทำผ่านทางช่องคลอด เรามองไปที่จอมอนิเตอร์ด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ
"คุณหมอคะ ทำไมเค้าตัวเล็กจังคะ เค้าจะเป็นไรหรือป่าวคะ"
"เดี๋ยวนะครับ ใจเย็นๆ ขอหมอเช็คให้ละเอียดก่อน"
ซักพักได้ยินเสียงถอนหายใจของคุณหมอ...
"วัดจากถุงตั้งครรภ์ของคุณแม่ ได้ประมาณ 9 วีค 3 วันนะครับ ส่วนตัวอ่อน ให้วัดยาวสุดๆ แล้วมีขนาดแค่ 4 มิลกว่าๆเอง ซึ่งเมื่อเทียบกับ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ตัวอ่อนก็ยังเท่าเดิม ไม่มีการพัฒนาเพิ่มเลย และที่สำคัญไม่มีสัญญาณชีพบอกเลย เค้าไม่มีหัวใจเต้น"
"หรอคะ คุณหมอ.. แปลว่าเค้าไม่อยู่แล้วใช่ไหมคะ" ถามเสียงเบา
"ครับ ผ่านมา 2 อาทิตย์ จากการอัลตร้าซาวน์ครั้งที่แล้ว หมอมั่นใจว่า.. เค้าไม่อยู่แล้วครับ หมอเสียใจด้วยนะครับ"
ไม่มีคำพูดใดๆ มันเจ็บปวดลึกๆ นะ ถึงแม้ว่าจะทำใจมาตั้งแต่ 2 อาทิตย์ก่อนแล้วก็ตาม แต่สุดท้ายเราสองคนก็ต้องยอมรับความจริง และเดินหน้าต่อไป
คุณหมอให้เราเลือกระหว่างขูดมดลูก หรือรอให้หลุดเองตามธรรมชาติ เราเลือกวิธีขูดมดลูก เพราะลดความเสี่ยง หากว่ารอให้หลุดเอง ก็ไม่รู้จะหลุดเมื่อไหร่ หลุดครบไหม เสี่ยงต่อการตกเลือดที่อาจเกิดขึ้นได้..
"ตกลง คุณแม่เลือกขูดมดลูกนะครับ ถ้างั้นหมอจะนัดให้คุณแม่มาเหน็บยา ในเช้าพรุ่งนี้ มาถึง ร.พ. ประมาณ 7 โมงตรงนะครับ เพราะต้องทำเรื่องเบิกยา แล้วตอน 8 โมง หมอจะเหน็บยาให้คุณแม่เอง"
"ค่ะ" ได้แต่ตอบสั้นๆ คืนนี้ลูกคงได้อยู่กับเราเป็นคืนสุดท้าย..
เช้าวันรุ่งขึ้นของวันที่ 10 ก.ค. 2556 เราสองคนมาถึง ร.พ. ก่อนเวลา 15 นาที ที่จะ 7 โมงตรง นำใบนัดของหมอ ส่งให้พยาบาลที่เคาท์เตอร์ แล้วนั่งรอซักพัก...
ประมาณ 7.05 นาที
"คุณ xxx zzz ค่ะ" (นามสมมติ) พยาบาลขานชื่อ..
"ค่ะ"
"คุณ xxx นั่งรถเข็นนะคะ เดี๋ยวจะไปส่งที่ห้องรอคลอดค่ะ"
"อ่า.. ค่ะ" นั่งรถเข็น แล้วบุรุษพยาบาลก็เข็นไปส่งที่ห้องรอคลอด บ๊อง(สามี)ก็เดินตามมาด้วย ระหว่างทาง ใจเต้นตุบตับ..
พอถึงห้องรอคลอด มีพยาบาลคอยรับ และให้เราไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และบอกให้ญาตินั่งรอข้างนอกห้อง..
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เราก็มานอนรอที่เตียงผู้ป่วย ซึ่งมีแค่เราคนเดียว ยังไม่มีคนไข้คนอื่นๆ เลย
เวลา 7.30 พยาบาลก็มาเข้าสายน้ำเกลือให้
"ปวดหน่อยนะคะ คุณแม่" พยาบาลบอก
"ค่ะ..... " อุ๊บ!! ปวดจริงๆ ไม่นึกว่าจะปวดอย่างเง้..แอบเหลือบไปมอง เอ๊ะ?.. ยังไม่เข้าน้ำเกลือนี่นา เห็นกำลังเจาะเลือดเก็บใส่หลอด ด้วยความสงสัยเลยถามพยาบาล..
"อ๋อ เก็บเลือดไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน จะได้มีใช้ทันนะคะ ปวดหน่อยนะ"
เอ่อ... คิดในใจ ไม่หน่อยอ่า ปวดมากๆเลยแหล่ะ แต่ก็ทน T.T
ไม่นานก็ได้ยินพยาบาลอีกคน บอกว่า ยาเบิกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวรีบโทรบอกอาจารย์มาเหน็บยา...
เอาหล่ะสิ.. ร้อนๆ หนาวๆ ไม่รู้หลังเหน็บยาจะเป็นยังไง แอบถามพยาบาลว่า หลังจากเหน็บเสร็จจะเป็นยังไง ปวดท้องมากไหม พยาบาลบอกว่า จะปวดเหมือนปวดประจำเดือน
"คุณแม่ เคยปวดประจำเดือนไหมคะ" พยาบาลถาม
"อ่า.. เคยค่ะ แต่ก็ปวดไม่มาก พอทนได้" ตอบแล้วยิ้มแหยๆ
"ก็ ปวดราวๆนั้นหล่ะค่ะ แต่จะปวดมากกว่าหน่อย"
หือ... เอาหล่ะซี้ ปวดกว่าหน่อย คือ.. เราก็จำไม่ค่อยได้แล้วว่า ล่าสุดตรูปวดประจำเดือน ปวดมากน้อยแค่ไหน แล้วถ้าปวดกว่ามาก.. มันจะปวดไงว๊า นึกไม่ออกเลยจริงๆ -.-
7.45 คุณหมอมาแล้ว ถามเราว่า เมื่อคืนมีอาการปวดท้องไหม เราบอกว่าไม่มี หมอบอกโอเค เยี่ยม..
แล้วหมอก็อธิบายวิธีเหน็บยา พร้อมทั้งบอกหลังจากเหน็บแล้วจะมีอาการอย่างไรบ้าง.. บลาๆ ๆ
แล้วก็ถึงตอนเหน็บ.. มีพยาบาลช่วยจับขาถ่างออก หมอก็จัดการเหน็บยา มีทั้งหมด 4 เม็ด เม็ดนึงแบ่งออกเป็น 4 ส่วน แล้วหมอก็เหน็บๆ กดๆ ลึกๆ ในช่องคลอด คือ.. ก็เจ็บเหมือนกันนะ เจ็บตึงๆ
ไม่ถึง 3 นาที หมอก็เหน็บเสร็จ แล้วก็รอให้ยาออกฤทธิ์ เพื่อให้ปากมดลูกนิ่ม บาง และปากมดลูกเปิด ถึงจะทำการขูดมดลูกได้ ซึ่งก็ใช้เวลานานพอสมควร หมอคาดไว้ว่าน่าจะได้ขูดราวๆ บ่าย 2 ของวันนี้.. แล้วหมอก็ออกไป
ช่วงที่รอให้ปากมดลูกเปิด พยาบาลก็คอยมาวัดความดัน วัดไข้ เป็นระยะๆ
8.30 น. ยังชิวล์ ไม่มีอาการปวดท้องแต่อย่างใด
9.30 น. เริ่มมีปวดหน่วงๆ นิดเดียว นิดเดียวจริงๆ
10.30 น. มีปวดหน่วง คล้ายๆ ปวดประจำเดือน แต่ก็ยังรู้สึกปวดไม่มาก เมื่อเทียบกับปวดตอนเข้าน้ำเกลือ
11.00 น. เริ่มรู้สึกแล้วว่ามันจะปวดมากกว่า ปวดประจำเดือน แต่ก็พอทนได้ สูดหายใจเข้า-ออกลึกๆ
11.30-12.30 โอย... ช่วงนี้ปวดพีคแบบสุดๆ ความรู้สึกเหมือนสะโพกจะหลุดออกจากบั้นเอว เหมือนมีอะไรมาดึงให้มันหลุดออกจากกันให้ได้ ปวดมากกกก....ปวดถี่ๆ นอนตัวงอ เท้าจิก มือจิก จนจะไม่ไหวแล้ว ร้องบอกพยาบาลขอยาแก้ปวด พยาบาลบอกให้ไม่ได้ ถึงให้ตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น.... โอ๊ะ!! พระจ้าว.. พยายามหลับตา ข่มความเจ็บนี้ มดลูกบีบตัวแรงมาก แอบน้ำตาไหล เหมือนสติจะหลุด เลยพลิกตัวจะนอนหงาย แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีก้อนเลือดหลุดจากช่องคลอด
"ผลุบ"
"ปึ๊ด.. ปึ๊ด..." เหมือนมีเลือดไหลออกมาเยอะ 2 ครั้ง
จากนั้น... ความปวดก็ทุเลาลง รีบบอกพยาบาลมาดู ว่ามีอะไรหลุดออกมาหรือป่าว
หลังจากพยาบาลดูเสร็จ ก็รีบโทรหาคุณหมอว่า ปากมดลูกเราน่าจะพร้อมแล้ว เพราะเลือดไหลออกมาเยอะ
13.30 น. คุณหมอเข้ามาตรวจภายใน ดูว่าปากมดลูกเปิดพร้อมแล้วหรือยัง
หมอกำลังคลำปากมดลูก.. "อือ..ปากมดลูกเริ่มเปิดแล้ว แต่ยายังละลายไม่หมด"
หันไปบอกพยาบาล "เซ็ตเวลาเป็น บ่าย2โมงครึ่งนะ"
พร้อมหันมาบอกเรา "เดี๋ยว.. หมอจะขูดมดลูกให้ตอนบ่าย 2 โมงครึ่งนะ ตอนนี้ยาที่เหน็บละลายยังไม่หมด รออีกประมาณ 1 ชม. พร้อมขูดมดลูกนะ"
"ค่ะ คุณหมอ" ตอนนี้ยังพอรอไหว เพราะไม่ปวดท้องเท่าไหร่
14.00 น. เจ้าหน้าที่มารับตัวไปที่ห้องผ่าตัด เพื่อขูดมดลูก
ไปถึงห้องผ่าตัด พยาบาลวัดไข้ วัดความดัน พร้อมอธิบายการทำหัตถการขูดมดลูก และการรักษาตัวหลังภายหลังจากขูดมดลูก
"ขั้นตอนการขูดมดลูก คุณแม่จะไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ นะคะ เพราะแพทย์จะฉีดยานอนหลับผ่านสายน้ำเกลือให้คุณแม่หลับไป ซึ่งมีฤทธิ์อ่อนกว่ายาสลบ นับ 1-3 คุณแม่จะเคลิ้มหลับไปเลย จากนั้นแพทย์จะใช้เวลาในการขูดประมาณ 15 นาทีนะคะ"
"ค่ะ" รับแซ่บ
"หลังจากเสร็จแล้ว เราจะนำตัวคุณแม่มานอนพัก เพื่อเฝ้าดูอาการประมาณ 2 ชม. ถ้าคุณแม่ไม่มีอาการผิดปกติ เราจะส่งตัวคุณแม่กลับห้องพักนะคะ"
"ค่ะ" พยักหน้า หงึกๆ
หลังจากนั้นก็อธิบาย การรักษาตัวหลังจากขูดมดลูก บลาๆ ๆ
"คุณแม่มีคำถามอะไร อยากถามไหมคะ"
"มีค่ะ.. เอ่อ.. คือ หลังจากเสร็จแล้ว ทานข้าวได้ตอนไหนคะ แบบว่า.. หิวมากค่ะ แหะๆ" ^^'
เพราะก่อนขูดมดลูก ต้องงดน้ำ งดข้าว เป็นเวลา 6-8 ชม.
พยาบาลขำ.. "สงสัยคุณแม่จะหิวมากจริงๆ น่าจะกินได้เลยนะคะข้าวเย็น ถ้าหากคุณแม่ไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน"
14.30 น. เจ้าหน้าที่เข็นเตียงเข้าห้องผ่าตัด อื้อหือ.. ห้องนี้เย็นเฉียบเชียว ว่าแล้วก็ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า... ห้องดูขลังๆ ไงไม่รู้อ่ะ
"เย็นหน่อยนะคะ คุณแม่ ห้องนี้ หนาวไหม เดี๋ยวล้างทำความสะอาด ช่องคลอดให้ปลอดเชื้อนะคะ" พยาบาลบอก
"อ่าค่า" ตัวสั่นหงึกๆ ๆ
จากนั้นพยาบาลก็จับแขนกางออกทั้ง 2 ข้าง พร้อมมัดไว้ ฮ่วย -.-
แล้วก็ติดสายวัดการเต้นของหัวใจ แปะตรงหน้าอก ซี่โครง เยอะแยะเต็มไปหมด พร้อมทั้งยกขาทั้ง 2 ข้างขึ้นขาหยั่ง และครอบจมูกปากด้วยอ๊อกซิเจน
รู้สึกว่ามีหมอ และพยาบาลเยอะมาก ไม่ได้นับ ทุกคนดูเร่งมือทำ ตอนล้างช่องคลอด เย็นมาก สะดุ้งโหยงเลยล่ะ!!
"ต่อไป หมอจะฉีดยานอนหลับให้นะคับ แป๊ปนึงนะ.."
เหลือบไปมอง เห็นหมอกำลังฉีดเข้าสายน้ำเกลือ
"นับ 1-3 นะครับ"
ความรู้สึกตอนนั้น มันรู้สึกปวดมากตรงนิ้วกลางข้างซ้าย แล้วแขนชา ลามมาถึงต้นแขน กำลังจะบอกหมอว่า "หมอคะ ทำไมปวดแขนจัง" ก็ได้ยินหมอบอกให้นับ 1-3
"เอ้า นับก็นับ...หนึ่ง รู้สึกตาเริ่มเบลอ"
"สอ ง งงง ง..... หนังตาหนักอึ้ง แล้วก็หลับไปตอนไหนไม่รู้เรื่อง"
นับไม่ถึง 3 เลยอ่ะ -.-
มารู้สึกตัวอีกที หูได้ยินเสียงพยาบาลหลายคนร้องพร้อมกันเสียงดังว่า "เรียบร้อยแล้วค่ะ"
ลืมตามองเพดาน รู้ว่าตัวเองอยู่บนเตียงพักฟื้นแล้ว พร้อมทั้งอ๊อกซิเจนครอบปากจมูกอยู่...
พยาบาลบอกให้นอนพักซักงีบก่อน.. ก็หลับตา แต่ไม่ได้นอนหลับจริง ไม่ง่วง หูได้ยินแต่เสียง ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด เครื่องบอกการเต้นของหัวใจ และเสียงวัดความดันเป็นระยะๆ..
และเนื่องจากกลัวตัวเองจะจำอะไรไม่ได้ นอนหลับตานึกว่า.. ตัวเองชื่ออะไร สามีชื่ออะไร พ่อแม่เราชื่ออะไร มีหมากี่ตัว ชื่ออะไรบ้าง ทำงานที่ไหน เกิดวันที่เท่าไหร่ วันนี้มาทำอะไร.. นึกๆ แล้วก็ขำตัวเองชมัด 555 นอนนึกอยู่อย่างนั้นจริงๆ จนแน่ใจว่าตัวเองไม้ได้ลืม เหอๆ
แล้วก็ลืมตามองไปรอบๆ ห้อง ไม่มึนหัว เลยมองไปที่นาฬิกา อ้าว!.. นี่ จะ 4 โมงครึ่งแล้วหรอ.. จำได้ว่าเราเข้าห้องผ่าตัดไปตอนบ่าย 2 ครึ่งนี่นา เราหลับไปนานขนาดนั้นเชียว.. เพราะตอนรู้สึกตัว ก็ว่าตัวเองไม่ได้หลับนานขนาดนั้น o.O
ซักพักก็มีพยาบาลโผล่หน้าเข้ามาในห้อง ถามเจ้าหน้าที่ว่า "เป็นไง!.. ได้ปั๊มหัวใจไหม"
"ไม่.. คนไข้ปลอดภัยดี รู้สึกตัวแล้ว" เจ้าหน้าที่ตอบ
... โชคดีที่เราปลอดภัย ....
ส่วนอาการหลังจากขูดเสร็จ เราก็รู้สึกยังมีเลือดไหล และปวดท้องหน่วงหน่อยๆ ไม่มาก พอทนได้ ซักพักหาย ซักพักปวดแค่นั้น
ไม่นานเจ้าหน้าที่ก็เข็นเตียงมาส่งที่ห้องพัก เจอหน้าบ๊องก็สบายใจ.. พรุ่งนี้เราจะได้กลับบ้านแล้ว
หมอบอกให้พักผ่อนซัก 3-4 วัน ไม่ยกของหนักหรือทำกิจกรรมผาดโผน แล้วก็นัดตรวจอาการอีก 1 อาทิตย์..
สำหรับลูกของแม่.. แม่ไม่รู้ว่าหนูเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่แม่ก็หวังว่าลูกของแม่คงจะเป็นเทวดาหรือนางฟ่าตัวน้อยๆ ที่ิอยู่บนสวรรค์ รอพร้อม สมบูรณ์ และแข็งแรงที่จะมาเกิดเป็นลูกพ่อกับแม่อีกครั้งนะจ๊ะ จะรอหนูนะ รัก.. ^3^