แชร์ประสบการณ์ท้องลม จนถึงการขูดมดลูกแบบใช้สิทธิประกันสังคม

สวัสดีค่ะ เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ท้องลม จนถึงการขูดมดลูกแบบใช้สิทธิประกันสังคมค่ะ

เราอายุ 34 ปี มีภาวะ PCOS (ถุงน้ำรังไข่หลายใบ) ทำให้มีบุตรยากค่ะ เราเตรียมฟื้นฟูร่างกายอย่างดีตลอดระยะเวลา 3 เดือน ทำให้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตรวจการตั้งครรภ์แล้วขึ้น 2 ขีด

ตอนที่ 1 : ท้องลมท้องแรกของเรา
13 ส.ค : ประจำเดือนวันแรกของครั้งสุดท้าย 
28 ส.ค - 4 ก.ย : ช่วงระหว่างไข่ตก และทำการบ้านวันเว้นวัน 
22 ก.ย. : ตรวจการตั้งครรภ์ ผลขึ้น 2 ขีด 
28-29 ก.ย. : มีเปื้อนน้ำตาลออกมาเล็กน้อย 
1 ต.ค : ไปหาหมอที่รพ.เอกชน คุณหมออัลตราซาวด์ทางช่องคลอด พบแต่ถึงตั้งครรภ์ไม่เจอตัวเด็ก (ขนาดถุง 0.5, 5week 2day) วินิจฉัยเบื้องต้นอาจจะเป็นท้องลม แต่ก็ตัดสินใจฉีดยากันแท้ง และยากินกันแท้งมา 2 สัปดาห์ 

18 ต.ค : ไปหาหมอที่รพ.เอกชนเดิม เพื่อติดตามผล แต่เปลี่ยนคุณหมอ คุณหมออัลตราซาวด์ทางช่องคลอด พบแต่ถึงตั้งครรภ์ไม่เจอตัวเด็กเช่นเดิม (ขนาดถุง 1.92) เพื่อนประเมินให้แน่ใจ คุณหมอเลยให้ตรวจเลือด ค่าเลือดออกมา 26,000 และขอนัดติดตามให้หลังอีก 1 สัปดาห์ 

25 ต.ค : ไปหาหมอที่รพ.เอกชนเดิม เพื่อติดตามผล แต่เปลี่ยนคุณหมอ คุณหมออัลตราซาวด์ทางช่องคลอด พบแต่ถุงตั้งครรภ์ไม่เจอตัวเด็กเช่นเดิม และถุงเริ่มมีการหลุดลอก (ขนาดถุง 2.16, 6week 5day) และผลเลือดของวันนี้คือ 22,000 คุณหมอวินิจฉัยแล้วว่าเป็น "ท้องลม" เพราะชัดเจนแล้วว่าค่า HCG ลดลง เคสเราถ้านับอายุครรภ์ตามรอบประจำเดือนกับที่อัลตราซาวน์ไม่ตรงกันมากๆเลยค่ะ ถ้าใช้หลักการนับตามประเดือนที่มารอบล่าสุด วันนี้อายุครรภ์ควรจะประมาณ 10 สัปดาห์ได้ แต่ด้วยความที่เราไข่ตกช้าเลยคลาดเคลื่อนไป ... แต่มันก็คลาดเคลื่อนมากๆค่ะ

***ตั้งแต่ได้ฉีดยากันแท้ง ไม่มีอาการปวดท้องหรือเลือดออกมาเลย ทุกอย่างปกติมากๆ อาการแพ้ท้อง มีแต่คลื่นไส้กับปวดหลังเท่านั้น***
ตอนที่ 2 : ขูดมดลูกแบบใช้สิทธิประกันสังคม

เราได้เช็คราคาขูดมดลูกของรพ.เอกชนที่ตรวจอยู่ ราคาค่อนข้างสูง เลยพยายามเช็คราคาจากหลายๆ รพ. จนกระทั่งไปหาข้อมูลใน YouTube และเจอในคอมเม้นท์ว่าเขาไปขูดมดลูกที่รพ.ภายใต้สิทธิรพ.ประกันสังคม
เราเลยตัดสินใจไปที่รพ.ที่เรามีสิทธิประกันสังคมอยู่ (เป็น รพ.เอกชน) เพื่อไปทำเรื่องขอขูดมดลูกที่นั่น โดยเตรียมประวัติการรักษาไป เช่น ผลอัลตร้าซาวด์ และผลเลือดจากรพ.ก่อนหน้าไปด้วย

27 ต.ค : ไปลงทะเบียนผู้ป่วยปกติ วัดความดัน และเจอคุณหมอทั่วไปก่อน เพื่อให้คุณหมอประเมินประวัติของเราเบื้องต้นและส่งเราไปยังแผนกสูติ 
เมื่อไปถึงแผนกสูติแล้ว คุณหมอสอบถามประวัติอีกครั้ง และอัลตราซาวด์ช่องคลอด ก็ยังพบว่าเจอถุงครรภ์แต่ไม่เจอเด็กเช่นเดิม (ขนาดถุง 2.5, 6week 2day) รวมถึงตรวจเลือดเราอีกครั้ง ได้ค่า HCG 25,000 คุณหมอเองก็วินิจฉัยว่าท้องลมเช่นกัน แต่เพื่อความมั่นใจ เลยนัดให้มาตรวจเลือดอีกวันในวันรุ่งขึ้น (หมอไม่ได้ให้ใบรูปอัลตราซาวน์มา และเราก็ไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วยค่ะ)
28 ต.ค : ยื่นใบนัด วัดความดัน และตรวจเลือดเลย ประมาณ 2 ชั่วโมง พยาบาลแจ้งผลเลือดได้ 22,000 เป็นที่ชัดเจนว่า ท้องลม คุณหมอนัดขูดมดลูกในอาทิตย์หน้า
***ที่เราตรวจวันที่ 27-28 ต.ค. เราไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยค่ะ***
2 พ.ย : วันนัดขูดมดลูก ตามใบนัดเขานัด 8 โมงเช้า ด้วยความที่เรายังไม่มีอาการปวดท้องหรือเลือดออกเลย เราเลยตัดสินใจไปอีกฝั่งของรพ. เพื่อไปให้คุณหมออีกท่านอัลตราซาวด์ แบบเสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาดก่อนขูดมดลูกในวันนี้ ผลอัลตร้าซาวด์ชัดเจนว่าไม่มีเด็ก และถุงเริ่มมีการหลุดลอกแล้ว 



หลังจากการตรวจแบบเสียค่าใช้จ่ายไปประมาณ 3,1xx บาท ประมาณ 9 โมงครึ่งเราก็เดินไปฝั่งของประกันสังคม เพื่อยืนยันตัดสินใจขูดมดลูก 


ขั้นตอนการขูดมดลูก : งดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืนก่อนวันขูดมดลูก, ไม่แต่งหน้า ทาเล็บ ใส่คอนเทคเลนส์, ของมีค่าให้ฝากญาติไว้ด้านนอกนะคะ
ระยะเวลา 10.00 - 15.00 น. ไม่ค้างคืนรพ.

1) ที่แผนกสูติของประกันสังคม พยาบาลจะให้เรากรอกเอกสาร เซ็นชื่อยินยอมการเข้ารักษาในวันนี้ และติดแท็กป้ายชื่อคนไข้ที่ข้อมือ เจ้าหน้าที่จะพาเราขึ้นไปยังห้องคลอด
2) เมื่อถึงห้องคลอด พยาบาลจะให้เราเปลี่ยนชุด ถอดเสื้อในและกางเกงใน และสวมผ้าอนามัยของทางโรงพยาบาลแทน
3) พยาบาลจะให้เราขึ้นนอนรอที่เตียง เจาะสายน้ำเกลือ หลังจากนั้นจะมาสอดยาที่ช่องคลอด เพื่อให้ปากมดลูกเปิด เราโดนสอดยาประมาณ 10.30 น. ซึ่งหลังสอดยา เราไม่มีอาการปวดท้อง แค่รู้สึกได้ว่าเริ่มมีเลือดออกเท่านั้น
4) คุณหมอขึ้นมาที่ห้องคลอดประมาณ 12.30 น.ได้ และมาเช็คว่าปากมดลูกเราเปิดพร้อมที่จะขูดแล้วหรือยัง ซึ่งของเราเปิดพอดี พยาบาลจะให้เราปัสสาวะอีกรอบก่อนที่จะเข้าไปขูดมดลูก
5) พยาบาลพาเราไปที่ห้องผ่าตัด เตรียมขึ้นขาหยั่ง วัดความดัน ใส่สายออกซิเจนที่จมูก ระหว่างที่คุณหมอกำลังจะเตรียมขูด พยาบาลก็จะฉีดยานอนหลับผ่านทางสายน้ำเกลือ มันจะเป็นความรู้สึกเจ็บแปลบสุดๆ หลังจากนั้นนับ 1 2 3 เราก็หลับไปเลยค่ะ 
6) เราฟื้นอีกทีตอน 1.00 น. มีอาการมึนๆเล็กน้อย ไม่มีเจ็บอะไรเลย ยกเว้นรู้สึกหน่วงๆท้องน้อย ไม่ได้ปวดอะไร และนอนอยู่อย่างนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างนอนพยาบาลจะมาตรวจเช็คความดันเราค่ะ
7) เวลา 2.00 น. พยาบาลพาเราไปนอนที่เดิม ที่ที่ตอนโดนสอดยา ทางรพ. เตรียมอาหารและน้ำไว้ให้ (ไม่คาดคิดว่าจะมี) พยาบาลบอกว่าถ้ายังมีอาการมึนให้นอนก่อน เพราะหากทานข้าวเลย อาจจะอาเจียนได้ เราเลยนอนหลับตาต่ออีก 10 นาที ใจก็หิวมากๆ เพราะอดข้าวอดน้ำตั้งแต่ก่อนเที่ยงคืนอีก อาหารที่รพ.เตรียมไว้ให้ เป็นข้าวสวย และกับข้าว 2 อย่าง เราทานหมดเลยค่ะ หิวมากๆ แล้วก็ทานยาที่คุณหมอเตรียม เป็นยาแก้ปวดและยาฆ่าเชื้อ หลังจากทานเรียบร้อยแล้ว พยายาลจะเข้ามาอธิบายการดูแลตัวเองหลังขูดมดลูก และยาที่เราจะได้รับกลับบ้าน เมื่ออธิบายเสร็จเขาจะให้เรานอนอีก 1 ชั่วโมงเพื่อรอดูอาการอีกนิด และจะให้ญาติมารับประมาณ 15.00 น. ก็เสร็จเรียบร้อบค่ะ
 ***ค่าใช้จ่ายในการขูดมดลูกวันนี้ ทั้งหมด 141 บาทเท่านั้นค่ะ***
ตลอดระยะเวลาที่เริ่มเข้ารักษาโดยใช้สิทธิประกันสังคมที่ รพ.เอกชนแห่งนี้ เรารู้สึกประทับใจมากๆ ค่ะ คุณหมอดี พยาบาลดูแลดีมากๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรพ. และข้อสำคัญคือประหยัดค่าใช้จ่ายสุดๆ

 หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่มีประสบการณ์ท้องลมนะคะ ขอแค่มีกำลังใจให้ตัวเอง และดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีต่อไปค่ะ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่