รถมือสองซึมยาว ผู้ค้าหั่นราคาระบายสต็อก พบบางรุ่นขาดทุน 2 แสน เตรียมปรับฐานราคาซื้อเข้า-ขายออกใหม่ หวังทำกำไรชดเชย
ตลาดรถมือสองได้รับผลกระทบกว่า 1 ปี จากการเกิดขึ้นของโครงการรถคันแรกตั้งแต่ปลายปี 2554 ทำให้ผู้บริโภคหันไปซื้อรถใหม่ เนื่องจากได้รับสิทธิคืนภาษีสูงสุด 1 แสนบาท ทำให้ที่ผ่านมาผู้ค้าหลายรายหายไปจากตลาด ส่วนผู้ที่ยังประคองธุรกิจอยู่ได้ ก็พยายามเดินหน้าหาทางออกในหลายๆ ด้าน
นายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ กรรมการบริหาร เอ็กซ์คลูซีฟ คาร์ และเลขาธิการสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า การกระตุ้นการซื้อของภาครัฐทำให้ปี 2555 รถใหม่มียอดขาย 1.4 ล้านคัน จากที่ควรจะอยู่ที่ 8 แสนคัน รถที่เพิ่มเข้ามา 6 แสนคัน พร้อมกับแคมเปญที่รุนแรงส่งผลกระทบยังตลาดมือสอง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถคลี่คลายอย่างเร็วที่สุดต้นปี 2557 หรือเท่ากับได้รับผลกระทบมากกว่า 2 ปี
"รถมือสองปีนี้ราคาตกลง 40% ช่วงไตรมาส 2 และ 50% ในไตรมาส 3 อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 4 พบว่าปรับตัวขึ้น 10% เนื่องจากพ่อค้าบางส่วนเริ่มซื้อรถเข้าเต็นท์ แต่ก็ไม่ส่งผลดีต่อตลาดมากนัก หากเทียบกับสัดส่วนที่ลดลงไปก่อนหน้านี้"
ราคาที่ลดลงไปอย่างมากทำให้รถที่ซื้อเข้ามาก่อนหน้านั้นอยู่ในภาวะขาดทุนเมื่อขายออกไป แต่ผู้ค้าจำเป็นต้องขายเพราะต้องการลดสต็อก โดยพบว่าบางรุ่นขาดทุน 1.5 -2 แสนบาท
ด้านแหล่งข่าวจากเต็นท์รถย่านกิ่งแก้ว กล่าวว่า ช่วงนี้การขายขาดทุนอย่างต่ำ 2 หมื่นบาทต่อคัน เพราะผู้ค้าไม่ต้องการให้เงินจมและมีภาระดอกเบี้ยจากนั้นจึงวางแผนทำกำไรจากรถล็อตใหม่ที่จะซื้อเข้ามาในระดับราคาที่ต่ำลงหลังจากนี้แทน
ทั้งนี้รถที่ขายได้ยากช่วงนี้รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ซึ่งรวมถึงรถยอดนิยมอย่างเช่น โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส สะท้อนถึงกำลังซื้อของลูกค้าที่ลดลง เต็นท์รถจึงยอมขายขาดทุน และมีแคมเปญที่รุนแรงเช่น ฟรีดาวน์ ฟรีค่าโอน รวมถึงรับลูกค้าที่ติดแบล็คลิสต์
ผู้ขายรถเข้าเต็นท์อ่วม เกณฑ์ใหม่ราคาร่วง
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า การระบายรถเก่าในราคาขาดทุน เป็นการปรับฐานตลาด เพราะว่าหลังจากนี้ราคาซื้อเข้าและขายออกจะอยู่ในเกณฑ์ใหม่ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาด โดยเงื่อนไขการซื้อเข้าเปลี่ยนไปมาก และค่อนข้างผันผวนตามแคมเปญรถใหม่ จากเดิมการซื้อรถอายุใช้งาน 1 ปี ใช้การคำนวณมูลค่าลดลง 25 % แต่ขณะนี้จะต้องลบด้วยส่วนลดที่ได้จากโครงการรถคันแรก และแคมเปญด้วย เช่น โตโยต้า วีออส ราคารถใหม่ 5.66 แสนบาท หักมูลค่าลดลง 25 % เหลือ 4.18 แสนบาท จากนั้นหักส่วนลดคืนภาษีรถคันแรก 8 หมื่นบาท หักส่วนแคมเปญส่งเสริมการขายประมาณ 7 หมื่นบาท จะเหลือมูลค่า 2.68 แสนบาท ลดลง 47.4% จากราคารถใหม่ เท่ากับว่าลูกค้ารถป้ายแดงที่ขายเข้าเต็นท์จะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก
"แคมเปญรถใหม่ที่ออกมาเยอะ ลูกค้ารถใช้แล้วปีเก่ากว่าจะได้รับผลพวงไปด้วยในทันที เพราะว่าต้องลดมูลค่าของรถเก่าตามลงไปด้วย ไม่เช่นนั้นราคาจะไม่จูงใจ ทำให้เฉลี่ยราคาซื้อเข้าจะต้องกดราคาเผื่ออีก 20%"
แหล่งข่าวจากเต็นท์จำหน่ายรถยนต์ย่านศรีนครินทร์ กล่าวว่า ผู้ค้ารถมือสองจะต้องนำแคมเปญรถใหม่มาคำนวณราคาซื้อเข้ารถใช้แล้วตลอดเวลา และพยายามเลือกซื้อรถปีใหม่เข้าเต็นท์ และจะไม่ซื้อรถที่เก่ากว่าปี 2545 ยกเว้นแต่เต็นท์รถที่จับตลาดรถปีเก่าซึ่งมีลูกค้าโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ยังพบว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกสิ่งหนึ่งคือ รอบการหมุนของรถเร็วขึ้น จากปกติรถเข้าตลาดมือสองจะมีอายุเฉลี่ย 4 ปี แต่ช่วงปีที่ผ่านมารถใหม่เข้าตลาดจำนวนมาก โดยที่ลูกค้าบางคนไม่พร้อมซื้อรถแต่ต้องการใช้สิทธิ ส่งผลให้ไม่สามารถผ่อนได้ ทำให้มีรถที่ต้องการขายเข้าตลาดมือสอง
เล็งระบายสต็อกออกตลาดเพื่อนบ้าน
สำหรับความเคลื่อนไหวของสมาคมผู้ประกอบการรถใช้แล้ว ที่เพิ่งรวมตัวกันอย่างเป็นทางการ ช่วงประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา หลังตลาดได้รับผลกระทบรุนแรง ได้เดินหน้าขอความช่วยเหลือจากภาครัฐในการลดสต็อกรถด้วยการส่งออกไปยังเพื่อนบ้านโดยดูแลในด้านการเงื่อนไข และการสนับสนุนด้านอื่น ๆ
โดยเห็นว่ามีหลายตลาดน่าสนใจ เช่น พม่าที่นำเข้ารถมือสองจากญี่ปุ่นเดือนละ 5,000 คัน โดยเดือนพ.ย. นี้สมาคมฯ จะเดินทางไปพบกับนักธุรกิจพม่า เพื่อหาช่องทางส่งออกต่อไป
นอกจากนี้ก็ต้องการให้สถาบันการเงิน สนับสนุนในด้านสินเชื่อมากขึ้น ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการที่จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และในส่วนของลูกค้าที่ขอวงเงินเช่าซื้อ
นายธีรชาติ จิรจรัสพร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์เช่าซื้อ ธนาคาร ธนชาต กล่าวว่า ตลาดรถมือสองเริ่มสัญญาณที่ดี และสามารถขายรถในราคาที่ไม่ขาดทุน อีกทั้งจัดตั้งสมาคมฯ ขึ้นมายังเป็นการยกระดับตัวเองทำให้มีมาตรฐานในการขอสินเชื่อดีขึ้น
"ผู้ประกอบการได้มีการปรับตัว มีมาตรฐานในการจัดไฟแนนซ์ มีการรับรองคุณภาพรถยนต์ มีกระบวนการขายรถยนต์ มีการบริการทำให้สถาบันการเงินทุกแห่งให้การสนับสนุนสินเชื่อได้ง่ายกว่าเดิม มีการกำหนดเงินดาวน์ที่ชัดเจนแน่นอน ดังนั้นในระยะนี้จึงไม่น่ามีอะไรที่น่าเป็นห่วงสำหรับตลาดรถยนต์มือสองและสินเชื่อรถยนต์มือสอง"
ด้าน นายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดรถมือสองไตรมาสที่ 4 เริ่มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากผู้ค้าเริ่มดูแนวโน้มตลาดในปี 2557 ซึ่งผลดีต่อตลาดช่วงปลายปีให้ดีขึ้น
แต่การที่ช่วงก่อนหน้านี้ตลาดได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากโครงการรถคันแรก และภาวะเศรษฐกิจ ที่ทำให้แรงซื้อลดน้อยลง ดังนั้นการปรับตัวดีขึ้นของไตรมาส 4 จึงยังไม่เรียกว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี นอกจากนี้สิ่งที่จะต้องจับตาดูในช่วงนี้คือ สินค้าการเกษตร เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อตลาดกลุ่มปิกอัพ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/auto-mobile/auto-mobile/20131007/534692/รถมือสองถล่มราคาล้างสต็อก.html
รถมือสองถล่มราคาล้างสต็อก
รถมือสองซึมยาว ผู้ค้าหั่นราคาระบายสต็อก พบบางรุ่นขาดทุน 2 แสน เตรียมปรับฐานราคาซื้อเข้า-ขายออกใหม่ หวังทำกำไรชดเชย
ตลาดรถมือสองได้รับผลกระทบกว่า 1 ปี จากการเกิดขึ้นของโครงการรถคันแรกตั้งแต่ปลายปี 2554 ทำให้ผู้บริโภคหันไปซื้อรถใหม่ เนื่องจากได้รับสิทธิคืนภาษีสูงสุด 1 แสนบาท ทำให้ที่ผ่านมาผู้ค้าหลายรายหายไปจากตลาด ส่วนผู้ที่ยังประคองธุรกิจอยู่ได้ ก็พยายามเดินหน้าหาทางออกในหลายๆ ด้าน
นายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ กรรมการบริหาร เอ็กซ์คลูซีฟ คาร์ และเลขาธิการสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า การกระตุ้นการซื้อของภาครัฐทำให้ปี 2555 รถใหม่มียอดขาย 1.4 ล้านคัน จากที่ควรจะอยู่ที่ 8 แสนคัน รถที่เพิ่มเข้ามา 6 แสนคัน พร้อมกับแคมเปญที่รุนแรงส่งผลกระทบยังตลาดมือสอง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถคลี่คลายอย่างเร็วที่สุดต้นปี 2557 หรือเท่ากับได้รับผลกระทบมากกว่า 2 ปี
"รถมือสองปีนี้ราคาตกลง 40% ช่วงไตรมาส 2 และ 50% ในไตรมาส 3 อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 4 พบว่าปรับตัวขึ้น 10% เนื่องจากพ่อค้าบางส่วนเริ่มซื้อรถเข้าเต็นท์ แต่ก็ไม่ส่งผลดีต่อตลาดมากนัก หากเทียบกับสัดส่วนที่ลดลงไปก่อนหน้านี้"
ราคาที่ลดลงไปอย่างมากทำให้รถที่ซื้อเข้ามาก่อนหน้านั้นอยู่ในภาวะขาดทุนเมื่อขายออกไป แต่ผู้ค้าจำเป็นต้องขายเพราะต้องการลดสต็อก โดยพบว่าบางรุ่นขาดทุน 1.5 -2 แสนบาท
ด้านแหล่งข่าวจากเต็นท์รถย่านกิ่งแก้ว กล่าวว่า ช่วงนี้การขายขาดทุนอย่างต่ำ 2 หมื่นบาทต่อคัน เพราะผู้ค้าไม่ต้องการให้เงินจมและมีภาระดอกเบี้ยจากนั้นจึงวางแผนทำกำไรจากรถล็อตใหม่ที่จะซื้อเข้ามาในระดับราคาที่ต่ำลงหลังจากนี้แทน
ทั้งนี้รถที่ขายได้ยากช่วงนี้รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ซึ่งรวมถึงรถยอดนิยมอย่างเช่น โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส สะท้อนถึงกำลังซื้อของลูกค้าที่ลดลง เต็นท์รถจึงยอมขายขาดทุน และมีแคมเปญที่รุนแรงเช่น ฟรีดาวน์ ฟรีค่าโอน รวมถึงรับลูกค้าที่ติดแบล็คลิสต์
ผู้ขายรถเข้าเต็นท์อ่วม เกณฑ์ใหม่ราคาร่วง
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า การระบายรถเก่าในราคาขาดทุน เป็นการปรับฐานตลาด เพราะว่าหลังจากนี้ราคาซื้อเข้าและขายออกจะอยู่ในเกณฑ์ใหม่ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาด โดยเงื่อนไขการซื้อเข้าเปลี่ยนไปมาก และค่อนข้างผันผวนตามแคมเปญรถใหม่ จากเดิมการซื้อรถอายุใช้งาน 1 ปี ใช้การคำนวณมูลค่าลดลง 25 % แต่ขณะนี้จะต้องลบด้วยส่วนลดที่ได้จากโครงการรถคันแรก และแคมเปญด้วย เช่น โตโยต้า วีออส ราคารถใหม่ 5.66 แสนบาท หักมูลค่าลดลง 25 % เหลือ 4.18 แสนบาท จากนั้นหักส่วนลดคืนภาษีรถคันแรก 8 หมื่นบาท หักส่วนแคมเปญส่งเสริมการขายประมาณ 7 หมื่นบาท จะเหลือมูลค่า 2.68 แสนบาท ลดลง 47.4% จากราคารถใหม่ เท่ากับว่าลูกค้ารถป้ายแดงที่ขายเข้าเต็นท์จะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก
"แคมเปญรถใหม่ที่ออกมาเยอะ ลูกค้ารถใช้แล้วปีเก่ากว่าจะได้รับผลพวงไปด้วยในทันที เพราะว่าต้องลดมูลค่าของรถเก่าตามลงไปด้วย ไม่เช่นนั้นราคาจะไม่จูงใจ ทำให้เฉลี่ยราคาซื้อเข้าจะต้องกดราคาเผื่ออีก 20%"
แหล่งข่าวจากเต็นท์จำหน่ายรถยนต์ย่านศรีนครินทร์ กล่าวว่า ผู้ค้ารถมือสองจะต้องนำแคมเปญรถใหม่มาคำนวณราคาซื้อเข้ารถใช้แล้วตลอดเวลา และพยายามเลือกซื้อรถปีใหม่เข้าเต็นท์ และจะไม่ซื้อรถที่เก่ากว่าปี 2545 ยกเว้นแต่เต็นท์รถที่จับตลาดรถปีเก่าซึ่งมีลูกค้าโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ยังพบว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกสิ่งหนึ่งคือ รอบการหมุนของรถเร็วขึ้น จากปกติรถเข้าตลาดมือสองจะมีอายุเฉลี่ย 4 ปี แต่ช่วงปีที่ผ่านมารถใหม่เข้าตลาดจำนวนมาก โดยที่ลูกค้าบางคนไม่พร้อมซื้อรถแต่ต้องการใช้สิทธิ ส่งผลให้ไม่สามารถผ่อนได้ ทำให้มีรถที่ต้องการขายเข้าตลาดมือสอง
เล็งระบายสต็อกออกตลาดเพื่อนบ้าน
สำหรับความเคลื่อนไหวของสมาคมผู้ประกอบการรถใช้แล้ว ที่เพิ่งรวมตัวกันอย่างเป็นทางการ ช่วงประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา หลังตลาดได้รับผลกระทบรุนแรง ได้เดินหน้าขอความช่วยเหลือจากภาครัฐในการลดสต็อกรถด้วยการส่งออกไปยังเพื่อนบ้านโดยดูแลในด้านการเงื่อนไข และการสนับสนุนด้านอื่น ๆ
โดยเห็นว่ามีหลายตลาดน่าสนใจ เช่น พม่าที่นำเข้ารถมือสองจากญี่ปุ่นเดือนละ 5,000 คัน โดยเดือนพ.ย. นี้สมาคมฯ จะเดินทางไปพบกับนักธุรกิจพม่า เพื่อหาช่องทางส่งออกต่อไป
นอกจากนี้ก็ต้องการให้สถาบันการเงิน สนับสนุนในด้านสินเชื่อมากขึ้น ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการที่จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และในส่วนของลูกค้าที่ขอวงเงินเช่าซื้อ
นายธีรชาติ จิรจรัสพร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์เช่าซื้อ ธนาคาร ธนชาต กล่าวว่า ตลาดรถมือสองเริ่มสัญญาณที่ดี และสามารถขายรถในราคาที่ไม่ขาดทุน อีกทั้งจัดตั้งสมาคมฯ ขึ้นมายังเป็นการยกระดับตัวเองทำให้มีมาตรฐานในการขอสินเชื่อดีขึ้น
"ผู้ประกอบการได้มีการปรับตัว มีมาตรฐานในการจัดไฟแนนซ์ มีการรับรองคุณภาพรถยนต์ มีกระบวนการขายรถยนต์ มีการบริการทำให้สถาบันการเงินทุกแห่งให้การสนับสนุนสินเชื่อได้ง่ายกว่าเดิม มีการกำหนดเงินดาวน์ที่ชัดเจนแน่นอน ดังนั้นในระยะนี้จึงไม่น่ามีอะไรที่น่าเป็นห่วงสำหรับตลาดรถยนต์มือสองและสินเชื่อรถยนต์มือสอง"
ด้าน นายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดรถมือสองไตรมาสที่ 4 เริ่มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากผู้ค้าเริ่มดูแนวโน้มตลาดในปี 2557 ซึ่งผลดีต่อตลาดช่วงปลายปีให้ดีขึ้น
แต่การที่ช่วงก่อนหน้านี้ตลาดได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากโครงการรถคันแรก และภาวะเศรษฐกิจ ที่ทำให้แรงซื้อลดน้อยลง ดังนั้นการปรับตัวดีขึ้นของไตรมาส 4 จึงยังไม่เรียกว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี นอกจากนี้สิ่งที่จะต้องจับตาดูในช่วงนี้คือ สินค้าการเกษตร เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อตลาดกลุ่มปิกอัพ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/auto-mobile/auto-mobile/20131007/534692/รถมือสองถล่มราคาล้างสต็อก.html