สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
รายการคนนี้ ไม่เคยดูอ่ะครับ
เคยดูช่วงรายการ พลังใจ ของ H Plus Channel ดูไว้เพราะเป็นคนเชื่อเรื่อง กุศล บาป ความดี ความชั่ว ผี เป็นต้น โดยส่วนตัวเชื่อเรื่องแบบนี้ แฮะๆ
แต่ถ้าเท่าที่อ่านมา วิธีการ การนับ 1 2 3 เสียงดังๆ แล้วให้คนที่ฟังนับตาม แบบนี้ ผมว่าไม่ใช่ทางที่ถูก หมายถึง ไม่เข้าทางของผม ตัวผมเองก็คงปฏิเสธที่จะเสพดูแนววิธีแบบนี้แต่แรก
คุณเองก็ค้านได้สมเหตุสมผลแล้วนะครับ เพราะเหตุผลจริงหมด แต่อาจจะเพราะความเชื่อ ความศรัทธาของคุณแม่คุณท่านมีกับ อาจารย์พลังจิตคนนี้ไปแล้ว ยิ่งมีไปมีตติ้งด้วย อาจจะได้เพื่อน ได้คนแนวคิดเดียวกัน เลยทำให้ท่านมีความสุข......ผมเอง แต่ก่อนก็เคยเข้า เวบๆหนึงแนวคนมีญาณ ไปมีตติ้ง ไปร่วมงานหลายครั้ง แต่ตอนนี้ไม่ได้เข้าเวบและไม่ได้ไปสนใจมาสองปีแล้ว ซึ่งผมโชคดีที่ผมเน้นไปงานทำบุญมากกว่า สร้างพระ ไปเจอพระสงฆ์ที่เป็นพระปฏิบัติดี
หากให้คุณแม่คุณ ได้หนีพ้น ความเชื่อแปลกๆนี้
1.ต้องหาพระสงฆ์ที่เป็นพระที่ดี พาท่านไปพบ ไปกราบไหว้ ได้ฟังคำสอน ทางที่ถูกของชาวพุทธ และ ถามท่านว่า...แม่เป็นชาวพุทธ ศรัทธาในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือไม่ ในพระไตรปิฏก ก็ไม่ได้มีวิธีอะไรแบบนี้ เพราะถ้ามันดีจริง พระองค์คงทำไปแล้ว สิ่งสำคัญของพระพุทธศาสนาในแง่ของการสร้างบุญ บารมี คือ ทาน ศีล ภาวณา ส่วนโรคภัยไข้เจ็บ ทุกสิ่ง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป โรคภัยไข้เจ็บก็เช่นกัน ดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย ฝึกสมาธิ นั่งสมาธิ ก็จะช่วยให้จิตสงบ อะไรประมาณนี้ครับ
2.เดี๋ยวนี้ มีคนมีญาณเยอะแยะ มีพลังนู้นนี่ จริงบ้าง ปลอมบ้าง ผมเองก็เจอคนมีญาณที่ผมคิดว่าเขามีจริงๆนะ แต่ท้ายที่สุด เขาเหล่านั้นช่วยเราไม่ได้หมด และถึงช่วยก็ช่วยแค่กำลังใจนิดๆหน่อย สุดท้ายเราเองก็ต้องอยู่และดิ้นรนด้วยชีวิตตัวเอง และไม่มีใครช่วยเราได้จริงๆ คนรอบข้างนี่แหละ ที่สำคัญกับเรา พ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อน
เคยดูช่วงรายการ พลังใจ ของ H Plus Channel ดูไว้เพราะเป็นคนเชื่อเรื่อง กุศล บาป ความดี ความชั่ว ผี เป็นต้น โดยส่วนตัวเชื่อเรื่องแบบนี้ แฮะๆ
แต่ถ้าเท่าที่อ่านมา วิธีการ การนับ 1 2 3 เสียงดังๆ แล้วให้คนที่ฟังนับตาม แบบนี้ ผมว่าไม่ใช่ทางที่ถูก หมายถึง ไม่เข้าทางของผม ตัวผมเองก็คงปฏิเสธที่จะเสพดูแนววิธีแบบนี้แต่แรก
คุณเองก็ค้านได้สมเหตุสมผลแล้วนะครับ เพราะเหตุผลจริงหมด แต่อาจจะเพราะความเชื่อ ความศรัทธาของคุณแม่คุณท่านมีกับ อาจารย์พลังจิตคนนี้ไปแล้ว ยิ่งมีไปมีตติ้งด้วย อาจจะได้เพื่อน ได้คนแนวคิดเดียวกัน เลยทำให้ท่านมีความสุข......ผมเอง แต่ก่อนก็เคยเข้า เวบๆหนึงแนวคนมีญาณ ไปมีตติ้ง ไปร่วมงานหลายครั้ง แต่ตอนนี้ไม่ได้เข้าเวบและไม่ได้ไปสนใจมาสองปีแล้ว ซึ่งผมโชคดีที่ผมเน้นไปงานทำบุญมากกว่า สร้างพระ ไปเจอพระสงฆ์ที่เป็นพระปฏิบัติดี
หากให้คุณแม่คุณ ได้หนีพ้น ความเชื่อแปลกๆนี้
1.ต้องหาพระสงฆ์ที่เป็นพระที่ดี พาท่านไปพบ ไปกราบไหว้ ได้ฟังคำสอน ทางที่ถูกของชาวพุทธ และ ถามท่านว่า...แม่เป็นชาวพุทธ ศรัทธาในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือไม่ ในพระไตรปิฏก ก็ไม่ได้มีวิธีอะไรแบบนี้ เพราะถ้ามันดีจริง พระองค์คงทำไปแล้ว สิ่งสำคัญของพระพุทธศาสนาในแง่ของการสร้างบุญ บารมี คือ ทาน ศีล ภาวณา ส่วนโรคภัยไข้เจ็บ ทุกสิ่ง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป โรคภัยไข้เจ็บก็เช่นกัน ดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย ฝึกสมาธิ นั่งสมาธิ ก็จะช่วยให้จิตสงบ อะไรประมาณนี้ครับ
2.เดี๋ยวนี้ มีคนมีญาณเยอะแยะ มีพลังนู้นนี่ จริงบ้าง ปลอมบ้าง ผมเองก็เจอคนมีญาณที่ผมคิดว่าเขามีจริงๆนะ แต่ท้ายที่สุด เขาเหล่านั้นช่วยเราไม่ได้หมด และถึงช่วยก็ช่วยแค่กำลังใจนิดๆหน่อย สุดท้ายเราเองก็ต้องอยู่และดิ้นรนด้วยชีวิตตัวเอง และไม่มีใครช่วยเราได้จริงๆ คนรอบข้างนี่แหละ ที่สำคัญกับเรา พ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อน
แสดงความคิดเห็น
แม่เสพย์ติดงมงายกับการนับ 1 2 3 รักษาโรคมากครับ ผมควรทำอย่างไรดี
เรื่องมันมีอยู่ว่า แม่ผมติดรายการช่องเคเบิ้ลช่องนึงมาก ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นช่อง Health Plus อะไรสักอย่าง เป็นรายการที่มีอาจารย์อ้วนๆคนนึง อวดอ้างว่ามีพลังขององค์อมตะภู สามารถเรียกพลังของจักรวาลเพื่อมารักษาโรคได้ โดยการนับ 1 2 3 เสียงดังๆ แล้วให้คนที่ฟังนับตาม แล้วอาจารย์จะสามารถส่งพลังให้ได้ โรคภัยต่างๆที่เป็นอยู่จะหายไป . . .
ผมไม่รู้มีใครเชื่อบ้างนะ เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อเลยสักนิด แต่แม่ผมเชื่อครับ . . . ความเศร้ามันมาเยือนก็ตรงนี้แหละ แรกๆเห็นแม่ดู ผมก็บอกนะว่าอะไรของอาจารย์แกเนี่ย นับ 1 2 3 แล้วรักษาโรคได้? มันจะจริงได้ยังไง แม่ก็บอกว่าเนี่ยเวลาแม่นับตามนะ รู้สึกขนลุก รู้สึกร้อนๆเลย มันได้รับพลังจริงๆ . . . คือที่ขนลุกเนี่ย น่าจะขนลุกเพราะเห็นการกระทำอันแปลกประหลาดนับ 1 2 3 เสียงดังลั่นบ้านของอาจารย์มากกว่า หลายๆคนน่าจะเคยเป็น ที่เวลาเราเห็นใครทำอะไรประหลาดมากๆแล้วมันจะขนลุกอ่ะฮะ ผมว่ามันคงจะเป็นแบบนั้นแหละ
ซึ่งแรกๆก็โอเคอ่ะ แม่อยากดูอะไรก็ดูไป ก็ไม่เคยคิดจะห้ามหรอกนะ พื้นฐานแม่เป็นคนเข้าวัด ทำบุญ เชื่อเรื่องผี จะเชื่อเรื่องพวกนี้ก็ไม่แปลกมั๊ง ก็เลยปล่อยๆไป แต่พอนานๆเข้า แม่เริ่มติดหนักครับ เขามีจัดมีตติ้งนับ 1 2 3 นอกสถานที่ แม่ก็ไปกับเขา ไปเกือบทุกอาทิตย์ จนผมก็เริ่มเห็นละว่ามันหนักไปแล้วหละ เลยเริ่มหยอดๆคำถามกะต้อนให้จนมุม ว่าถ้าอาจารย์เก่งจริง ทำไมไม่รักษาทุกคนในโลกนี้ให้หายป่วยเลยหละ ทำไมต้องให้นับ 1 2 3 ให้มันเสียเวลาด้วย แม่ก็ตอบว่าอาจารย์เขาต้องส่งพลังให้คนที่นับ 1 2 3 เพื่อที่จิตจะสื่อถึงกัน จะได้ส่งพลังกันได้ (อะไรประมาณนี้ ผมอาจจะจำได้ไม่เป๊ะนัก) คำตอบเป็นไปตามที่คาดไว้ ว่าแล้วว่าต้องโดนปลูกฝังให้มาตอบอะไรแถๆแบบนี้แน่ๆ เลยถามไปอีกว่า แล้วจารย์แกไม่คิดจะนับ 1 2 3 ทำให้ตัวเองผอมบ้างเหรอ แม่ก็ตอบว่าเขาพอใจในรูปร่างเขาแล้ว เขาก็แข็งแรงดีนะไม่ได้มีโรคอะไร . . . ใช่สิถ้าเขาป่วยคงไม่มาบอกหรอกมั๊ง แล้วใครมันจะพอใจในรูปร่างอ้วนของตัวเองบ้าง ถ้าผมมีพลังอะไรแบบนั้น ป่านนี้เสกหน้าตัวเองให้หล่อแบบเจมส์จิไปละ . . .
นานวันเข้า ก็เริ่มเห็นมงายหนักขึ้นทุกวันๆ พอมาวันนึง เคเบิ้ลมีการปรับเปลี่ยนสัญญาณอะไรสักอย่าง ทำให้ช่องที่แม่ดูหายไป ณ จุดนี้พูดเลยว่าดีใจมาก แต่ . . . แม่ยังสามารถหารายการนี้ดูได้ผ่าน iPhone ณ จุดนี้เสียใจมาก ไม่น่าสอนแม่เล่นเนทเลยจริงๆ แล้วพอไปสักพัก แม่เริ่มหงุดหงิดกับสัญญาณ Internet ประเทศไทย ทำให้แม่ดูรายการนี้ได้อย่างไม่ Smooth การนับ 1 2 3 กระตุกจนส่งพลังมาไม่ได้ วันนี้แม่เลยมาบอกให้ผมสมัคร Facebook ให้แม่หน่อย ผมก็งงว่าจะสมัครไปทำไมอ่ะ แม่บอกว่าพักนี้ในเนทดูแล้วมันกระตุก เขาบอกว่าให้เข้าไปกด Like เขาใน Facebook อยากได้รับพลังเมื่อไหร่ ก็เข้าไปกด Like เลย แล้วเขาจะส่งพลังมาให้ได้
ถึงจุดนี้ผมปรี๊ดแตกครับ รู้สึกทนไม่ไหวแล้วกับความงมงายอันไม่มีขีดจำกัดแบบนี้ เลยบอกแม่ไปว่าเลิกงมงายเถอะ กด Like แล้วมันทำอะไรได้ แม่ไม่รู้จักด้วยซ้ำว่า Facebook เขาเล่นกันยังไง ได้แต่ฟังเขามาว่ากด Like แล้วจะได้รับพลัง มันจะได้พลังยังไง อาจารย์มันจะมานั่งอยู่หน้าจอตลอดเวลา เห็นคนกด Like ปุ๊บส่งพลังปั๊บเหรอ อย่ามาทำเหมือนพวกที่ชอบ Share กัน เอารูปเด็กพิการมาแปะ แล้วบอกว่ากด Like แล้วจะได้บุญ มาทำบุญช่วยเหลือเด็กพิการกันเถอะ กดไปล้าน Like เด็กมันก็ไม่หายพิการหรอก แม่ก็เถียงว่าก็มันเป็นความชอบของแม่ ความชอบใครความชอบมัน แม่ฝึกพลังจิตกับอาจารย์อยู่ . . . จบประโยคนี้เหมือนโดนระเบิดลูกที่ 2 เลยถามกลับไปว่าแล้วเป็นไง ใช้พลังจิตอะไรได้ยัง มีอะไรดีขึ้นบ้างมั๊ย ชีวิตดีขึ้นมั๊ย ส่งพลังอย่างเขาได้ยัง ตั้งแต่ทำมาเกือบปีนี่รู้สึกมีอะไรเปลี่ยนแปลงมั๊ย ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นบ้างมั๊ย ไม่มีเลยสักนิด พอแม่เถียงไม่ได้ ก็เดินหนีไปตามระเบียบ ทีนี้พอจะพูดด้วย เงียบไปเลย ทำเป็นไม่ได้ยิน พูดง่ายๆคืองอนนั่นเอง . . .
เล่ามาซะยืดยาว อยากขอคำปรึกษาครับ ว่าผมควรทำยังไงดี ปล่อยไปแบบนี้มันกลายเป็นปัญหาครอบครัวแน่ๆ เพราะแม่ผมไม่ยอมอะไรผมง่ายๆแน่ แม่ผมนี่ถ้าให้พูดตรงๆเลยคือผิดไม่เป็น ยิ่งโดยเฉพาะเรื่องที่เถียงกับผมนะ ผมถูกเต็มๆ แต่เขาก็จะไม่ผิดอยู่ดี และมันน่าหงุดหงิดตรงที่ลูกพูดอะไรเตือนอะไรไม่มีฟังกันเลย แต่ไปฟังอาจารย์อ้วนลวงโลกนั่นกรอกหูอยู่ทุกวี่วัน ผมควรทำยังไงดีครับ เป็นลูกก็เข้าใจนะว่าไม่ควรจะทะเลาะกับแม่ให้บาปกรรมมันติดตัว แต่การที่ลูกเห็นแม่เดินทางผิดนี่ปล่อยไปมันก็ไม่ดีหรือเปล่าครับ ลำบากใจสุดๆเลยตอนนี้ หรือผมสามารถทำอะไรกับรายการนั้นได้มั๊ย เช่นแจ้งกระทรวง ICT ให้แบนๆไปซะ แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะรับเรื่องมั๊ย
ขอความกรุณาจากเพื่อนๆใน Pantip ด้วยครับ ขอบคุณครับ