พอดีผมเจอเรื่องนีอยู่ใน Facebook อะครับ เป็นเรื่องนี้น่าเศร้าใจว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้
น่าสงสาร! หลวงปู่อยู่รูปเดียวในวัดที่มีสภาพทรุดโทรม ไร้คนดูแล วอนผู้ใจบุญช่วยกันทำบุญ เรื่องราวนี้ถูกโพสต์อยู่ในแฟนเพจ สมาคม ”ฅนเมือง” ซึ่งได้เล่าเรื่องราวของหลวงปู่ท่านหนึ่ง ที่จำวัดอยู่เพียงรูเดียวไร้คนดูแล โดยมีข้อความระบุว่า จ่วยๆกั๋นแชร์เน่อคับถือว่าทำบุญเนาะคับ แค่แวะมาอ่าน และบอกต่อ ๆ กันไปก็ได้บุญแล้วครับ เรื่องมีอยู่ว่า ผมได้ฟังเรื่องราวจากเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ได้ไปทำบุญที่วัดชื่อวัดศรีโขง อยู่ตรงข้ามกับทางลงท่าเรือหางแมงป่อง คนเชียงใหม่เราน่าจะพอรู้จักนะครับ วัดแห่งนี้ตอนนี้มีสภาพทรุดโทรมมาก และมีหลวงปู่เป็นเจ้าอาวาสจำวัดอยู่รูปเดียว ไม่มีเณรหรือพระรูปอื่นมาจำวัดด้วยเลย (เคยมีครับ แต่ไปจำวัดที่อื่นกันหมดนานแล้ว) อายุหลวงปู่ท่านก็มากโขแล้ว สายตาท่านก็เริ่มมองไม่เห็น การเดินเหินของท่าน ก็ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตัว และคลำทางไป ซึ่งผมเองได้ฟัง และได้ยินจากเพื่อนคนนี้มา ก็อยากจะหาเวลาไปหาหลวงปู่ท่านสักครั้ง จนกระทั่งวันนี้ (23 สิงหาคม 2556 ) ช่วงเช้า ๆ ผมได้มีโอกาสเข้าไปถวายภัตตาหารให้ท่าน และได้เป็นเห็นกับตาตัวเองว่าวัดมีสภาพเป็นเช่นไร ประตูรั้ววัดยังไม่ได้เปิด ผมเดินข้ามถนนไปเกาะที่ประตูรั้ว ไม่นานนักหลวงปู่ท่านก็ค่อย ๆ เดินมา เปิดประตู ผมเห็นท่านคลำหาลูกกุญแจ ซึ่งมัดรวมกันมีหลายดอก เพื่อไขประตูอยู่นานมากด้วยสาตาของหลวงปู่ที่มองไม่ค่อยเห็น ผมนึกในใจ ท่านอยู่คนเดียวในวัดนี้ได้เช่นไร ? ผมมองเข้าไปในวัด สภาพวัด ไม่ต่างจากวัดร้างเท่าไหร่เลย เศษใบไม้ หยักไย่แมงมุมเต็มวัด จิตใจผมตอนนี้เริ่มหดหู่ “มาทำบุญเหรอโยม” นี่คือคำแรกที่ท่านทักผม ท่านพาผมเข้าไปในวัด ผมสนทนากับหลวงปู่อยู่พักใหญ่ ท่านเป็นกันเองมากครับ คุยสนุก มีคติสอนใจทุกเรื่อง ผมเลยคิดในใจ ทำไมถึงทิ้งท่านให้อยู่ลำพังแบบนี้ ท่านชื่อหลวงปู่แก้วครับ ถ้าท่านใดได้แวะมาแถวนี้ มาถวายภัตตาหาร หรือแวะมาทำบุญกันบ้างนะครับ เพราะผมเห็นว่า ถ้าเพื่อนผมไม่มาหาท่านทุกวัน ผมก็ไม่รู้ว่าจะมีใครมาทำบุญถวายภัตตาหารให้ท่านฉัน และนี่ครับ คือจุดที่ผมอยากชวนเชิญ พี่น้อง ทุกคนมาร่วมกันทำบุญ ทั้งแรงกาย แรงใจ หรือถวายปัจจัยแล้วแต่จิตศรัทธา มาช่วยกันพัฒนาวัดแห่งนี้ครับ หลังเรื่องนี้ถูกโพสต์ออกไป ชาวเน็ตต่างแสดงความเห็นใจ อยากทำบุญและช่วยกันแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ข่าวโดย : Talkystory.com
ปล.อยากให้คนเชียงใหม่มายืนยันด้วยนะครับว่าเป็นเรื่องจริงหรืไม
สำนักพระพุทธศาสนา น่าจะดูแลกันบ้าง ! พระท่านอยู่รูปเดียวถ้าสิ้นท่านจะไม่กลายเป็นวัดร้างหรือ ?
น่าสงสาร! หลวงปู่อยู่รูปเดียวในวัดที่มีสภาพทรุดโทรม ไร้คนดูแล วอนผู้ใจบุญช่วยกันทำบุญ เรื่องราวนี้ถูกโพสต์อยู่ในแฟนเพจ สมาคม ”ฅนเมือง” ซึ่งได้เล่าเรื่องราวของหลวงปู่ท่านหนึ่ง ที่จำวัดอยู่เพียงรูเดียวไร้คนดูแล โดยมีข้อความระบุว่า จ่วยๆกั๋นแชร์เน่อคับถือว่าทำบุญเนาะคับ แค่แวะมาอ่าน และบอกต่อ ๆ กันไปก็ได้บุญแล้วครับ เรื่องมีอยู่ว่า ผมได้ฟังเรื่องราวจากเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ได้ไปทำบุญที่วัดชื่อวัดศรีโขง อยู่ตรงข้ามกับทางลงท่าเรือหางแมงป่อง คนเชียงใหม่เราน่าจะพอรู้จักนะครับ วัดแห่งนี้ตอนนี้มีสภาพทรุดโทรมมาก และมีหลวงปู่เป็นเจ้าอาวาสจำวัดอยู่รูปเดียว ไม่มีเณรหรือพระรูปอื่นมาจำวัดด้วยเลย (เคยมีครับ แต่ไปจำวัดที่อื่นกันหมดนานแล้ว) อายุหลวงปู่ท่านก็มากโขแล้ว สายตาท่านก็เริ่มมองไม่เห็น การเดินเหินของท่าน ก็ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตัว และคลำทางไป ซึ่งผมเองได้ฟัง และได้ยินจากเพื่อนคนนี้มา ก็อยากจะหาเวลาไปหาหลวงปู่ท่านสักครั้ง จนกระทั่งวันนี้ (23 สิงหาคม 2556 ) ช่วงเช้า ๆ ผมได้มีโอกาสเข้าไปถวายภัตตาหารให้ท่าน และได้เป็นเห็นกับตาตัวเองว่าวัดมีสภาพเป็นเช่นไร ประตูรั้ววัดยังไม่ได้เปิด ผมเดินข้ามถนนไปเกาะที่ประตูรั้ว ไม่นานนักหลวงปู่ท่านก็ค่อย ๆ เดินมา เปิดประตู ผมเห็นท่านคลำหาลูกกุญแจ ซึ่งมัดรวมกันมีหลายดอก เพื่อไขประตูอยู่นานมากด้วยสาตาของหลวงปู่ที่มองไม่ค่อยเห็น ผมนึกในใจ ท่านอยู่คนเดียวในวัดนี้ได้เช่นไร ? ผมมองเข้าไปในวัด สภาพวัด ไม่ต่างจากวัดร้างเท่าไหร่เลย เศษใบไม้ หยักไย่แมงมุมเต็มวัด จิตใจผมตอนนี้เริ่มหดหู่ “มาทำบุญเหรอโยม” นี่คือคำแรกที่ท่านทักผม ท่านพาผมเข้าไปในวัด ผมสนทนากับหลวงปู่อยู่พักใหญ่ ท่านเป็นกันเองมากครับ คุยสนุก มีคติสอนใจทุกเรื่อง ผมเลยคิดในใจ ทำไมถึงทิ้งท่านให้อยู่ลำพังแบบนี้ ท่านชื่อหลวงปู่แก้วครับ ถ้าท่านใดได้แวะมาแถวนี้ มาถวายภัตตาหาร หรือแวะมาทำบุญกันบ้างนะครับ เพราะผมเห็นว่า ถ้าเพื่อนผมไม่มาหาท่านทุกวัน ผมก็ไม่รู้ว่าจะมีใครมาทำบุญถวายภัตตาหารให้ท่านฉัน และนี่ครับ คือจุดที่ผมอยากชวนเชิญ พี่น้อง ทุกคนมาร่วมกันทำบุญ ทั้งแรงกาย แรงใจ หรือถวายปัจจัยแล้วแต่จิตศรัทธา มาช่วยกันพัฒนาวัดแห่งนี้ครับ หลังเรื่องนี้ถูกโพสต์ออกไป ชาวเน็ตต่างแสดงความเห็นใจ อยากทำบุญและช่วยกันแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ข่าวโดย : Talkystory.com
ปล.อยากให้คนเชียงใหม่มายืนยันด้วยนะครับว่าเป็นเรื่องจริงหรืไม