ยุคนี้เป็นยุคอาหารเสริม ไม่ว่าจะลดน้ำหนัก รักษาโรค ดูแลผิวพรรณ มันมีมากมาย เคเบิลก็เยอะขึ้น ช่องทางในการขายมากขึ้น กระจายสินค้าเข้าถึงทุกหัวระแหง แต่ทำไมมีความรู้สึกว่าพวกนี้เอาเปรียบพวกเราเรื่องราคากันจัง ขายแพง แต่ต้นทุนถูก ยิ่งเดี๋ยวนี้กระจายสินค้าสู่รายย่อยขายกันมาก เหมือนราคามันเกินจริงมากไปไหม
เช่น พวกน้ำมันรำข้าว เคยได้ยินมาว่าราคาต้นทุนเม็ดละ 3 บาท บางบริษัทจ้างบริษัทน้ำมันผลิต แล้วเอามาขายกันเป็นพัน หรือพวกน้ำเห็ดน้ำใบพลูฯ เคยทราบมาว่า ต้นทุนการผลิตไม่ถึงร้อย แต่ขายขวดเหยียบพัน ถึงเกินพัน หรือมีเพื่อนขายอาหารเสริม พวกลดน้ำหนัก รับมากล่องละ 350-500 บาท แต่ขายราคาหน้ากล่อง 1000-1200 บาท เท่ากับว่าได้กำไรถึงกล่องละ 700-800 บาท แล้วต้นทุนหล่ะ บริษัทเจ้าของก็ต้องได้กำไรมากมาย ดังนั้นต้นทุนไม่กี่บาท แต่มาขายเทีเงิบเลย และมีอีกคนขายพวกอาหารเสริมดูแลสายตา รับมา 2100 บาท ขาย 3300 บาท เท่ากับกำไรตั้ง 1200 บาท ฯลฯ
ลองคิดเล่นๆว่า ขนาดรายย่อยที่รับมาขายยังเอากำไรเกินตัว 2-3 เท่า แล้วต้นทุนที่บริษัทผลิตหล่ะ มันจะถูกขนาดไหน พอทราบแบบนี้เหมือนเราผู้บริโภคถูกเอาเปรียบมากไปไหนกับตรงนี้...
พวกอาหารเสริมเดี๋ยวนี้เอาเปรียบผู้บริโภคมากไปไหมในเรื่องราคา
เช่น พวกน้ำมันรำข้าว เคยได้ยินมาว่าราคาต้นทุนเม็ดละ 3 บาท บางบริษัทจ้างบริษัทน้ำมันผลิต แล้วเอามาขายกันเป็นพัน หรือพวกน้ำเห็ดน้ำใบพลูฯ เคยทราบมาว่า ต้นทุนการผลิตไม่ถึงร้อย แต่ขายขวดเหยียบพัน ถึงเกินพัน หรือมีเพื่อนขายอาหารเสริม พวกลดน้ำหนัก รับมากล่องละ 350-500 บาท แต่ขายราคาหน้ากล่อง 1000-1200 บาท เท่ากับว่าได้กำไรถึงกล่องละ 700-800 บาท แล้วต้นทุนหล่ะ บริษัทเจ้าของก็ต้องได้กำไรมากมาย ดังนั้นต้นทุนไม่กี่บาท แต่มาขายเทีเงิบเลย และมีอีกคนขายพวกอาหารเสริมดูแลสายตา รับมา 2100 บาท ขาย 3300 บาท เท่ากับกำไรตั้ง 1200 บาท ฯลฯ
ลองคิดเล่นๆว่า ขนาดรายย่อยที่รับมาขายยังเอากำไรเกินตัว 2-3 เท่า แล้วต้นทุนที่บริษัทผลิตหล่ะ มันจะถูกขนาดไหน พอทราบแบบนี้เหมือนเราผู้บริโภคถูกเอาเปรียบมากไปไหนกับตรงนี้...