นายกฯเรียกถกทีมศก.ประเมินหลังเกิดชัตดาวน์ในสหรัฐ

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2556 เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่
หน่วยงานภาครัฐของสหรัฐ ต้องปิดทำการอย่างเป็นทางการวันนี้ (1 ตุลาคม 2013) หลังจากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลง
ในเรื่องงบประมาณสำหรับปีการคลัง 2014 ซึ่งพรรครีพับลิกัน พยายามจะเชื่อมโยงกับการเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายประกันสุขภาพ (Obamacare) ซึ่งในส่วนของไทยเองศาลรัฐธรรมนูญก็รับเรื่องร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ไว้เช่นกัน ว่า ในส่วน
ของประเทศไทยตนก็หวังว่าสถานการณ์และเหตุการณ์จะไม่เกิดเช่นเดียวกับของสหรัฐ เพราะในความเป็นจริงเราสามารถใช้งบประมาณ
ไปพลางก่อนได้ ขณะนี้สำนักงบประมาณก็ได้เสนอต่อ ครม.ให้นำงบประมาณไปใช้ได้ แต่อาจจะมีผลกระทบต่อโครงการใหม่ที่เป็น
โครงการซึ่งไม่ได้อยู่ในแผนของงบประมาณในปีที่ผ่านมาอาจมีส่วนทำให้เกิดการหยุดชะงัก ซึ่งก็หวังว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีความ
ชัดเจนออกมา รัฐบาลจะได้ถือปฏิบัติ

เมื่อถามว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกจ้างประจำใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของงานที่ต่อเนื่องจากปีงบประมาณที่ผ่าน
มายังสามารถเบิกจ่ายได้ โดยจะใช้เป็นลักษณะของงบสำรองก่อน ยกเว้นโครงการใหม่ที่อาจจะมีปัญหาซึ่งต้องขอดูในเนื้อหาและ
รายละเอียดก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นของสหรัฐจะส่งผลเชื่อมโยงมาถึงเศรษฐกิจไทยและภูมิภาคหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
เช้าวันเดียวกันนี้ (2 ต.ค.) ตนก็จะประชุมหารือกับคณะทำงานกำกับการบริหารนโยบายเศรษฐกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งจะมี
การประเมินสถานการณ์ก่อนแล้วจะมีการแจ้งให้ทราบ อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นก็ต้องติดตามและเชื่อว่าสหรัฐจะมีทางออก
ภายใน 1-2 วัน แต่ก็ต้องติดตามประเทศไทยเองก็ต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
cr: http://www.thaibizcenter.com/rss/page.asp?openurl=http%3A%2F%2Fbreakingnews.nationchannel.com%2Fread.php%3Fnewsid%3D697280

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


10 EFFECT TO THAILAND FROM US GOVERNMENT SHUTDOWN

การประสบปัญหาทางการคลังของสหรัฐอเมริกา ที่ทั่วโลกกำลังลุ้นว่าจะ “ตกหน้าผาการคลัง” หรือไม่ จากการงัดข้อกันระหว่าง
รัฐบาลกับสภาคองเกรสทำให้งบประมาณไม่ผ่าน จนไม่มีเงินจ่ายให้ข้าราชการ กระทั่ง 1 ใน 3 ส่วนงานของรัฐบาลต้องหยุดทำการ
เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี จะส่งผลกระทบต่อไทยอย่างไร?

1)ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนออกไป

2) หากสถานการณ์ยืดเยื้อจะกระทบการส่งออกในกลุ่มสินค้า อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า

3) ยังมีการขยายเพดานหนี้สาธารณะที่กำลังจะเกิในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า หากตกลงกันไม่ได้ จะทำให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้เป็น
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประมาณกลางเดือนนี้ สะเทือนเศรษฐกิจโลก

4) ไร้เงินอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ตามมาตรการ QE ที่กำลังอยู่ในภาวะลดการกระตุ้นในเชิงปริมาณ

5) ตลาดทองคำภายในประเทศปรับลดราคาถึง 3 รอบ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา และลดต่อเนื่องในวันที่ 2 ต.ค. ในการประกาศ
ซื้อขายรอบแรกลงอีก 550 บาท

6) หากสภาคองเกรสไม่ผ่านกฎหมายงบประมาณภายใน 17 วัน จะส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งจะกระทบต่อค่าเงินไทยด้วย

7) หากสถานการณ์ยืดเยื้อ สหรัฐอาจถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาทองคำลดลงอีก และค่าเงินจะผันผวนมากขึ้น

หากสถานการณ์ยืดเยื้อฉุดเศรษฐกิจโลกทรุด ไทยอาจได้รับผลกระทบ หลังใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หนี้สาธารณะพุ่ง ไร้ช่องวางทางการคลัง
เป็นภูมิคุ้มกันผลกระทบจากเศรษฐกิจภายนอก

9) กระทบตลาดหุ้นผันผวน

10) ไทยมีความเสี่ยงมากขึ้นเพราะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ส่งออกอาจทรุดเพิ่ม

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++