เปิดตอนด้วยฉากบักโคมาบะนอนอืดอยู่กับบ้านเป็นตาแก่โดนเลย์ออฟจากงาน
สภาพทุเรศทุรังของพี่ชายทำเอาน้องแฝดทั้งสองอดรนทนไม่ได้ แอบวางแผนกับทางบ้านอากิจังล่อโคมาบะมาเจอกับผองเพื่อนชาวเอโสะโนในงานเทศกาลรูปปั้นหิมะ (ตามที่เคยสัญญากันไว้ว่าถึงหน้าหนาวเมื่อไหร่จะมาดูงานนี้ด้วยกันทุกคน)
ก็เลยต้องมาเดินเที่ยวงานกับเพื่อนๆ ตามระเบียบ
โดยระหว่างเดินเที่ยวงานก็มีคุยกันเรื่องต่างๆ ไปพลาง ทั้งเรื่องที่โคมาบะหยุดเรียนไปไม่บอกกล่าว เรื่องที่อากิตั้งใจจะไม่สืบทอดฟาร์มแต่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
แต่ที่เป็นเรื่องเป็นราวที่สุดก็เห็นจะเป็นของทามาโกะกับไอคาวะ โดยทามาโกะนั้นบอกกับโคมาบะว่า ตั้งแต่วันที่บ้านโคมาบะล้มละลาย ทามาโกะก็คิดมาตลอดว่าจะมีทางไหนที่ฟาร์มขนาดใหญ่จะอยู่ร่วมกับฟาร์มขนาดเล็กอย่างบ้านโคมาบะได้โดยไม่ต้องบดขยี้หรือทำลายอีกฝ่ายให้ย่อยยับไปอยู่บ้างหรือเปล่า
และเพื่อการนั้น ตัวทามาโกะจึงตัดสินใจว่าจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสาขาบริหารธุรกิจการเกษตร (ถึงขั้นมองหาลู่ทางไปเรียนต่อต่างประเทศเลย) และบอกกับโคมาบะอย่างมั่นใจว่าสักวันหนึ่งตัวเธอจะปฏิวัติวงการธุรกิจการเกษตร จะทำให้มันดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ให้ได้ ดังนั้นใช้เงินกู้หมดเมื่อไหร่ก็กลับมาซะล่ะ
ด้านไอคาวะเองก็บอกกับโคมาบะว่าตั้งแต่เกิดเรื่องกับบ้านโคมาบะ ตัวเองก็คิดแล้วคิดอีกมาตลอดว่าตัวเองอยากเป็นสัตวแพทย์เพื่ออะไร อยากเป็นสัตวแพทย์แบบไหน และคำตอบที่ไอคาวะได้ออกมาก็คือ ตัวเองอยากเป็นสัตว์แพทย์ก็เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนั่นเอง ดังนั้น ที่ตัวเองคิดอยากเป็นสัตว์แพทย์ที่ทำงานกับปศุสัตว์ก็เพื่อจะช่วยแบ่งเบาภาระของเกษตรกรผู้บริหารฟาร์ม ให้คนเหล่านั้นต้องรับภาระน้อยลง ให้คนที่ต้องร้องไห้เพราะเจ็บปวดใจกับเรื่องเงินน้อยลงแม้เพียงนิดเดียวก็ยังดี
แม้แต่บักสมองไก่โทคิวะก็ยังแสดงความเป็นห่วงโคมาบะ...ด้วยการเอาไส้กรอกกับมันราดชีสมาให้กินให้สบายใจขึ้น (ความจริงคนเอามาคือตาอดีตประธานชมรมขี่ม้าแฮะ ส่วนบักสมองไก่แค่เอาไปอุ่นให้เฉยๆ)
ทำเอาโคมาบะถึงกับแสดงความซึ้งด้วยการประเคนกำปั้นใส่หน้าบักแว่น (?) เข้าเต็มรัก
ตามด้วยเตะส่งท้ายด้วยความซึ้งเข้าให้อีกป้าบก่อนขอตัวกลับบ้านไปในที่สุด ท่ามกลางสายตาเป็นห่วงของบักแว่นกับอากิจัง
แล้วจิตใจที่เฉยชาจนตายด้านอย่างช้าๆ เพราะมรสุมชีวิตของโคมาบะก็กลับมาเร่าร้อนเหมือนเดิมในที่สุด...ด้วยกำลังใจจากผองเพื่อนชาวเอโสะโนทุกคน
เห็นความเป็นห่วงของบรรดาเพื่อนๆ ที่มีต่อโคมาบะในตอนนี้แล้วรู้สึกเหมือนได้ยินเพลงที่จั่วในหัวกระทู้ลอยมาชอบกลเลย
เห็นแบบนี้แล้วอยากเห็นวันที่โคมาบะจะฝ่ามรสุมชีวิต ปลดเปลื้องทุกอย่างที่พันธนาการตัวเองออกจนหมด แล้วเดินกลับมาหาเพื่อนๆ ที่คอยเป็นกำลังใจและช่วยเหลืออยู่ห่างๆ อย่างเต็มภาคภูมิจริงๆ แฮะ คงซึ้งน่าดูเลยเชียว
และสำหรับบทพูดของทามาโกะกับไอคาวะในตอนนี้ ขอมอบภาพนี้ให้ไปเลยครับ
ไว้พบกันใหม่ในอีกอย่างน้อยก็ 2 อาทิตย์ข้างหน้านะครับ (เล่มหน้าหยุด แถมยังเป็นเล่มควบซะด้วย เลยหายยาวเลย)
ปล. - จริงๆ ในตอนยังมีมุกฮาๆ ระหว่างรุ่นพี่อดีตประธานชมรมขี่ม้ากับบักนิชิคาวะต่ออีกนิดหน่อยแฮะ แต่เห็นโควต้าเยอะเกินไปแล้ว เลยขอไม่เอามาลงดีกว่า ส่วนจะเป็นมุกแบบไหนนั้น ไว้รอดูตอนสแกนอังกฤษออกก็แล้วกันครับ
[Spoil] ช้อนเงินคนแปรธาตุ (Silver Spoon) #88 - That's What Friends Are For...
สภาพทุเรศทุรังของพี่ชายทำเอาน้องแฝดทั้งสองอดรนทนไม่ได้ แอบวางแผนกับทางบ้านอากิจังล่อโคมาบะมาเจอกับผองเพื่อนชาวเอโสะโนในงานเทศกาลรูปปั้นหิมะ (ตามที่เคยสัญญากันไว้ว่าถึงหน้าหนาวเมื่อไหร่จะมาดูงานนี้ด้วยกันทุกคน)
ก็เลยต้องมาเดินเที่ยวงานกับเพื่อนๆ ตามระเบียบ
โดยระหว่างเดินเที่ยวงานก็มีคุยกันเรื่องต่างๆ ไปพลาง ทั้งเรื่องที่โคมาบะหยุดเรียนไปไม่บอกกล่าว เรื่องที่อากิตั้งใจจะไม่สืบทอดฟาร์มแต่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
แต่ที่เป็นเรื่องเป็นราวที่สุดก็เห็นจะเป็นของทามาโกะกับไอคาวะ โดยทามาโกะนั้นบอกกับโคมาบะว่า ตั้งแต่วันที่บ้านโคมาบะล้มละลาย ทามาโกะก็คิดมาตลอดว่าจะมีทางไหนที่ฟาร์มขนาดใหญ่จะอยู่ร่วมกับฟาร์มขนาดเล็กอย่างบ้านโคมาบะได้โดยไม่ต้องบดขยี้หรือทำลายอีกฝ่ายให้ย่อยยับไปอยู่บ้างหรือเปล่า
และเพื่อการนั้น ตัวทามาโกะจึงตัดสินใจว่าจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสาขาบริหารธุรกิจการเกษตร (ถึงขั้นมองหาลู่ทางไปเรียนต่อต่างประเทศเลย) และบอกกับโคมาบะอย่างมั่นใจว่าสักวันหนึ่งตัวเธอจะปฏิวัติวงการธุรกิจการเกษตร จะทำให้มันดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ให้ได้ ดังนั้นใช้เงินกู้หมดเมื่อไหร่ก็กลับมาซะล่ะ
ด้านไอคาวะเองก็บอกกับโคมาบะว่าตั้งแต่เกิดเรื่องกับบ้านโคมาบะ ตัวเองก็คิดแล้วคิดอีกมาตลอดว่าตัวเองอยากเป็นสัตวแพทย์เพื่ออะไร อยากเป็นสัตวแพทย์แบบไหน และคำตอบที่ไอคาวะได้ออกมาก็คือ ตัวเองอยากเป็นสัตว์แพทย์ก็เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนั่นเอง ดังนั้น ที่ตัวเองคิดอยากเป็นสัตว์แพทย์ที่ทำงานกับปศุสัตว์ก็เพื่อจะช่วยแบ่งเบาภาระของเกษตรกรผู้บริหารฟาร์ม ให้คนเหล่านั้นต้องรับภาระน้อยลง ให้คนที่ต้องร้องไห้เพราะเจ็บปวดใจกับเรื่องเงินน้อยลงแม้เพียงนิดเดียวก็ยังดี
แม้แต่บักสมองไก่โทคิวะก็ยังแสดงความเป็นห่วงโคมาบะ...ด้วยการเอาไส้กรอกกับมันราดชีสมาให้กินให้สบายใจขึ้น (ความจริงคนเอามาคือตาอดีตประธานชมรมขี่ม้าแฮะ ส่วนบักสมองไก่แค่เอาไปอุ่นให้เฉยๆ)
ทำเอาโคมาบะถึงกับแสดงความซึ้งด้วยการประเคนกำปั้นใส่หน้าบักแว่น (?) เข้าเต็มรัก
ตามด้วยเตะส่งท้ายด้วยความซึ้งเข้าให้อีกป้าบก่อนขอตัวกลับบ้านไปในที่สุด ท่ามกลางสายตาเป็นห่วงของบักแว่นกับอากิจัง
แล้วจิตใจที่เฉยชาจนตายด้านอย่างช้าๆ เพราะมรสุมชีวิตของโคมาบะก็กลับมาเร่าร้อนเหมือนเดิมในที่สุด...ด้วยกำลังใจจากผองเพื่อนชาวเอโสะโนทุกคน
เห็นความเป็นห่วงของบรรดาเพื่อนๆ ที่มีต่อโคมาบะในตอนนี้แล้วรู้สึกเหมือนได้ยินเพลงที่จั่วในหัวกระทู้ลอยมาชอบกลเลย
เห็นแบบนี้แล้วอยากเห็นวันที่โคมาบะจะฝ่ามรสุมชีวิต ปลดเปลื้องทุกอย่างที่พันธนาการตัวเองออกจนหมด แล้วเดินกลับมาหาเพื่อนๆ ที่คอยเป็นกำลังใจและช่วยเหลืออยู่ห่างๆ อย่างเต็มภาคภูมิจริงๆ แฮะ คงซึ้งน่าดูเลยเชียว
และสำหรับบทพูดของทามาโกะกับไอคาวะในตอนนี้ ขอมอบภาพนี้ให้ไปเลยครับ
ไว้พบกันใหม่ในอีกอย่างน้อยก็ 2 อาทิตย์ข้างหน้านะครับ (เล่มหน้าหยุด แถมยังเป็นเล่มควบซะด้วย เลยหายยาวเลย)
ปล. - จริงๆ ในตอนยังมีมุกฮาๆ ระหว่างรุ่นพี่อดีตประธานชมรมขี่ม้ากับบักนิชิคาวะต่ออีกนิดหน่อยแฮะ แต่เห็นโควต้าเยอะเกินไปแล้ว เลยขอไม่เอามาลงดีกว่า ส่วนจะเป็นมุกแบบไหนนั้น ไว้รอดูตอนสแกนอังกฤษออกก็แล้วกันครับ