รัฐบาลจีนตระหนักถึงผลเสียหายจากพฤติกรรมไม่เหมาะสมของคนจีนในต่างแดน เร่งเดินหน้าให้ความรู้หวังปรับปรุงภาพลักษณ์แง่ลบในสายตาคนต่างชาติ
ไชน่าเดลี รายงานว่า รัฐบาลกลางสั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน ด้านการปฏิบัติตัวให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมประเพณี มารยาททางสังคมของแต่ละประเทศ เคารพความเชื่อทางศาสนาในท้องถิ่น ไม่ทิ้งขยะเกลื่อนกลาดหรือถ่มน้ำลาย
กระทรวงศึกษาธิการแดนมังกรเผยว่า ปัจจุบันมีนักเรียนจีนราว 1.55 ล้านคน ที่ไปเรียนต่อในต่างประเทศ ซึ่งคนกลุ่มนี้จำเป็นต้องได้รับข้อมูลเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติที่ถูกต้องของประเทศที่ไปศึกษาต่อ ด้านกระทรวงพาณิชย์จีนก็ให้คำมั่นว่าจะจับมือกับองค์กรแรงงานระหว่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของแรงงานจีนในต่างแดน
เช่นเดียวกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศจางเยอสุ่ยที่ยอมรับว่า "พฤติกรรมไร้อารยะของนักท่องเที่ยวจีนบางคน อาทิ พูดเสียงดังในที่สาธารณะ ขีดเขียนลงบนโบราณวัตถุทำลายภาพลักษณ์ของประเทศและสร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าของประเทศที่คนจีนไปเยือน"
เจ้าหน้าที่รัฐมีคำสั่งให้บริษัทนำเที่ยวแนะนำแนวทางปฏิบัติตัวที่เหมาะสมในต่างประเทศให้กับลูกค้าและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนสังเกตธรรมเนียมปฏิบัติของคนในท้องถิ่นแล้วทำตาม
แม้ว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาคนจีนจะไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นและมีการจับจ่ายเงินจำนวนมากแต่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวจีนบางส่วนก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และคนในท้องถิ่นของบางประเทศไม่เต็มใจต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน
ทั้งนี้ จากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งชาติจีนเผยว่า ชาวจีนที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างแดนปี 2555 มีจำนวน 83.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ถึง 2 เท่า อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจความคิดเห็นของหลายสำนัก ชาวจีนติดอันดับต้น ๆ นักท่องเที่ยวยอดแย่ที่สุดในโลก อาทิ โพลปีที่แล้วของลิฟวิง โซเชียล บริษัทพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐยกให้คนจีนเป็นนักท่องเที่ยวยอดแย่อันดับสองรองจากชาวอเมริกัน
หวงเฉินเว่ยมัคคุเทศก์จากจินเจียงเทรเวิล บริษัทนำเที่ยวในเซี่ยงไฮ้เผยว่า "น่าขายหน้ามากที่มีป้ายห้ามทิ้งขยะ ถ่มน้ำลายบนพื้น หรือห้ามสูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบเป็นภาษาจีนเท่านั้น ในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของต่างประเทศ"
ผู้อำนวยความสะดวกในสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งถึงกับต้องเรียนรู้ภาษาจีนแบบงู ๆ ปลา ๆ เพื่อเตือนนักท่องเที่ยวจีนให้เข้าคิว หรือหลีกทางให้ผู้หญิง เด็ก คนชราไปก่อน
หยง จินซ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวนานาชาติมองว่า ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าคนจีนจะเรียนรู้มารยาทในต่างแดน "ส่วนใหญ่คนจีนไม่ได้ตั้งใจสร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าของประเทศ แต่เป็นเพราะยังขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง"
ที่มา:ประชาชาติธุรกิจ
จีนห่วงภาพลักษณ์ ติวเข้มมารยาทในต่างแดน
รัฐบาลจีนตระหนักถึงผลเสียหายจากพฤติกรรมไม่เหมาะสมของคนจีนในต่างแดน เร่งเดินหน้าให้ความรู้หวังปรับปรุงภาพลักษณ์แง่ลบในสายตาคนต่างชาติ
ไชน่าเดลี รายงานว่า รัฐบาลกลางสั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน ด้านการปฏิบัติตัวให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมประเพณี มารยาททางสังคมของแต่ละประเทศ เคารพความเชื่อทางศาสนาในท้องถิ่น ไม่ทิ้งขยะเกลื่อนกลาดหรือถ่มน้ำลาย
กระทรวงศึกษาธิการแดนมังกรเผยว่า ปัจจุบันมีนักเรียนจีนราว 1.55 ล้านคน ที่ไปเรียนต่อในต่างประเทศ ซึ่งคนกลุ่มนี้จำเป็นต้องได้รับข้อมูลเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติที่ถูกต้องของประเทศที่ไปศึกษาต่อ ด้านกระทรวงพาณิชย์จีนก็ให้คำมั่นว่าจะจับมือกับองค์กรแรงงานระหว่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของแรงงานจีนในต่างแดน
เช่นเดียวกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศจางเยอสุ่ยที่ยอมรับว่า "พฤติกรรมไร้อารยะของนักท่องเที่ยวจีนบางคน อาทิ พูดเสียงดังในที่สาธารณะ ขีดเขียนลงบนโบราณวัตถุทำลายภาพลักษณ์ของประเทศและสร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าของประเทศที่คนจีนไปเยือน"
เจ้าหน้าที่รัฐมีคำสั่งให้บริษัทนำเที่ยวแนะนำแนวทางปฏิบัติตัวที่เหมาะสมในต่างประเทศให้กับลูกค้าและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนสังเกตธรรมเนียมปฏิบัติของคนในท้องถิ่นแล้วทำตาม
แม้ว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาคนจีนจะไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นและมีการจับจ่ายเงินจำนวนมากแต่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวจีนบางส่วนก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และคนในท้องถิ่นของบางประเทศไม่เต็มใจต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน
ทั้งนี้ จากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งชาติจีนเผยว่า ชาวจีนที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างแดนปี 2555 มีจำนวน 83.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ถึง 2 เท่า อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจความคิดเห็นของหลายสำนัก ชาวจีนติดอันดับต้น ๆ นักท่องเที่ยวยอดแย่ที่สุดในโลก อาทิ โพลปีที่แล้วของลิฟวิง โซเชียล บริษัทพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐยกให้คนจีนเป็นนักท่องเที่ยวยอดแย่อันดับสองรองจากชาวอเมริกัน
หวงเฉินเว่ยมัคคุเทศก์จากจินเจียงเทรเวิล บริษัทนำเที่ยวในเซี่ยงไฮ้เผยว่า "น่าขายหน้ามากที่มีป้ายห้ามทิ้งขยะ ถ่มน้ำลายบนพื้น หรือห้ามสูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบเป็นภาษาจีนเท่านั้น ในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของต่างประเทศ"
ผู้อำนวยความสะดวกในสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งถึงกับต้องเรียนรู้ภาษาจีนแบบงู ๆ ปลา ๆ เพื่อเตือนนักท่องเที่ยวจีนให้เข้าคิว หรือหลีกทางให้ผู้หญิง เด็ก คนชราไปก่อน
หยง จินซ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวนานาชาติมองว่า ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าคนจีนจะเรียนรู้มารยาทในต่างแดน "ส่วนใหญ่คนจีนไม่ได้ตั้งใจสร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าของประเทศ แต่เป็นเพราะยังขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง"
ที่มา:ประชาชาติธุรกิจ