อุปมาโทษของกาม

อุปมาโทษของกาม

            ๑.        กามเปรียบเหมือนท่อนกระดูกเปล่า ไม่มีเนื้อและเลือดติดอยู่ เมื่อสุนัขหิวมาแทะเข้า ยิ่งแทะยิ่งเหนื่อย ยิ่งหิว อร่อยก็ไม่เต็มอยาก ไม่เต็มอิ่ม พลาดท่าแทะพลาดไปถึงฟันหักได้ พวกเราก็เหมือนกันที่หลงว่า มีคู่รักแล้ว แต่งงานแล้วจะมีสุข พอมีเข้าจริงไม่เห็นจะสุขจริงสักราย ต้องมีเรื่องขัดใจให้ตะบึงตะบอนกัน ให้กลุ้มใจให้ห่วงกังวล ทั้งห่วง ทั้งหวง ทั้งหึง ไม่เว้นแต่ละวัน ที่หนักข้อถึงกับไปกระโดดน้ำตาย  หรือผูกคอตายเสียก็มากต่อมาก  พอจะมีสุขบ้างก็ประเดี๋ยวประด๋าว  พอให้มันๆ เค็มๆ เหมือนสุนัขแทะกระดูก หรือแม้แต่เวลาที่เสพกาม เวลาที่กำลังมีเพศสัมพันธ์ มองเข้าจะเห็นว่า มันไม่มีทางถึงที่สุด มันได้แล้วมันจะอยากต่อไปเรื่อย ๆ แต่ทำเท่าไหร่ ทำกี่ครั้ง มันก็ไม่หายอยาก ได้แต่ความเหนื่อยเปล่า กับสุขลม ๆ แล้ง ๆ ได้แล้ว เหมือนจะสุข จะสุข แต่พอเสร็จ... ก็อยากอีก อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ หนึ่งครั้ง สามครั้ง ห้าครั้ง ร้อยครั้ง พันครั้ง ชั่วชีวิต ก็ไม่สมอยาก ความต้องการยังคงมีอยู่เรื่อย ๆ อีกทั้งเรื่องทางวัตถุก็เช่นกัน ได้มาเสพทางตา ทางหู ดูหนัง ฟังเพลง กินข้าว กระเป๋า รองเท้า รถ บ้าน แฟน ไม่ว่าจะได้มาเสพสักเท่าไหร่ ก็ยังไม่หายหิว หายอยาก ยิ่งเสพ ยิ่งเหนื่อย เหนื่อยหาเงิน เหนื่อยตัว เปลืองตัว เปลืองกาย เปลืองใจ เพื่อจะให้ได้มา  ทำอย่างไรก็ไม่อิ่ม แต่การออกจากกาม จากตัณหานั่นแหละตัวอิ่มแท้  อยากอิ่มต้องเิดินสวนทาง

            ๒.        กามเปรียบเหมือนชิ้นเนื้อที่แร้งหรือเหยี่ยวคาบบินมา แร้ง กา หรือเหยี่ยวตัวอื่นก็จะเข้ารุมจิกแย่งเอา คือไม่เป็นของสิทธิ์ขาดแก่ตัว ผู้อื่นแย่งชิงได้ คนทั้งหลายต่างก็ต้องการหมายปองเอา จึงอาจต้องเข่นฆ่ากันเป็นทุกข์แสนสาหัส เราลองสังเกตดูก็แล้วกัน ที่มีข่าวกันอยู่บ่อยๆ ทั้งฆ่ากัน ชิงรักหักสวาทน่ะ หรือรอบๆ ตัวมีบ้างไหม ที่กว่าจะได้แต่งงานกันก็ฝ่าดงมือ ฝ่าดงเท้าเสียแทบตาย ถูกตีหัวเสียก็หลายที พอแต่งแล้วก็ยังไม่แน่ เดี๋ยวใครมาแย่งไป อีกแล้ว  ยิ่งสวยเท่าไรยิ่งหล่อเท่าไร  ยิ่งอันตรายเท่านั้น  กามนี้ไม่ได้หมายถึงเรื่องเพศอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องความอยากด้วย อยากได้เงินทอง อยากได้ไอโฟน อยากได้รถ ได้บ้าน ต้องเหน็ดเหนื่อยกว่าจะได้เงินมาผ่อน มาซื้อ ทำงานแทบปางตาย ผ่านสงครามลูกน้อง เจ้านาย ลูกค้า เพื่อนร่วมงาน จิก กัด ตัดขาเก้าอี้ เพื่อให้ได้ตำแหน่ง ให้ได้เงินมาเพื่อมาเสพกาม เพื่อมาเสพวัตถุ คิดว่าเป็นความสุข แต่หารู้ไม่กว่าจะได้วัตถุกามมาแต่ละอย่าง แย่งกันบนโลกแทบปางตาย จิกกัดกันเพื่อจะเอาวัตถุมาเสพ

            ๓.        กามเปรียบเหมือนคนถือคบเพลิงที่ทำด้วยหญ้าลุกโพลงเดินทวนลมไป ไม่ช้าก็ต้องทิ้ง มิฉะนั้นก็โดนไหม้มือ ระหว่างเดินก็ถูกควันไฟรมหน้า ต้องทนทุกข์ทรมานย่ำแย่ คนเราที่ตกอยู่ในกามก็เหมือนกัน ต้องทนรับทุกข์จากกาม ทำงานงกๆ หาเงินเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย ต้องกลุ้มอกกลุ้มใจ ลูกจะเรียน ที่ไหนดี จะเกเรหรือเปล่า เมียจะนอกใจไหม เดี๋ยวก็มีเรื่องขัดใจกัน เสร็จแล้ว  ก็ไม่ใช่จะได้อยู่ด้วยกันตลอด  เดี๋ยวอ้าว! รถชนตายเสียแล้ว  อ้าว! เป็นมะเร็งตายเสียแล้ว  หรือเผลอประเดี๋ยวเดียวก็ต้องแก่ตายกันเสียแล้ว  ไม่ได้อยู่กันไปได้ตลอดหรอก  เหมือนคบเพลิงหญ้าถือได้ไม่นานก็ต้องทิ้ง คบเพลิง ถ้าถือเดินทวนลมแล้วไม่รีบปล่อย มันจะลวกหน้าลวกตาเรา ใครที่ติดอยู่ในความอยาก ไม่นานก็ต้องถูกเผาจนหมดสุข มีแต่ทุกข์ล้วน  ๆ ทุกข์จากการทำมาหาเลี้ยงชีพ ทุกข์จากการพลัดพราก ทุกข์จากการพะวงว่าจะเสียสิ่งที่รัก ทุกข์จากการไม่สมหวังจากการไม่ได้สิ่งที่รัก ทุกข์จากการพบเจอสิ่งที่ไม่ชอบไม่รัก ของเหล่านี้ ชีวิตใครก็ต้องเจอ ถ้าจะมองว่าชีวิตที่ผ่านมาโชคร้าย ก็ไม่มีโชคร้ายเกินกว่าทุกข์ในกาม  ถามใครก็ได้ จะเจอเรื่องแนวเดียวกันหมด คือ เรื่องจากกาม เพราะกาม เพราะอยาก ทำให้ต้องเสียน้ำตา เสียใจ เสียตัว เสียอีกหลาย ๆ อย่าง  หันมานั่งสมาธิ รักษาุอุโบสถศีล จะมีอาวุธไว้แก้โรคแพ้กาม ยิ่งทำบ่อย ๆ จิตจะเข้มแข็งขึ้น ไม่ใช่สักแต่ว่ารู้ว่าไม่ดี แต่ฝืนไม่ได้ แต่จะกลายเป็นคนที่ชนะได้ในวันหนึ่ง ข้อปฏิบัติในศาสนาพุทธเรื่องภาวนา หยิบมาจะรักษาเราได้ เอาเลย เอาจริง เอาเดี๋ยวนี้ ทำเดี๋ยวนี้ ก่อนที่จะไฟลวกทั้งตัว

            ๔.        กามเปรียบเหมือนหลุมถ่านเพลิงอันร้อนแรง ผู้ที่รักชีวิตทั้งๆ   ที่รู้ว่าหากตกลงไปแล้ว ถึงไม่ตายก็สาหัส แต่ก็แปลกเหมือนมีอะไรมาพรางตาไว้ เหมือนมีแรงลึกลับมาคอยฉุดให้ลงหลุมอยู่ร่ำไป พระท่านสอน ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ ก็เชื่อท่านหรอก แต่พอออกนอกวัดเจอสาวๆ สวยๆ หนุ่มรูปหล่อเข้าก็ลืมเสียแล้ว เวลาจะแต่งงานก็คิดถึงแต่ความสวยความหล่อความถูกใจ หาได้มองเห็นไปถึงความทุกข์อันจะเกิดจากกาม  เกิดจากชีวิตการครองเรือนไม่  ผู้ที่หลงใหลในกาม เมื่อเห็นคนที่รักเดินจูงมือ เล่นหยอกกับคนอื่น ใจก็รุ่มร้อนเหมือนถูกไฟไหม้ ทำให้เกิดความกระวนกระวาย ฆ่าตัวตาย กินยาพิษบ้างก็ฆ่าสามีภรรยาตัวเองมีให้เห็นมามาก  เพราะกามแผดเผาทำให้จิตใจรุ่มร้อนเหมือนคนบ้า ใครตกไปในกาม ไม่มีเลยที่จะเย็นสบาย มีแต่รุ่มร้อน  อยากได้เงินมาผ่อนบ้าน ผ่อนรถ  ก็ต้องออกไปฝ่าหลุมถ่านเพลิง  ถ่านเพลิงเผาให้ร้อน ร้อนจนต้องตื่นมาแต่เช้าทั้งที่ไม่อยากตื่น ฝ่ารถฝ่ารา ฝ่าเรือ กว่าจะได้เงินมาแลกกาม ต้องผ่านหลุมถ่านเพลิงมากมาย บางคนกิจการเจ๊ง บางคนเป็นหนี้ บางคนถูกโกงค่าแรง ต่อสู้กัน ดิ้นรนกันอยู่ในกองไฟ คือความเดือนเนื้อร้อนใจ ไม่ว่าจะนั่งในออฟฟิต หรือขายลูกชิ้นข้างถนน ไฟก็ร้อนไม่ต่างกันด้วย

            ๕.        กามเปรียบเหมือนความฝัน เห็นทุกอย่างเฉิดฉายอำไพ แต่ไม่นานก็ผ่านไป พอตื่นขึ้นก็ไม่เห็นมีอะไร เหลือไว้แต่ความเสียดาย คนเราที่จมอยู่ในกามก็เหมือนกัน  แรกๆ ก็คุยกันกะหนุงกะหนิงน้องจ๊ะน้องจ๋า  อยู่กันไม่นาน พูดคำด่าคำเสียแล้ว  เผลอๆ ถึงตบตีกัน เอาซี่โครงเหน็บข้างฝาเสียเลยก็มีงานก็มากขึ้นเป็น ๒-๓ เท่า  ไม่เห็นสุขเหมือนที่คิดฝันไว้ กามเหมือนความฝัน  พวกเราจะเป็นคนเพ้อฝันลมๆ แล้งๆ  หรือจะเป็นคนยืน อยู่บนความจริง  ตั้งใจฝึกฝนตนเองปฏิบัติธรรมกันล่ะ  คนอยู่ในความฝัน ทุกอย่างสวยหรู ตื่นมาก็ไม่เห็นอะไร ในกามก็เหมือนฝัน  ลองเอาเข้าจริง ๆ มองแบบไม่อคติ มองแบบไม่เพ้อเจ้อ มองตรง ๆ มีอะไรดีบ้าง ร้านอาหารหรู ๆ ทานไปก็ออกมาเป็นอุจจาระที่ไม่อยากจับต้อง  ร่างกายที่สวยงาม มองลึกแค่หนี่งเซ็นติเมตร ก็สะอิดสะเอียนกันและกัน  รถ บ้าน ไอโฟน ไอแพด  นาฬิกา ก็เพียงธาตุดินที่สมมุติกัน มีอะไรเป็นสาระแก่นสารจริง ๆ บ้างที่อยากได้กันนักหนา

            ๖.        กามเปรียบเหมือนสมบัติที่ยืมเขามา เอาออกแสดงก็ดูโก้เก๋ดี  ใครเห็นก็ชม แต่ก็ครอบครองไว้อย่างไม่มั่นใจ ได้เพียงชั่วคราว ไม่เป็นสิทธิ์เด็ดขาด เจ้าของตามมาพบเมื่อไรก็เอาคืนเมื่อนั้น ตัวเองก็ได้แต่ละห้อยหา พวกเราก็เหมือนกัน  ไปได้แฟนสวยแฟนหล่อมาก็ภูมิใจ  ไปไหนๆ ใครๆ ก็ทักว่า คู่นี้สมกันเหมือนกิ่งทองใบหยก ยืดเสียอกตั้งทีเดียว เผลอประเดี๋ยวเดียว อ้าว!  ผู้หญิงกลายเป็นยายแร้งทึ้งไปเสียแล้ว ผู้ชายไหงหัวล้านพุงพลุ้ยเสียแล้ว นี่ความหล่อความสวยมันถูกธรรมชาติ ถูกเวลาทวงกลับเสียแล้ว พวกเราจะไปหลงโง่งมงายอยู่กับของขอยืมของชั่วคราวแบบนี้หรือเปล่า  สรรพสิ่งไม่ใช่ของถาวร ไม่ว่าจะแฟน รถ บ้าน ถึงเวลาแล้ว ไม่เราอยู่ มันจากไป  ไม่ก็ มันอยู่ เราจากมันไป ด้วยตายบ้าง หายบ้าง ถูกพรากไปบ้าง จะไปยึดไปหวงว่าเป็นของตัวให้โง่ทำไม แล้วที่หวงกัน แย่งกันนี่เหนื่อยไหม ถ้ารู้สึกตัวแล้วเหนื่อยก็ไม่ต้องทำ ทำสิ่งที่ตรงกันข้าม แล้วชีวิตจะเบา จะสบาย จะถึงที่หมายโดยไม่ต้องรอให้รวย ให้หรู ให้มี

            ๗.        กามเปรียบเหมือนต้นไม้มีผลดกอยู่ในป่า ใครผ่านมาเมื่อเขาอยากได้ผล จะด้วยวิธีไหนก็เอาทั้งนั้น ปีนได้ก็ปีน ปีนไม่ได้ก็สอย บางคนก็โค่นเลย ใครอยู่บนต้นลงไม่ทันก็ถูกทับตาย เบาะๆ ก็แข้งขาหัก พวกเราก็เหมือนกัน บางคนคงเคยเจอมาแล้ว เที่ยวไปจีบคนโน้นคนนี้ ยังไม่ทันได้มาเลย ถูกเตะต่อยมาบ้าง ถูกตีหัวมาบ้าง ได้แต่บ่นรู้อย่างนี้นอนอยู่บ้านดีกว่า นี่เหมือนผลไม้ในป่า  ยิ่งดกยิ่งสวย แล้วก็ระวังเถอะจะเจ็บตัว  หรือจะลงทุนเปิดร้าน เปิดบริษัท มีหุ้นส่วน ผลไม้คือผลประโยชน์นี่ก็อร่อยล่อตาล่อใจ ไม่นานก็จะต้องถูกมือดี ชิงเอาผลประโยชน์ไปไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง  หรือคนรวย ๆ มีอันจะกิน ถูกฆ่าตายกันเพราะผลประโยชน์นี่ก็เห็นมามากแล้ว  ยิ่งรวยมาก มีมาก ผลยิ่งดก อันตรายยิ่งรอบตัว ยิ่งอยู่อย่างไม่มีความสุข  คิดอย่างง่าย ๆ เดินถือเงินล้านใส่กระเป๋า กับเดินตัวเปล่า ๆ ไป สองคนนี้ใครต้องระแวงซ้ายขวา ไม่เป็นตัวของตัวเอง นี่มองอย่างง่าย

            ๘.        กามเปรียบเหมือนเขียงสับเนื้อ ใครไปยุ่งเกี่ยวก็เหมือนกับเอาชีวิตให้ถูกสับ เพราะกามเป็นที่รองรับทุกข์ทั้งหลาย ทั้งกายและใจ เหมือนเขียงเป็นที่รองรับคมมีดที่สับเนื้อจนเป็นแผลนับไม่ถ้วน เข้าไปหากามปุ๊บ ก็เหมือนเข้าไปหาปัญหาปั๊บ ถูกหั่นถูกสับทันที เพราะพื้นที่ของกาม เป็นพื้นที่ของปัญหา ปัญหาสารพัดคงไม่ต้องจำแนกกัน ของใครของคนนั้นรู้ตัวดี

            ๙.        กามเปรียบเหมือนหอกและหลาว ทำให้เกิดทุกข์ทิ่มแทงหัวใจ เกิดความเจ็บปวดรวดร้าวมาก ใครไปพัวพันในกามแล้ว ที่จะไม่เกิดความเจ็บช้ำใจนั้นเป็นไม่มี   เหมือนหอกหลาวที่เสียดแทงร่างกายให้เกิดทุกขเวทนาอย่างนั้น  เวลาโดนทิ่มแทงที แทบไม่อยากลุกออกจากที่นอน เพราะมันหมดเรี่ยวหมดแรง ขามี เหมือนไม่ีมี จมูกมี เหมือนไม่ได้หายใจ แขนมี เหมือนขยับไม่ได้

            ๑๐.      กามเปรียบเหมือนหัวงูพิษ เพราะกามประกอบด้วยภัยมาก ต้อง มีความหวาดระแวงต่อกันอยู่เนืองๆ ไม่อาจปลงใจได้สนิท วางจิตให้โปร่งไม่ได้  เป็นที่หวาดเสียวมาก  อาจฉกให้ถึงตายได้ทุกเมื่อเหมือนหัวงูพิษ เผลอเมื่อไหร่ กัดทันทีด้วยพิษกาม ไม่ตายในชาตินี้แต่ถึงสมหวังในกามชาติหน้าก็เตรียมตัวลงอบายได้ ไม่มีทางรอด เพราะจิตติดพิษคือกามแ้ล้ว ต้องตายอย่างเีดียว ถ้าไม่รีบถอนด้วยพรหมจรรย์ หรือการรักษาอุโบสถศีลตามโอกาส ลำพังศีลห้าไ่ม่เพียงพอที่จะถ่ายถอนพิษของกามได้ และผู้รักษาอุโบสถศีลนอกจากจะได้ถ่ายถอนกามแล้ว ยังได้ประสบบุญกุศลที่จะผลักดันชีวิตขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ คนที่รักษาอุโบสถศีลแล้วโชคดี มีกันมากต่อมากแล้ว ถ้ามีโอกาส หนึ่งเดือนอย่างน้อยให้หาวันพระรักษาสมาทานสักครั้ง ปีหนี่งสิบสองครั้งก็ยังดี เป็นศีลที่ช่วยยกผู้ปฏิบัติได้เร็วกว่าศีลห้า ศีลแปด หากรักษาอุโบสถศีลแล้ว ทางกาย ทางใจ จะได้ ทางชีวิตก็จะสบายขึ้น หากมีความเพียรอีกนั้นวันที่รักษาอุโบสถศีล ให้เจริญภาวนาไปด้วย เช้าใส่บาตร วันนั้นจะได้สำเร็จทั้งทาน ศีล ภาวนา กระทำบุญกุศลครบถ้วน  ดังพรรณามาฉะนี้แล้ว  ขอให้สมาทานอุโบสถศีลกัน หากใครพบปัญหาอะไรในชีวิต  วันพระลองสมาทานรักษากันให้ได้ดู  พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ความปรารถนาของบุคคลผู้มีศีลย่อมสำเร็จ เพราะศีลเป็นของบริสุทธิ์" เมื่อรักษาอุโบสถศีลให้ดีแล้ว ย่อมหลีกออกจากกามได้ หลีกออกจากบาปอกุศลได้ เมื่อหลีกออกจากสิ่งไม่ดี ไม่นานนัก สิ่งดี ๆ ก็จะเข้าสู่ตัวเราเอง  เหมือนออกจากกองขยะ ไม่นาน กลิ่นขยะที่เหม็นติดตัวก็จะหายไป จะมีกลิ่นอื่น ๆ เข้ามาแทนที่ อยากให้อะไรดี เข้าหาสิ่งดี ๆ ทำสิ่งดี ๆ เสีย อุโบสถศีลนี่ล่ะของสะอาดของมงคล ใครมีมีลาภ มีวาสนา ชนะกามารมณ์ได้  

            ทั้งหมดนี้ คืออุปมาโทษของกามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ ความจริงแล้วยังมีอีกมาก นี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น เมื่อเราเห็นกันแล้วว่ากามมีโทษมากมายถึงปานนี้ เพราะฉะนั้นใครที่ยังไม่มีแฟน ยังไม่ได้แต่งงาน รีบฝึกสมาธิมากๆ เข้าตั้งแต่เดี๋ยวนี้  เมื่อไรใจเราสงบ  ความสว่างภายในบังเกิดขึ้น เราก็มีสุขที่เหนือกว่ากามสุขอยู่แล้ว ความคิดที่จะมีคู่ก็จะหมดไปเอง  ส่วนคนที่แต่งงานแล้วก็ไม่ถึงกับต้องหย่ากันหรอกนะ  เอาเพียงแค่อย่าไปมีเมียน้อย อย่าไปมีใหม่ และอยู่ด้วยกัน ก็ให้รู้จักกามสังวรบ้าง อย่าเสพให้มากนักจะเป็นโทษ  แล้วก็หาเวลารักษาอุโบสถศีลเสียบ้างด้วยทั้งสองคน


(บทความนี้ใส่ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อขยายความ)
http://www.kalyanamitra.org/2554/mngkhlchiwit38_detail.php?page=1
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่