เนื่องจากเห็นคนที่ใช้บริการรถไฟฟ้าโดนประตูทางเข้า (gate) หนีบเป็นประจำก็เลยอย่างจะมาอธิบายวิธีการใช้อย่างปลอดภัย
ประตูแบบแรก
โดยจะอธิบายก่อนนะค่ะว่าอย่างแรกเลยประตูที่ทำหน้าที่เปิดปิด(barrier)ก็คือไอ้ที่กั้นสีแดงๆที่เห็นในรูปซึ่งหนีบแล้วเจ็บมาก
อย่างที่สองคือ เซ็นเซอร์ (sensors)ซึ่งหนึ่งประตูจะมีเซ็นเซอร์อยู่สี่คู่
เมื่อเราะแตะหรือสอดบัตรประตูจะเปิดออกเราจะเดินผ่านเซ็นเซอร์คู่แรกคู่ที่สองและประตูเมื่อเราผ่านประตูเซ็นเซอร์คู่ที่สามค่ะ
เพราะฉะนั้นต้องไม่เอาของสัมภาระหรือกระเป๋าไปปิดหรือผ่านเซ็นเซอร์ก่อนที่ตัวเองจะผ่านนะคะ
ประตูแบบที่สอง
โมบายเกตแบบนี้ไม่ได้มีทุกสถานีนะคะจะมีเฉพาะสถานีที่ผู้โดยสารหนาแน่นเพื่อช่วยระบายผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน
ประตูแบบมที่สาม
flush gate (ขออภัยหารูปไม่ได้) ประตูที่อยู่ข้างๆเกตปกติแต่ถ้าจะใช้ต้องมีเจ้าหน้าที่เปิดให้นะคะ
เราเรียกประตูพิเศษสำหรับคนพิเศษคะ คือ สำหรับสตรีมีครรภ์ คนพิเศษหู พิเศษตา คนใบ้ ซึ้งต้องมีบัตรประจำตัวมาแสดงนะคะ
ผู้สูงอายุ หรือท่านที่มีสัมภาระชิ้นใหญ่ เช่น กระเป๋าเดินทาง จักรยาน
ท่าที่ปลอดภัยในการเดินผ่านประตู
- ท่าเดินแขนแนบลำตัวปกติ
-ถ้ามีสัมภาระหรือกระเป๋าขนาดปกติให้ถือแนบลำตัวไว้ก็พอ
-ยกสัมภาระให้สูงกว่าประตูสำหรับคนตัวเล็กจะลำบากหน่อยเพราประตูจะสูงประมาณหนึ่งเมตรก็ต้องยกระดับไหล่
-ความเร็วในการเดินก็เดินด้วยความเร็มปกติ
ท่าเดินที่สุ่มเสี่ยงจะโดนประตูหนีบ
เราเรียกท่านี้ว่าท่าคุณนายคะคือมาท่านี้ทีไรโดนหนีบร้อยละเก้าสิบเปอร์เซ็นค่ะเพราะกระเป๋าจะอยู่ในระดับเซ็นเซอร์พอดี
จากการสังเกตนะคะคือจะมีผู้โดยสารที่ถือกระเป๋าเอกสารโดนหนีบบ่อยมากเพราะจะถือกระเป๋าระดับบังเซ็นเซอร์พอดีและถือนำหน้าตลอด
และก็นักเรียนนักศึกษาที่มีกระเป๋าใบใหญ่ เป็นกระเป๋าสะพายแต่ใบค่อนข้างใหญ่แล้วหอบหนังสือพอจังหวะแตะบัตรแล้วเดินเข้าประตูจะชอบมีส่วนใดส่วนหนึ่งนำไปก่อน
สาวๆที่ถือถุงช๊อปปิ๊งใบใหญ่ที่เป็นถุงกระดาษก็จะโดยบ่อย
คุณแม่บ้านที่มารับเด็กๆกลับบ้านแล้วถือกระเป๋าหนังสือจะชอบถือกระเป๋านำหน้า (อันนี้เคยเจอโดนแบบสามวันติด)
สำหรับเด็กประถมที่ใช้กระเป๋าลากจะผ่านฉลุยมากเพราะน้องๆเค้ารู้จังหวะดีมากและมีท่าเดินมาตรฐาน คือ แตะบัตรแล้วเดินลากกระเป๋าตามหลัง
*วันที่คนจะโดนประตูหนีบมากที่สุดวันฝนตกคะ ร่มนี่ตัวดีเลยเพราะมันเปียกเลยยังไม่ได้พับเก็บพอเดินผ่านประตูส่วนใหญ่จะถือร่มนำตลอด
*แล้วอยากจะแจ้งสำหรับท่านที่มีท่าพิเศษคือเอาบัตรแตะค้างไว้แต่ตัวเองเดินผ่านไปจนจะพ้นตัวแบริเออแต่ยังไม่ยกออกคือวิธีนี้ไม่ช่วยอะไรนะคะเพราะประตูจะเปิดเมื่อแตะหรือสอดบัตรและปิดในเวลาเท่าเดิมค่ะ
ปล.แท็กห้องสยามเพราะเห็นน้องๆโดยเฉพราะสาวๆโดนหนีบบ่อยมาก
ปล.2อยากให้ทุกคนเดินทางได้สะดวกและปลอดภัยคะ จะได้ไม่ต้องมาอารมณ์เสียแต่เช้าหรือเวลารีบๆ
ทำยังไงไม่ให้ประตูทางเข้ารถไฟฟ้าหนีบ
ประตูแบบแรก
โดยจะอธิบายก่อนนะค่ะว่าอย่างแรกเลยประตูที่ทำหน้าที่เปิดปิด(barrier)ก็คือไอ้ที่กั้นสีแดงๆที่เห็นในรูปซึ่งหนีบแล้วเจ็บมาก
อย่างที่สองคือ เซ็นเซอร์ (sensors)ซึ่งหนึ่งประตูจะมีเซ็นเซอร์อยู่สี่คู่
เมื่อเราะแตะหรือสอดบัตรประตูจะเปิดออกเราจะเดินผ่านเซ็นเซอร์คู่แรกคู่ที่สองและประตูเมื่อเราผ่านประตูเซ็นเซอร์คู่ที่สามค่ะ
เพราะฉะนั้นต้องไม่เอาของสัมภาระหรือกระเป๋าไปปิดหรือผ่านเซ็นเซอร์ก่อนที่ตัวเองจะผ่านนะคะ
ประตูแบบที่สอง
โมบายเกตแบบนี้ไม่ได้มีทุกสถานีนะคะจะมีเฉพาะสถานีที่ผู้โดยสารหนาแน่นเพื่อช่วยระบายผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน
ประตูแบบมที่สาม
flush gate (ขออภัยหารูปไม่ได้) ประตูที่อยู่ข้างๆเกตปกติแต่ถ้าจะใช้ต้องมีเจ้าหน้าที่เปิดให้นะคะ
เราเรียกประตูพิเศษสำหรับคนพิเศษคะ คือ สำหรับสตรีมีครรภ์ คนพิเศษหู พิเศษตา คนใบ้ ซึ้งต้องมีบัตรประจำตัวมาแสดงนะคะ
ผู้สูงอายุ หรือท่านที่มีสัมภาระชิ้นใหญ่ เช่น กระเป๋าเดินทาง จักรยาน
ท่าที่ปลอดภัยในการเดินผ่านประตู
- ท่าเดินแขนแนบลำตัวปกติ
-ถ้ามีสัมภาระหรือกระเป๋าขนาดปกติให้ถือแนบลำตัวไว้ก็พอ
-ยกสัมภาระให้สูงกว่าประตูสำหรับคนตัวเล็กจะลำบากหน่อยเพราประตูจะสูงประมาณหนึ่งเมตรก็ต้องยกระดับไหล่
-ความเร็วในการเดินก็เดินด้วยความเร็มปกติ
ท่าเดินที่สุ่มเสี่ยงจะโดนประตูหนีบ
เราเรียกท่านี้ว่าท่าคุณนายคะคือมาท่านี้ทีไรโดนหนีบร้อยละเก้าสิบเปอร์เซ็นค่ะเพราะกระเป๋าจะอยู่ในระดับเซ็นเซอร์พอดี
จากการสังเกตนะคะคือจะมีผู้โดยสารที่ถือกระเป๋าเอกสารโดนหนีบบ่อยมากเพราะจะถือกระเป๋าระดับบังเซ็นเซอร์พอดีและถือนำหน้าตลอด
และก็นักเรียนนักศึกษาที่มีกระเป๋าใบใหญ่ เป็นกระเป๋าสะพายแต่ใบค่อนข้างใหญ่แล้วหอบหนังสือพอจังหวะแตะบัตรแล้วเดินเข้าประตูจะชอบมีส่วนใดส่วนหนึ่งนำไปก่อน
สาวๆที่ถือถุงช๊อปปิ๊งใบใหญ่ที่เป็นถุงกระดาษก็จะโดยบ่อย
คุณแม่บ้านที่มารับเด็กๆกลับบ้านแล้วถือกระเป๋าหนังสือจะชอบถือกระเป๋านำหน้า (อันนี้เคยเจอโดนแบบสามวันติด)
สำหรับเด็กประถมที่ใช้กระเป๋าลากจะผ่านฉลุยมากเพราะน้องๆเค้ารู้จังหวะดีมากและมีท่าเดินมาตรฐาน คือ แตะบัตรแล้วเดินลากกระเป๋าตามหลัง
*วันที่คนจะโดนประตูหนีบมากที่สุดวันฝนตกคะ ร่มนี่ตัวดีเลยเพราะมันเปียกเลยยังไม่ได้พับเก็บพอเดินผ่านประตูส่วนใหญ่จะถือร่มนำตลอด
*แล้วอยากจะแจ้งสำหรับท่านที่มีท่าพิเศษคือเอาบัตรแตะค้างไว้แต่ตัวเองเดินผ่านไปจนจะพ้นตัวแบริเออแต่ยังไม่ยกออกคือวิธีนี้ไม่ช่วยอะไรนะคะเพราะประตูจะเปิดเมื่อแตะหรือสอดบัตรและปิดในเวลาเท่าเดิมค่ะ
ปล.แท็กห้องสยามเพราะเห็นน้องๆโดยเฉพราะสาวๆโดนหนีบบ่อยมาก
ปล.2อยากให้ทุกคนเดินทางได้สะดวกและปลอดภัยคะ จะได้ไม่ต้องมาอารมณ์เสียแต่เช้าหรือเวลารีบๆ