วันนี้ไปเซ็นทรัล ลาดพร้าว ตั้งใจว่าจะไปหาอะไรทานกับแฟนหลังเลิกงาน พอเอ่ยชื่อ "ชาบูชิ" ขึ้นมา เพื่อนบอกแหวะ ไม่เห็นคลิปตัวหนอนหรอกหรือ ตอบไปว่าเห็น และคิดว่าเราควรจะไปที่นั่น
เหตุผลเพราะ...ไม่มีร้านอาหารหรือองค์กรธุรกิจไหนอยากมีภาพลักษณ์ที่เสื่อมเสีย แต่เมื่อมันเกิดขึ้นก็ต้องยอมรับและปรับปรุง แล้วทำไมเราจะไม่ให้โอกาสเขาล่ะ
บอกก่อนว่าเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับร้านชาบูชิเลย เป็นแค่ลูกค้าที่เวลานึกอะไรไม่ออกก็ขอเดินเข้าไปทานบุฟเฟต์ญี่ปุ่น (แม้จะไม่ญี่ปุ่นแท้ๆ ก็เถอะ) เพราะชอบความหลากหลาย โดยทุกครั้งที่รับประทานเสร็จก็จะบอกกับตัวเองว่า...นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่จะมา เพราะนิสัยตามใจปาก บวกกับความหิว จึงมักจะทานเยอะ และพบว่าอิ่มเกิน ไม่มีความสุขหลังกินอิ่ม แต่จนแล้วจนรอด เมื่อนึกถึงความหลากหลายและสะดวกสบายก็มักจะเลือกทานบุฟเฟต์ โดยเฉพาะที่ชาบูชิ ไปบ่อยกว่าร้านอื่น ไม่รู้เพราะอะไร สงสัยจะไม่รู้จักเข็ดจักจำ
ซึ่งวันนี้ผิดกับทุกครั้งที่ไปเยือน เพราะไม่ต้องต่อคิวเหมือนเคย คนโหรงเหรง ภายในร้านยังมีลูกค้าบ้าง แต่น้อยมาก ช่วงเย็นที่เคยเต็มแน่นแทบล้นร้าน เดินแทบชนกัน ปรากฏว่าวันนี้ร้านโล่งโปร่งสบาย รู้เลยว่าเพราะฟีดแบ๊กจากคลิปหนอนเป็นแน่แท้ แต่ช่างเถอะ ดีเสียอีก คนไม่เยอะ บริการก็น่าจะดี (กว่าเดิม) อาหารไม่หมด ไม่พร่องเร็ว ไม่ต้องเรียกให้มาเติมบ่อย
แต่...พอร้องขอน้ำจิ้มกับพนักงาน เห็นพยักหน้าแล้วก็เดินหายไปเฉยๆ ต้องเรียกซ้ำสองจึงมีคนยกน้ำจิ้มมาเสิร์ฟให้ (ชักไม่ไว้ใจแล้วสิ ว่าคนน้อยแล้วบริการจะดีจริง)
วันนี้ได้ลองน้ำจิ้มงา ปกติไม่เคยสั่ง ลองสั่งดูก็ว่าอร่อยดี และด้วยความที่คนไม่เยอะ เลยได้ทดลองพลิกแพลงเมนูเครื่องดื่มใหม่ เอาไอศกรีม
วนิลามาลอยในเครื่องดื่มเอส เป็นเครื่องดื่มวนิลาฟลัด ก็ว่าแปลกแต่เจ๋งดีเหมือนกันแฮะ
เหตุผลที่เลือกไปชาบูชิ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ท่ามกลางกระแสแหวะ เพราะเราคิดว่าลูกค้าสามารถคอมเพลนได้ นั่นเป็นสิทธิเต็มรูปแบบในฐานะผู้ใช้บริการ แต่อย่าฆ่า อย่าทำลาย ข้อดีเขามีอยู่ ข้อไม่ดีถ้ามันปรากฏก็ควรจะเรียกกัปตันมาพุดคุย ต่อว่าต่อขาน และช่วยกันหาทางออกที่ดีที่สุด ไม่ใช่การป่าวประกาศหรือประจานให้เสียหน้า หรือเสียหาย ยิ่งการป่าวประกาศใน Social Media ยิ่งน่ากลัว สุดท้ายแล้วมันไม่เกิดผลดีอะไรเลยจริงๆ
เราว่าพนักงานที่ตั้งใจ ที่เหนื่อย (โดยเฉพาะร้านนี้เห็นมีนักเรียนที่มาทำงานพาร์ตไทม์สด้วย) เขาคงรู้สึกท้อ เพราะจากลูกค้าแน่นเนือง กลับกลายเป็นหดหาย หัวใจเขาหัวใจเรา คนทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารหรือบริการ ย่อมมีบ้างละที่พลาดพลั้ง แต่เราสมควรให้อภัยและบอกกล่าวกันดีๆ เปิดช่องให้เขามีทางออกที่ดี (กว่า) แทนที่การประจานให้เสียหาย
นี่เป็นเพียงความคิดเห็น แลเะอยากให้กำลังใจคนทำธุรกิจ ในฐานะที่เราก็เป็นลูกค้าของเขาด้วยคนหนึ่ง และต้องการติติงเพื่อก่อ...ไม่คิดทำลาย
ตั้งใจถ่ายรูปมาฝากด้วย ว่าเราเป็นลูกค้าจริง เพราะกลัวเหมือนกันแหละ เนื่องจากไม่เคยตั้งกระทู้ห้องนี้ เดี๋ยวจะโดนด่ายับแบบที่เนื้อไม่ได้นั่ง เอากระดูกแขวนคอ
ชาบูชิ เซ็นทรัล ลาดพร้าว วันนี้...ยังมีลมหายใจ...อยู่หรือเปล่า
เหตุผลเพราะ...ไม่มีร้านอาหารหรือองค์กรธุรกิจไหนอยากมีภาพลักษณ์ที่เสื่อมเสีย แต่เมื่อมันเกิดขึ้นก็ต้องยอมรับและปรับปรุง แล้วทำไมเราจะไม่ให้โอกาสเขาล่ะ
บอกก่อนว่าเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับร้านชาบูชิเลย เป็นแค่ลูกค้าที่เวลานึกอะไรไม่ออกก็ขอเดินเข้าไปทานบุฟเฟต์ญี่ปุ่น (แม้จะไม่ญี่ปุ่นแท้ๆ ก็เถอะ) เพราะชอบความหลากหลาย โดยทุกครั้งที่รับประทานเสร็จก็จะบอกกับตัวเองว่า...นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่จะมา เพราะนิสัยตามใจปาก บวกกับความหิว จึงมักจะทานเยอะ และพบว่าอิ่มเกิน ไม่มีความสุขหลังกินอิ่ม แต่จนแล้วจนรอด เมื่อนึกถึงความหลากหลายและสะดวกสบายก็มักจะเลือกทานบุฟเฟต์ โดยเฉพาะที่ชาบูชิ ไปบ่อยกว่าร้านอื่น ไม่รู้เพราะอะไร สงสัยจะไม่รู้จักเข็ดจักจำ
ซึ่งวันนี้ผิดกับทุกครั้งที่ไปเยือน เพราะไม่ต้องต่อคิวเหมือนเคย คนโหรงเหรง ภายในร้านยังมีลูกค้าบ้าง แต่น้อยมาก ช่วงเย็นที่เคยเต็มแน่นแทบล้นร้าน เดินแทบชนกัน ปรากฏว่าวันนี้ร้านโล่งโปร่งสบาย รู้เลยว่าเพราะฟีดแบ๊กจากคลิปหนอนเป็นแน่แท้ แต่ช่างเถอะ ดีเสียอีก คนไม่เยอะ บริการก็น่าจะดี (กว่าเดิม) อาหารไม่หมด ไม่พร่องเร็ว ไม่ต้องเรียกให้มาเติมบ่อย
แต่...พอร้องขอน้ำจิ้มกับพนักงาน เห็นพยักหน้าแล้วก็เดินหายไปเฉยๆ ต้องเรียกซ้ำสองจึงมีคนยกน้ำจิ้มมาเสิร์ฟให้ (ชักไม่ไว้ใจแล้วสิ ว่าคนน้อยแล้วบริการจะดีจริง)
วันนี้ได้ลองน้ำจิ้มงา ปกติไม่เคยสั่ง ลองสั่งดูก็ว่าอร่อยดี และด้วยความที่คนไม่เยอะ เลยได้ทดลองพลิกแพลงเมนูเครื่องดื่มใหม่ เอาไอศกรีม
วนิลามาลอยในเครื่องดื่มเอส เป็นเครื่องดื่มวนิลาฟลัด ก็ว่าแปลกแต่เจ๋งดีเหมือนกันแฮะ
เหตุผลที่เลือกไปชาบูชิ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ท่ามกลางกระแสแหวะ เพราะเราคิดว่าลูกค้าสามารถคอมเพลนได้ นั่นเป็นสิทธิเต็มรูปแบบในฐานะผู้ใช้บริการ แต่อย่าฆ่า อย่าทำลาย ข้อดีเขามีอยู่ ข้อไม่ดีถ้ามันปรากฏก็ควรจะเรียกกัปตันมาพุดคุย ต่อว่าต่อขาน และช่วยกันหาทางออกที่ดีที่สุด ไม่ใช่การป่าวประกาศหรือประจานให้เสียหน้า หรือเสียหาย ยิ่งการป่าวประกาศใน Social Media ยิ่งน่ากลัว สุดท้ายแล้วมันไม่เกิดผลดีอะไรเลยจริงๆ
เราว่าพนักงานที่ตั้งใจ ที่เหนื่อย (โดยเฉพาะร้านนี้เห็นมีนักเรียนที่มาทำงานพาร์ตไทม์สด้วย) เขาคงรู้สึกท้อ เพราะจากลูกค้าแน่นเนือง กลับกลายเป็นหดหาย หัวใจเขาหัวใจเรา คนทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารหรือบริการ ย่อมมีบ้างละที่พลาดพลั้ง แต่เราสมควรให้อภัยและบอกกล่าวกันดีๆ เปิดช่องให้เขามีทางออกที่ดี (กว่า) แทนที่การประจานให้เสียหาย
นี่เป็นเพียงความคิดเห็น แลเะอยากให้กำลังใจคนทำธุรกิจ ในฐานะที่เราก็เป็นลูกค้าของเขาด้วยคนหนึ่ง และต้องการติติงเพื่อก่อ...ไม่คิดทำลาย
ตั้งใจถ่ายรูปมาฝากด้วย ว่าเราเป็นลูกค้าจริง เพราะกลัวเหมือนกันแหละ เนื่องจากไม่เคยตั้งกระทู้ห้องนี้ เดี๋ยวจะโดนด่ายับแบบที่เนื้อไม่ได้นั่ง เอากระดูกแขวนคอ