คุยกันเบา เบา หลังเกมดาร์บี้แมนเชสเตอร์ (แมนเมือง ปะทะ แมนคุณ)

ในฐานะแฟนลิเวอร์พูล และติ่งคากาวะ เลยมีโอกาสชมเกมดาร์บี้เมืองแมนเชสเตอร์ ระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้อนรับการมาเยือนของ "แชมป์เก่า" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ศึกบิ๊กแมตช์เมื่อค่ำ 22.00 น.นี้เป็นอะไรที่ต้องดู เพราะเป็นเกมใหญ่ประจำสัปดาห์สำหรับบอลอังกฤษ และถือเป็นการลองของในการชม AIS BPL  ผ่าน Tablet ว่าคู่ระดับนี้สภาพการชมจะเป็นอย่างไร ซึ่งในตอนแรกยอมรับว่าหวั่นใจว่าอาจจะกระตุกจนมิอาจรับชมได้

ผลคือ...ลืนไหลดีทั้งภาพ เสียง เกมการบุก และ...สกอร์ ไหลจริง
ต้องขอบคุณ AIS หลังจากที่ด่ามานานในช่วงที่สมัครครั้งแรก เยี่ยม

เกมเมื่อคืน ผมคิดว่าแฟนบอลอังกฤษจะของทั้งสองทีม หรือทีมอื่นๆ โดยเฉพาะแฟนลิเวอร์พูลแบบผม คงได้ยลกันจะจะไปแล้ว
ส่วนใครจะดูจบ ปิดตา ปิดไฟเข้านอนเพราะต้องรีบตื่นไปทำงาน ก็คงเหตุผลแตกต่างกันไป หัวเราะ

ก่อนอื่นนอกเหนือจากเรื่องผลประตูนั้น บอกได้คำแรกว่าเกมบุกของแมนซิตี้...สุดยอดมากครับ
การควบคุมพื้นที่การเล่น การวิ่งทั้งมีบอลและไม่มีบอล ความเร็ว การผ่านบอลที่แม่นยำ และความเด็ดขาดของคลาสนักเตะในทีม
เป็นการฆาตกรรมอารมณ์ต่อทีมอื่นที่จะมาเจอได้ดีมาก ผมเปลี่ยนแมนยูเป็นลิเวอร์พูลทีมรักในขณะที่ดูชม

ร้องแค่เหยดดดดดด...แผงกลางกะด๊อกกะแด๊กของลิพู...ตายแน่ เจอแมนซิตี้ในการเล่นระดับความเร็วแบบนี้ (อาจจะดูขลาดเขลาไปบ้าง แต่เป็นการลดความกดดันต่อทีมได้ดีระดับหนึ่ง 555+)

ผลการแข่งของแมนซิตี้ มันได้มาด้วยบรรยากาศเป็นใจจริงๆ

ทั้งความพร้อมของขุมกำลังผู้เล่นที่มีระดับความแข็งแกร่งทั้งจริงและสำรอง (เท่าที่อ่านความเห็นของแฟนแมนซิตี้ หลายท่านยังหวั่นใจเรื่องความแน่นอนของทีมในการเล่น เพราะยังไม่ค่อยโอเคกับ ผจก.คนใหม่...ผิดถูกก็ขออภัยครับ)

ทั้งการที่เป็นเกมดาร์บี้ ที่เล่นในบ้าน...ความได้เปรียบของแรงเสียงเชียร์

และช่วงการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างของทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด...ทั้งการเปลี่ยนแปลง ผจก. และวันนี้ไฮไลท์มันอยู่ที่การขาดศูนย์หน้าคนสำคัญอย่าง RVP ทำให้พื้นที่การกดดันแผงหลัง...ผ่อนคลายลงไปมาก <<< ตอนแรกอยากใช้ว่า ไม่มากก็น้อย แต่ผมว่ามาก

ข้ามผล 4 - 1 ไปตามที่เรารับชมไปแล้ว ย้อนกลับมามองแมนยู

ด้วยชื่อชั้นทีมแชมป์ และทีมที่มีฉายาว่า Never Die...เจ้าพ่อโกงความตาย สู้มันจนกว่าจะสิ้นเสียงนกหวีด
เกมเมื่อวานนี้ เรากลับไม่ได้พบพานคาแรคเตอร์แบบนั้น จะด้วยผลประตูที่เสียอะไรก็ตามแต่...แต่มันคือไม่เห็น

ภาพแอ๊คติ้งผ่านกล้องด้วยท่านั่งกุมหน้าของเดวิด มอยส์ กลายเป็น "สัญลักษณ์" ทำลายขวัญของแฟนทีมเป็นอย่างมาก
ค่อนข้างต่างกับเฟอร์กูสัน ที่แม้โดนกระทำชำเราแบบนี้ ส่วนมากเราจะเห็นหน้าเซอร์แดงเป็นมะเขือเทศ และเราคงนึกออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในห้องแต่งตัวต่อไป...ซึ่งมันจะเกิดไม่เกิดอีกเรื่อง

ตรงจุดนี้...น้ามอยส์ คงแก้ภาพลักษณ์ไม่ยาก มือระดับคุมทีมอาชีพแบบนี้มานาน

สิ่งที่แปลกๆ คือการจัดตัวนักเตะ และการแก้เกมเมื่อตามหลัง คงเป็นที่คาใจแฟนทีมค่อนข้างมาก
ในสายตาผม แผงหลังในช่วงกลางถึงปลายซีซั่นที่แล้ว เฟอร์กี้มักใช้คู่เซ็นเตอร์แก่สลับหนุ่ม หลังๆแทบไม่เห็นวิดิชคู่กับเฟอร์ดินาน
เหตุผลคือ ความโรยราของทั้งคู่ ต้องอาศัยเด็กๆ อย่างอีแวน หรือสมอลลิ่ง มาเป็นตัวชน ก่อนพวกพี่ใหญ่เก็บกิน

ในส่วนตัว...ผมค่อนข้างสงสัยว่า คากาวะ ชิชาริโต้ อีแวน จานูซาส เหล่านี้ไปไหน ทำไมเมื่อโดนขยี้แบบนั้นไม่ตัดใจเทให้หมดหน้าตัด
อย่างชิชา แม้มันดูวูบๆวาบๆไม่นิ่ง แต่ลูกยิงประหลาดๆ ก็มีให้เห็น

ที่ขัดใจโคตรๆ คือ...จะดองชินจิ คากาวะที่รักของกูทำมายยยยยยย ถ้ารู้ว่ามันห่วยกว่าเวลเบ็ค ก็ขายซีโว๊ยยยยยยยยย

สรุป...เละอย่างที่เห็น

ยังไงก็ต้องชมและยอมรับแมนซิตี้อย่างหมดใจ...ทีมนี้มันน่ากลัวชิหาย แรกๆผมก็มองเชลซีมันดูโหดๆ เพราะมีมูรินโย่
ตอนนี้ ถ้าผจก.แมนซิตี้ จัดการความลงตัวของทีมได้เป็นลำดับๆ กรึ๋ยสสส์ มันจะสุดยอดขนาดไหน แค่ส่งเซโก้ลงมาท้ายเกม ยังดูน่าหวาดเสียวเหมือนเดิม

เกมมันมากครับ...ยกนิ้วให้จริงๆ เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม

สุดท้ายสองแดงเดือดทีมช้ำ ฟ้าก็เป็นใจให้ระบายความใคร่ต่อกันในศึกแคปปิต้อลวันคัพ...ต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่