ตะลึงแวดวงสงฆ์ พระเกย์อื้อ เที่ยวบาร์-ออฟชาย
พระเกย์ - ภาพพระเกย์นอนนัวเนียจีวรหลุดลุ่ยอยู่ในกุฏิ และโอบกอดพลอดรักเด็กหนุ่ม ซึ่งกลุ่มเกย์การเมืองเตรียมนำภาพพฤติกรรมไม่เหมาะสมอีกจำนวนมาก ร้องเรียนมหาเถรสมาคมจัดการพระเณรที่ทำให้ศาสนามัวหมอง แปดเปื้อนแวดวงพระสงฆ์เชียงใหม่
กลุ่มเกย์การเมืองแฉพระร้อยละ 20 เป็นเกย์ กะเทย บางรูปถอดผ้าเหลือง ใส่ชุดฆราวาสเข้าบาร์เกย์ สปาชายรักชาย ใช้บริการเด็กออฟ โทร.เรียกเด็กหนุ่มคู่ขาเข้านัวเนียในกุฏิ แม้กระทั่งสามเณรยังถูกพระผู้ใหญ่เรียกไปใช้งานแล้วลวนลาม เรียกร้องหยุดพฤติกรรมทำให้พุทธศาสนามัวหมอง เตรียมยื่นมหาเถรฯ ปราบ "พระตุ๊ด เณรแต๋ว" ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ทำหนังสือแจ้งเจ้าคณะผู้ปกครอง สั่งพระสังฆาธิการตรวจสอบ หากพบทำผิดขั้นร้ายแรงให้จับสึกทันที ชี้บางคนก่อนบวชปกติ แต่พอเป็นพระแล้วกลับแสดงกิริยาตุ้งติ้ง
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. นายนที ธีระโรจนพงษ์ ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย และในฐานะกรรมการสภาวัฒนธรรม จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีพระสงฆ์ในวัดต่างๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 เป็นพระเกย์ โดยมีพฤติกรรมสลัดผ้าเหลือง แล้วเปลี่ยนชุดเป็นฆราวาส เข้าไปใช้บริการในบาร์เกย์ สถานบริการนวดสำหรับชายรักชาย และที่น่าตกใจคือ พระเกย์เหล่านี้เรียกใช้บริการเด็กออฟจากบาร์เกย์กันมากมาย ด้วยการโทรศัพท์เรียกเด็กหนุ่มให้ไปหาถึงกุฏิวัด
หลังเสร็จกิจแล้วนำเงินใส่ซองขาวเป็นค่าบริการ นอกจากเรียกใช้บริการทางเพศจากบาร์เกย์แล้ว ยังมีพระเกย์บางส่วนนำชายหนุ่มคู่ขาขึ้นกุฏิเป็นประจำกรรมการสภาวัฒนธรรม จ.เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า ส่วนการออฟเด็กตามบาร์เกย์มีบ่อยครั้ง รวมไปถึงเด็กที่ขายตัวตามสวนสาธารณะ มีตัวอย่างเกิดขึ้น สาม เณรอายุ 10 ปี ถูกพระหลวงพี่ใช้เข้าไปนวดที่กุฏิ และพระเปิดหนังเอ็กซ์ให้ดู จากนั้นพระลวนลามจับอวัยวะเพศ
อีกทั้งยังใช้ปากสำเร็จความใคร่ จนสามเณรโตขึ้นและสึกจากสมณเพศออกไป ต่อมากลับมายังวัดอีกครั้ง แต่พระรูปนั้นทำเป็นไม่รู้จัก ไม่เคยสนิทสนม เพราะกลัวการเปิดเผย ทำเป็นเหมือนคนไม่คุ้นเคย "ได้พูดคุยกับน้องๆ หลายๆ คน ที่ถูกพระระดับเจ้าอาวาส หรือพระระดับสูง ที่มีพฤติกรรม พระตุ๊ด พระแต๋ว เรียกไปใช้งานและถูกลวนลาม ส่วนใหญ่จะถูกปิดปากให้เรื่องเงียบด้วยเงิน
หรือการให้โอกาส รวมถึงได้รับการดูแลคุ้มครองมากกว่าคนอื่น เด็กที่เป็นเณรไม่กล้าออกมาพูด เพราะกลัวถูกไล่จากวัด การถูกกระทำไม่ใช่แค่ก้นอย่างเดียว แต่อาจบังคับให้ร่วมกับอวัยวะอื่น เรื่องที่เกิดขึ้นหลายคนมองว่าเป็นเรื่องที่น่าอาย ไม่กล้าเปิดเผย และเกินความสามารถของเด็กที่ลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง
ขณะเดียวกัน คนนอกก็ไม่สามารถเข้ามาข้องแวะได้ เพราะสถานที่เกิดเหตุส่วนใหญ่อยู่ในกุฏิ" ประธานกลุ่มเกย์การ เมืองไทยกล่าวนายนที กล่าวอีกว่า พฤติกรรมพระที่ชอบมีอะไรกับเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี เรียกว่า "Pedophile" และเรียกคนกลุ่มนี้เป็นโรค "Pedophilia"
จึงอยากขอเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมอย่างนี้ ขอให้หยุด เพราะนำมาสู่รอยบาดแผลร้าวลึกในใจเด็กๆ ยังทำให้ผู้ถูกกระทำบางคนเกลียดชังกะเทย นำไปสู่เป็นความเคียดแค้น เมื่อหลายคนโตเป็นหนุ่มใหญ่ทำให้อยากทำร้าย อยากฆ่ากะเทย หรือเกย์ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการฝังใจทางลบ เคยมีตัวอย่างหนึ่ง ชาวต่างชาตินำหลานชายเป็นเด็กหน้าตาดี ลูกครึ่งไทย-สวีเดน อายุ 11-12 ปี มาบวชเป็นสามเณรทางภาคเหนือ
ตอนที่ชาวต่างชาติเข้าไปเยี่ยม สามเณรบอกว่าไม่อยากอยู่วัด เพราะถูกพระผู้ใหญ่แทะโลม ลวนลาม ทำให้ต้องรีบสึกออกไป และเสื่อมศรัทธาต่อพระศาสนา ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าทางกลุ่มจะแถลงเรื่อง "พระตุ๊ด เณรแต๋ว กับพฤติกรรมการทำลายศาสนา"
และในวันรุ่งขึ้นจะร่วมกับกลุ่มเกย์การเมืองไทย และเครือข่ายองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศ กลุ่มเชียงใหม่อริยะ ซึ่งเป็นแกนหลัก รวมถึงสมาชิก จะยื่นหนังสือถึงมหาเถรสมาคม เพื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมพระตุ๊ด เณรแต๋ว ที่ก่อให้พุทธศาสนามัวหมองจากพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ ยังส่งผลถึงกลุ่มชายรักชาย ทำให้คนที่มองพวกเราอยู่เกิดอคติ ถูกมองในมุมลบ ทำให้เกย์ซึ่งมีพื้นที่ยืนอยู่น้อยนิดอยู่ในสังคมถูกลิดรอนพื้นที่ กลุ่มเกย์การเมืองไทยเห็นว่าเป็นผลกระทบโดยตรงที่เกิดขึ้น จึงอยากขอปรามคนเหล่านี้ไม่ให้อยู่ในร่มผ้ากาสาวพัสตร์อีกต่อไป
ด้าน นายจำลอง กิติศรี ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สำนักพุทธฯ มีความเป็นห่วงในปัญหาพระเกย์เป็นอย่างมาก โดยล่าสุดได้ประชุมร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด สภาวัฒนธรรมจังหวัด รวมถึงกองบังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ เพื่อหามาตรการแก้ไข ยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมาพระผู้ใหญ่ในแต่ละพื้นที่ ทั้งเจ้าคณะตำบล และเจ้าคณะอำเภอ อาจดูแลพระสงฆ์ในปกครองไม่ทั่วถึง
เพราะไม่มีหน้าที่ที่จะต้องออกไปตรวจสอบ ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่สื่อมวลชนและประชาชนชาวเชียงใหม่จะร่วมกันเป็นหูเป็นตา แจ้งพฤติกรรมที่พบเห็นให้สำนักงานพระพุทธศาสนา เพื่อแจ้งไปยังพระผู้ใหญ่ให้จัดการในทันที ขณะที่ นายวัลลภ นามวงค์พรหม
คณะกรรมการวัฒนธรรม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ทางคณะสงฆ์ใน จ.เชียงใหม่ คุมเข้มจับตาดูพฤติกรรมตลอด และมีกฎระเบียบคณะสงฆ์ออกมาควบคุม คิดว่าไม่มีปัญหาอย่างที่มีข่าวออกมา ซึ่งพระกะเทยหรือพระเกย์ตามวัดต่างๆ มีอยู่แล้ว แต่จะไปปรักปรำก็ไม่ได้ อาจจะไม่ใช่ หรืออาจจะใช่ อีกอย่างเรื่องนี้มักจะเป็นกระแสให้แก่ผู้ที่อยากจะมีชื่อเสียงนำมาเป็นจุดสร้างชื่อเสียงให้ตนเอง ถือว่านำเอาศาสนามาเป็นจุดขาย ถือว่าไม่ถูก
คณะกรรมการวัฒนธรรม จ.เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ระบุว่ามีพระเกย์ออฟผู้ชายไปมั่วในกุฏินั้น คงไม่ถึงขนาดนั้น ซึ่งพระรู้ดีว่าหากชาวบ้านหรือพระผู้ใหญ่จับได้จะอับอายแค่ไหน และกฎของพระก็เข้มอยู่แล้ว ก็เหลือแต่พวกที่ชอบแต่งกายนำจีวรมาดัดแปลงเป็นชุดกิโมโน และชุดเกาะอก เรื่องนี้ทางคณะสงฆ์ออกมาตักเตือนแล้ว และสั่งให้เจ้าอาวาสแต่ละวัดช่วยกันดูแลพระลูกวัดและสามเณรให้แต่งกายเหมาะสม
รวมทั้งการออกไปข้างนอกวัดต้องให้สำรวม อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาดูแลอยู่ หากประชาชนพบเห็นพระสงฆ์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม สามารถแจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนาได้ทันที หรือไม่ก็แจ้งตำรวจ รวมทั้งพวกพระเรี่ยไร หรือพระปลอม ก็ให้แจ้งตำรวจจัดการได้
วันเดียวกัน นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า มิได้นิ่งนอนใจ ถ้าเป็นเรื่องจริงถือว่าสร้างความเสียหายให้แก่คณะสงฆ์ ดังนั้น ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จะทำหนังสือแจ้งไปถึงเจ้าคณะผู้ปกครองในเขตพื้นที่ จ.เชียงใหม่ สั่งกำชับไปยังพระสังฆาธิการในเขตปกครองให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และคอยดูแลพฤติกรรมของพระลูกวัดอย่างเข้มงวด หากพบพฤติกรรมไม่เหมาะสมให้พระสังฆาธิการสอบสวนในทันที ถ้าความผิดไม่ร้ายแรงให้ตักเตือน หรือทำทัณฑ์บน
แต่ถ้าถึงขั้นร้ายแรงต้องสึกออกจากความเป็นพระภิกษุทันที โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จะประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดให้เข้าไปช่วยพระสังฆาธิการในเขตพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ตรวจสอบและคอยถวายคำแนะนำ และช่วยเหลืออย่างเต็มที่ "เรื่องพระเกย์ หรือพระตุ๊ด เคยมีเรื่องร้องเรียนมาเป็นระยะ สร้างความเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา ตรงนี้คงจะไปโทษพระอุปัชฌาย์ที่พิจารณาคนที่เข้ามาขออุปสมบทเป็นพระภิกษุไม่ได้ เพราะบางคนตอนเข้ามาขอบวชก็ไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด
แต่พอเข้ามาอยู่ในเพศบรรพชิตก็แสดงพฤติกรรมออกมา แม้ในปัจจุบันเราจะยอมรับสถานะของเพศที่สามแล้วก็ตาม แต่คนที่จะเข้ามาขอบวชเป็นพระเพื่อทดแทนคุณบุพการี หรือบวชตามประเพณีอันดีงาม คงต้องขอร้องว่าเมื่อเข้ามาเป็นพระภิกษุแล้วจะต้องวางตัวให้เหมาะสม อย่าแสดงกิริยาตุ้งติ้ง เพื่อให้คนที่เข้ามาในวัดเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จนกว่าจะถึงเวลาสึกออกมาเป็นฆราวาส"
ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กล่าวด้านนายอำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กล่าวว่า ได้ทราบถึงปัญหานี้แล้ว ทางสำนักเลขาธิการมหาเถรฯ และส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จะลงไปตรวจสอบในพื้นที่จ.เชียงใหม่ภายในสัปดาห์หน้า พร้อมทั้งจะประสานไปยังสภาวัฒนธรรม จ.เชียงใหม่ และเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ในพื้นที่ เพื่อขอรับทราบข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้น และจะแก้ไขให้ดีขึ้น
ที่มาจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด
http://www.ohbar.com.au/main/view-content.php?id_content=730
คุณ สมพร ว่าไงดีคะ กับข่าวนี้ : ตะลึงแวดวงสงฆ์ พระเกย์อื้อ เที่ยวบาร์-ออฟชาย
พระเกย์ - ภาพพระเกย์นอนนัวเนียจีวรหลุดลุ่ยอยู่ในกุฏิ และโอบกอดพลอดรักเด็กหนุ่ม ซึ่งกลุ่มเกย์การเมืองเตรียมนำภาพพฤติกรรมไม่เหมาะสมอีกจำนวนมาก ร้องเรียนมหาเถรสมาคมจัดการพระเณรที่ทำให้ศาสนามัวหมอง แปดเปื้อนแวดวงพระสงฆ์เชียงใหม่
กลุ่มเกย์การเมืองแฉพระร้อยละ 20 เป็นเกย์ กะเทย บางรูปถอดผ้าเหลือง ใส่ชุดฆราวาสเข้าบาร์เกย์ สปาชายรักชาย ใช้บริการเด็กออฟ โทร.เรียกเด็กหนุ่มคู่ขาเข้านัวเนียในกุฏิ แม้กระทั่งสามเณรยังถูกพระผู้ใหญ่เรียกไปใช้งานแล้วลวนลาม เรียกร้องหยุดพฤติกรรมทำให้พุทธศาสนามัวหมอง เตรียมยื่นมหาเถรฯ ปราบ "พระตุ๊ด เณรแต๋ว" ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ทำหนังสือแจ้งเจ้าคณะผู้ปกครอง สั่งพระสังฆาธิการตรวจสอบ หากพบทำผิดขั้นร้ายแรงให้จับสึกทันที ชี้บางคนก่อนบวชปกติ แต่พอเป็นพระแล้วกลับแสดงกิริยาตุ้งติ้ง
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. นายนที ธีระโรจนพงษ์ ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย และในฐานะกรรมการสภาวัฒนธรรม จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีพระสงฆ์ในวัดต่างๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 เป็นพระเกย์ โดยมีพฤติกรรมสลัดผ้าเหลือง แล้วเปลี่ยนชุดเป็นฆราวาส เข้าไปใช้บริการในบาร์เกย์ สถานบริการนวดสำหรับชายรักชาย และที่น่าตกใจคือ พระเกย์เหล่านี้เรียกใช้บริการเด็กออฟจากบาร์เกย์กันมากมาย ด้วยการโทรศัพท์เรียกเด็กหนุ่มให้ไปหาถึงกุฏิวัด
หลังเสร็จกิจแล้วนำเงินใส่ซองขาวเป็นค่าบริการ นอกจากเรียกใช้บริการทางเพศจากบาร์เกย์แล้ว ยังมีพระเกย์บางส่วนนำชายหนุ่มคู่ขาขึ้นกุฏิเป็นประจำกรรมการสภาวัฒนธรรม จ.เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า ส่วนการออฟเด็กตามบาร์เกย์มีบ่อยครั้ง รวมไปถึงเด็กที่ขายตัวตามสวนสาธารณะ มีตัวอย่างเกิดขึ้น สาม เณรอายุ 10 ปี ถูกพระหลวงพี่ใช้เข้าไปนวดที่กุฏิ และพระเปิดหนังเอ็กซ์ให้ดู จากนั้นพระลวนลามจับอวัยวะเพศ
อีกทั้งยังใช้ปากสำเร็จความใคร่ จนสามเณรโตขึ้นและสึกจากสมณเพศออกไป ต่อมากลับมายังวัดอีกครั้ง แต่พระรูปนั้นทำเป็นไม่รู้จัก ไม่เคยสนิทสนม เพราะกลัวการเปิดเผย ทำเป็นเหมือนคนไม่คุ้นเคย "ได้พูดคุยกับน้องๆ หลายๆ คน ที่ถูกพระระดับเจ้าอาวาส หรือพระระดับสูง ที่มีพฤติกรรม พระตุ๊ด พระแต๋ว เรียกไปใช้งานและถูกลวนลาม ส่วนใหญ่จะถูกปิดปากให้เรื่องเงียบด้วยเงิน
หรือการให้โอกาส รวมถึงได้รับการดูแลคุ้มครองมากกว่าคนอื่น เด็กที่เป็นเณรไม่กล้าออกมาพูด เพราะกลัวถูกไล่จากวัด การถูกกระทำไม่ใช่แค่ก้นอย่างเดียว แต่อาจบังคับให้ร่วมกับอวัยวะอื่น เรื่องที่เกิดขึ้นหลายคนมองว่าเป็นเรื่องที่น่าอาย ไม่กล้าเปิดเผย และเกินความสามารถของเด็กที่ลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง
ขณะเดียวกัน คนนอกก็ไม่สามารถเข้ามาข้องแวะได้ เพราะสถานที่เกิดเหตุส่วนใหญ่อยู่ในกุฏิ" ประธานกลุ่มเกย์การ เมืองไทยกล่าวนายนที กล่าวอีกว่า พฤติกรรมพระที่ชอบมีอะไรกับเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี เรียกว่า "Pedophile" และเรียกคนกลุ่มนี้เป็นโรค "Pedophilia"
จึงอยากขอเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมอย่างนี้ ขอให้หยุด เพราะนำมาสู่รอยบาดแผลร้าวลึกในใจเด็กๆ ยังทำให้ผู้ถูกกระทำบางคนเกลียดชังกะเทย นำไปสู่เป็นความเคียดแค้น เมื่อหลายคนโตเป็นหนุ่มใหญ่ทำให้อยากทำร้าย อยากฆ่ากะเทย หรือเกย์ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการฝังใจทางลบ เคยมีตัวอย่างหนึ่ง ชาวต่างชาตินำหลานชายเป็นเด็กหน้าตาดี ลูกครึ่งไทย-สวีเดน อายุ 11-12 ปี มาบวชเป็นสามเณรทางภาคเหนือ
ตอนที่ชาวต่างชาติเข้าไปเยี่ยม สามเณรบอกว่าไม่อยากอยู่วัด เพราะถูกพระผู้ใหญ่แทะโลม ลวนลาม ทำให้ต้องรีบสึกออกไป และเสื่อมศรัทธาต่อพระศาสนา ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าทางกลุ่มจะแถลงเรื่อง "พระตุ๊ด เณรแต๋ว กับพฤติกรรมการทำลายศาสนา"
และในวันรุ่งขึ้นจะร่วมกับกลุ่มเกย์การเมืองไทย และเครือข่ายองค์กรอัตลักษณ์ทางเพศ กลุ่มเชียงใหม่อริยะ ซึ่งเป็นแกนหลัก รวมถึงสมาชิก จะยื่นหนังสือถึงมหาเถรสมาคม เพื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมพระตุ๊ด เณรแต๋ว ที่ก่อให้พุทธศาสนามัวหมองจากพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ ยังส่งผลถึงกลุ่มชายรักชาย ทำให้คนที่มองพวกเราอยู่เกิดอคติ ถูกมองในมุมลบ ทำให้เกย์ซึ่งมีพื้นที่ยืนอยู่น้อยนิดอยู่ในสังคมถูกลิดรอนพื้นที่ กลุ่มเกย์การเมืองไทยเห็นว่าเป็นผลกระทบโดยตรงที่เกิดขึ้น จึงอยากขอปรามคนเหล่านี้ไม่ให้อยู่ในร่มผ้ากาสาวพัสตร์อีกต่อไป
ด้าน นายจำลอง กิติศรี ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สำนักพุทธฯ มีความเป็นห่วงในปัญหาพระเกย์เป็นอย่างมาก โดยล่าสุดได้ประชุมร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด สภาวัฒนธรรมจังหวัด รวมถึงกองบังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ เพื่อหามาตรการแก้ไข ยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมาพระผู้ใหญ่ในแต่ละพื้นที่ ทั้งเจ้าคณะตำบล และเจ้าคณะอำเภอ อาจดูแลพระสงฆ์ในปกครองไม่ทั่วถึง
เพราะไม่มีหน้าที่ที่จะต้องออกไปตรวจสอบ ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่สื่อมวลชนและประชาชนชาวเชียงใหม่จะร่วมกันเป็นหูเป็นตา แจ้งพฤติกรรมที่พบเห็นให้สำนักงานพระพุทธศาสนา เพื่อแจ้งไปยังพระผู้ใหญ่ให้จัดการในทันที ขณะที่ นายวัลลภ นามวงค์พรหม
คณะกรรมการวัฒนธรรม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ทางคณะสงฆ์ใน จ.เชียงใหม่ คุมเข้มจับตาดูพฤติกรรมตลอด และมีกฎระเบียบคณะสงฆ์ออกมาควบคุม คิดว่าไม่มีปัญหาอย่างที่มีข่าวออกมา ซึ่งพระกะเทยหรือพระเกย์ตามวัดต่างๆ มีอยู่แล้ว แต่จะไปปรักปรำก็ไม่ได้ อาจจะไม่ใช่ หรืออาจจะใช่ อีกอย่างเรื่องนี้มักจะเป็นกระแสให้แก่ผู้ที่อยากจะมีชื่อเสียงนำมาเป็นจุดสร้างชื่อเสียงให้ตนเอง ถือว่านำเอาศาสนามาเป็นจุดขาย ถือว่าไม่ถูก
คณะกรรมการวัฒนธรรม จ.เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ระบุว่ามีพระเกย์ออฟผู้ชายไปมั่วในกุฏินั้น คงไม่ถึงขนาดนั้น ซึ่งพระรู้ดีว่าหากชาวบ้านหรือพระผู้ใหญ่จับได้จะอับอายแค่ไหน และกฎของพระก็เข้มอยู่แล้ว ก็เหลือแต่พวกที่ชอบแต่งกายนำจีวรมาดัดแปลงเป็นชุดกิโมโน และชุดเกาะอก เรื่องนี้ทางคณะสงฆ์ออกมาตักเตือนแล้ว และสั่งให้เจ้าอาวาสแต่ละวัดช่วยกันดูแลพระลูกวัดและสามเณรให้แต่งกายเหมาะสม
รวมทั้งการออกไปข้างนอกวัดต้องให้สำรวม อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาดูแลอยู่ หากประชาชนพบเห็นพระสงฆ์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม สามารถแจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนาได้ทันที หรือไม่ก็แจ้งตำรวจ รวมทั้งพวกพระเรี่ยไร หรือพระปลอม ก็ให้แจ้งตำรวจจัดการได้
วันเดียวกัน นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า มิได้นิ่งนอนใจ ถ้าเป็นเรื่องจริงถือว่าสร้างความเสียหายให้แก่คณะสงฆ์ ดังนั้น ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จะทำหนังสือแจ้งไปถึงเจ้าคณะผู้ปกครองในเขตพื้นที่ จ.เชียงใหม่ สั่งกำชับไปยังพระสังฆาธิการในเขตปกครองให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และคอยดูแลพฤติกรรมของพระลูกวัดอย่างเข้มงวด หากพบพฤติกรรมไม่เหมาะสมให้พระสังฆาธิการสอบสวนในทันที ถ้าความผิดไม่ร้ายแรงให้ตักเตือน หรือทำทัณฑ์บน
แต่ถ้าถึงขั้นร้ายแรงต้องสึกออกจากความเป็นพระภิกษุทันที โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จะประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดให้เข้าไปช่วยพระสังฆาธิการในเขตพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ตรวจสอบและคอยถวายคำแนะนำ และช่วยเหลืออย่างเต็มที่ "เรื่องพระเกย์ หรือพระตุ๊ด เคยมีเรื่องร้องเรียนมาเป็นระยะ สร้างความเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนา ตรงนี้คงจะไปโทษพระอุปัชฌาย์ที่พิจารณาคนที่เข้ามาขออุปสมบทเป็นพระภิกษุไม่ได้ เพราะบางคนตอนเข้ามาขอบวชก็ไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด
แต่พอเข้ามาอยู่ในเพศบรรพชิตก็แสดงพฤติกรรมออกมา แม้ในปัจจุบันเราจะยอมรับสถานะของเพศที่สามแล้วก็ตาม แต่คนที่จะเข้ามาขอบวชเป็นพระเพื่อทดแทนคุณบุพการี หรือบวชตามประเพณีอันดีงาม คงต้องขอร้องว่าเมื่อเข้ามาเป็นพระภิกษุแล้วจะต้องวางตัวให้เหมาะสม อย่าแสดงกิริยาตุ้งติ้ง เพื่อให้คนที่เข้ามาในวัดเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จนกว่าจะถึงเวลาสึกออกมาเป็นฆราวาส"
ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กล่าวด้านนายอำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ กล่าวว่า ได้ทราบถึงปัญหานี้แล้ว ทางสำนักเลขาธิการมหาเถรฯ และส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จะลงไปตรวจสอบในพื้นที่จ.เชียงใหม่ภายในสัปดาห์หน้า พร้อมทั้งจะประสานไปยังสภาวัฒนธรรม จ.เชียงใหม่ และเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ในพื้นที่ เพื่อขอรับทราบข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้น และจะแก้ไขให้ดีขึ้น
ที่มาจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด
http://www.ohbar.com.au/main/view-content.php?id_content=730