แบรนดอน ร็อดเจอร์

ขอพูดถึงสักนิดนะครับ จากเกมเมื่อคืน

ผมอยากแชร์แฟนหงส์ทุกท่านเลย ในส่วนเป้าหมายหลักของทีมในฤดูกาลนี้ คือได้กลับไปเล่น UCL
ในช่วงที่เปิดฤดูกาลมาเราสามารถทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจในผลลัพท์ ซึ่งทำให้ทีมขึ้นไปอยู่เป็นอันดับแรกของตารางได้
จนทำให้หลายๆคนฝันไกลว่า มีโอกาศ อาจจะ หรืออะไรก็แล้วแต่ ว่าจะหยิบแชมป์ในฤดูกาลนี้
จะมีพวกฮาร์ดคอออกมาป่าวประกาศ หรือเก็บไว้เงียบๆ เพราะรู้ว่าต้อง ดวงดีชุดมหาโหด แบบผม ไม่พูด แต่แอบหวัง
อันนี้ไม่นับรวมเหล่าเสี้ยมทีมอื่นนะครับ

จนมาถึงเกมกับเซาร์เมื่อคืนนี้ หลายๆสิ่งคงชัดเจนขึ้นกับสายตาทุกคนที่ได้ดูเลยครับ
ผมคงไม่ลงลึกไปในเกมเพราะ ในTIA จะมีคนที่วิเคราะเกมส์การเล่นได้ดีกว่าอยู่แล้วทุกครั้ง
แต่สิ่งที่ผมอยากแชร์ที่กระทู้นี้คือ ผจก.ทีมของเรา BR / แบรนดอน ร็อดเจอร์

จากในช่วงที่ผ่านมา BR จัดการกับเกม แบบนัดต่อนัดมาตลอด ไม่ว่าเจอกับใคร เค้าจะเลือกที่จะใช้แทคติค
กับทีมที่จะเจอโดยเฉพาะ เลือกการใช้เกม ตีหัวเข้าบ้าน เพราะต้องการเน้นผลลัพท์ ซึ่งในช่วงแรก ทำได้ดี เพราะยังไม่มีแรงกดดัน
แท็คติกที่วางมาจึงใช้ได้ ทุกเกมที่ลงเล่น เราจะมี  กองกลาง 3 คนเริ่มถ่ายบอลมาโดยตลอด ไม่ว่าจะบุกจากทางไหน
ระยะห่างระหว่างกองกลางกับกองหลัง จะไม่อยู่ห่างกันมาก เพื่อส่งเสริมการถ่ายบอลไปสู่เกมรุกในแต่ละครั้ง
ในช่วงแรกๆ เราจะเห็นกองหลังยืนสูง เกือบกลางสนาม เพื่อจัดการกับระยะ โดยให้แบ็คสองข้าง ช่วย กลองกลาง คุมพื้นที่การไล่บอล  
รูปแบบนี้คือการที่จะเน้นในการเอาบอลมาอยู่ในครอบครอง เพื่อเริ่มทำการบุกต่อไป รูปแบบนี้เกมแดนกลางเราจะแน่น
และส่งผ่านบอลกันได้โดยง่าย เมื่อได้ประตูทีมจะเคลื่อนลงต่ำกว่าเดิม และใช้เกมโต้กลับ

แต่จากสองเกมล่าสุด เริ่มตั้งแต่สวอนซีแล้ว ทันทีที่เราเสียประตู แนวหลังเรารับลึกกว่าเดิมทันที
ทำให้กลองกลางต้องถอยต่ำลงมาปิดระยะตรงนั้น แล้วเกมรุกเราก็ขาดหายไปทันที ทียังเดินอยู่ได้เพราะคูตินโญ่
คอยปั้นจังหวะให้ มีคนเติมก็จ่ายไปจุดนั้น และคนอื่นก็วิ่งเข้าตำแหน่งได้ทัน จึงเหมือนบุกเป็นแผงได้อยู่บ้าง จนเค้าเจ็บออกจากสนาม
เกมก็เลยเป็นวันเวย์ของสวอนซีไป ยังดีที่เกมวันนั้นเรามี เชลวี่ ทำผิดพลาดให้เราถึงสองครั้ง จึงยังได้ผลเสมอกลับมา

มาเกมกับเซาท์ฯ สิ่งที่ผมหวั่นใจก็เป็นจริงทันที รายชื่อผู้เล่นแนวหลัง ซึ่งจะยืนต่ำกว่าเดิมแน่นอน ที่แบ็คสองข้าง ไม่ใช่แบคแนวรุกเลย
เหตุผล คือ ป้องกันประตูก่อน พูดซะหรู เอาให้ถูกคือ กลัวแพ้  หรือถ้าผมคิดผิดคืออยากลอง แบ็คซ้ายโดยให้ซาโก้แทนเอนริเก้
แต่อย่างไรก็แล้วแต่ BR ต้องรู้อยู่แล้วว่าเราจะรับลึกในเกมนี้ ซึ่งพอเริ่มเกมทุกอย่างก็เป็นตามนั้น

เมื่อตัดบอลได้ แนวรุกอยู่ไกลประตูเกินไปก็อาศัยความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละคนเพื่อจะพาบอลไปที่โกล์ฝั่งตรงข้าม
คนที่ทำได้ดีจึงเป็นโมเสส ที่เร็ว แต่คนอื่นตามไม่ทัน ถ้าไปถึงสเตอริดจ์ ก็โดดเดี่ยวเพราะตัวเสริมยังไม่ขึ้นมา
เป็นแบบนี้ทั้งเกม ตอนเราเสียประตู เราพยายามที่จะดันสูงขึ้น เปลี่ยนผู้เล่นเพื่อเพิ่มแนวทางการรุก เพราะต้องแก้ไปที่ การเอาประตูแล้ว
แต่ตำแหน่งการยืนและรูปแบบการเล่นไม่เปลี่ยน การเข้าทำเร่งจังหวะ ลนลาน ผลจึงแพ้ไปตามระเบียบ

ผมอ่านข่าวร็อดเจอร์ช่วงหลังๆ ก็พอจะทราบว่าร็อดเจอร์ก็รู้ปัญหา การยืนต่ำของลูกทีม อย่างเรื่องสภาวะจิตใจที่เป็นปัญหา
แต่ผมก็มองว่า จิตใจBR ก็เป็นปัญหาเหมือนกันนะ อาจเป็นเพราะเป็นครั้งแรกที่ ได้ทำทีมขึ้นมาบนสุดของตาราง
ความกดดันที่ได้รับ ไม่น้อยไปกว่าผู้เล่นในสนามแน่ๆ เพราะ BR คือผู้นำ และกำลังยืนอยู่ตรงนี้
การตัดสินใจในเกมล่าสุดนี้ เห็นชัดว่าเน้นไม่เสียประตูไว้ก่อน อาจเป็นเพราะไม่มี คูตินโญ่ ทีจะผสานเกมจากรับเป็นรุก
แต่อย่างไรก็แล้วแต่ สิ่งที่ BR พร่ำบอกกับทุกคนมาตลอดคือ การครองบอล และมันเป็นจุดเริ่มต้นของเขา แต่ตอนนี้กำลังใช้
แทคติคที่ต่างออกไปจากผู้เล่นที่ หามาอยู่ในทีมตอนนี้

แน่นอนเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องใหม่สำหรับทุกคนในทีม แรงกดดัน ที่เกิดกับตัวเอง การจัดตัวเปลี่ยนไป
จนส่งผลโดยตรงกับรูปแบบการเล่นและผลลัพท์ในท้ายที่สุด ทั้งๆที่ ถ้าเล่นไปตามเกมปกติที่เคยเล่น
3 แต้ม จากเซาท์ฯ ในบ้านเราเอง ไม่น่าจะพลาดเลย

ผมว่ายังดีที่ตอนนี้เป็นแค่เกมที่ 5 โดยที่หวังว่า BR จะยอมรับตัวเองว่า ใจ ของตนก็มีผลที่ทำให้เป็นแบบนี้เหมือนกัน
จากข่าวที่บอกว่าปรึกษาโค้ชในทีมเพื่อแก้ปัญหา หวังว่าโค้ชจะบอกเขาบ้างว่า เราต้องทำทีมเพื่อชนะ ไม่ใช้เจอเซาท์
แล้วบอกว่าเราต้องไม่แพ้

ตอนนี้ผมกลัวว่าสัมภาษณ์จากเกมล่าสุด แล้ว บอกว่า "เซ้าท์ฯเตรียมตัวมาดี เกมในพรีเมียร์ลีก ทุกทีมพัฒนาขึ้น การเอาชนะไม่ใช่เรื่องง่าย" อะไรแบบนี้ คงเซงอีกเป็นสองเท่า T T  

แฟนหงส์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่