ร่องรอยแห่งการตีความในพระไตรปิฎก
http://www.mcu.ac.th/site/articlecontent_desc.php?article_id=716&articlegroup_id=154
ดร.ประพันธ์ ศุภษร
คำสอนของพระพุทธเจ้าที่บรรจุอยู่ในพระไตรปิฎกนั้นมีทั้งคำสอนที่มีความหมายตรง (นีตัตถะ) และคำสอนที่จะต้องตีความ (เนยยัตถะ) เพราะกาลเวลาและสถานที่ในแสดงธรรมของพระพุทธเจ้าแตกต่างกัน บุคคลผู้ฟังธรรมก็มีหลายกลุ่มหลายประเภท ถ้อยคำภาษาในการสื่อความหมายย่อมต้องเปลี่ยนไปตามพื้นฐานความรู้ของคนหรือกลุ่มชนนั้นๆ แต่ในท่ามกลางแห่งความหลากหลายนี้ พระองค์ทรงวางหลักตัดสินพระธรรมวินัย ๘ ประการ หลักมหาปเทส ๔ และหลักกาลามสูตร สำหรับตรวจสอบความถูกต้องแห่งพุทธธรรมและหลักการเพื่อช่วยตัดสินใจ ดังนั้น พลังขับเคลื่อนแห่งธรรมจักรต้องหมุนไปตามบริบทของสังคม ร่องรอยแห่งการตีความในพระไตรปิฎกทั้ง ๓ จึงเป็นสิ่งที่น่าศึกษาต่อไป
มีต่อ
ร่องรอยแห่งการตีความในพระไตรปิฎก
ร่องรอยแห่งการตีความในพระไตรปิฎก
http://www.mcu.ac.th/site/articlecontent_desc.php?article_id=716&articlegroup_id=154
ดร.ประพันธ์ ศุภษร
คำสอนของพระพุทธเจ้าที่บรรจุอยู่ในพระไตรปิฎกนั้นมีทั้งคำสอนที่มีความหมายตรง (นีตัตถะ) และคำสอนที่จะต้องตีความ (เนยยัตถะ) เพราะกาลเวลาและสถานที่ในแสดงธรรมของพระพุทธเจ้าแตกต่างกัน บุคคลผู้ฟังธรรมก็มีหลายกลุ่มหลายประเภท ถ้อยคำภาษาในการสื่อความหมายย่อมต้องเปลี่ยนไปตามพื้นฐานความรู้ของคนหรือกลุ่มชนนั้นๆ แต่ในท่ามกลางแห่งความหลากหลายนี้ พระองค์ทรงวางหลักตัดสินพระธรรมวินัย ๘ ประการ หลักมหาปเทส ๔ และหลักกาลามสูตร สำหรับตรวจสอบความถูกต้องแห่งพุทธธรรมและหลักการเพื่อช่วยตัดสินใจ ดังนั้น พลังขับเคลื่อนแห่งธรรมจักรต้องหมุนไปตามบริบทของสังคม ร่องรอยแห่งการตีความในพระไตรปิฎกทั้ง ๓ จึงเป็นสิ่งที่น่าศึกษาต่อไป
มีต่อ