วันนี้ไปดูมา ก็เลยถือโอกาสมาแสดงความเห็นและรีวิวหนังไซไฟเรื่องนี้หน่อยน่ะครับ
จากประสบการณ์ที่ได้ดูหนังไซไฟ อวกาศ เท่าที่ผ่านตามานั้น ถึงแม้จะมี production อลังการแค่ไหน แต่ไม่เคยมีเรื่องไหนเลยที่ให้ความรู้สึก "จริง" นี่หมายรวมถึงพวก action sci-fi ชื่อดังอย่าง avatar และ prematius ด้วยน่ะครับ สาเหตุหลักๆคือมันดูเฟค ในแง่ของสภาพสังคม สภาพแวดล้อมที่ดูหลอก แต่ก็มาโดนใจกับหนัง district 9 ที่ทำให้คิดว่า นี่หละ ภาพอนาคตของจริงยิ่งถ้าดูจากสถานการณ์ปัจจุบันที่เราเผาผลาญทรัพยากรกันอย่างเมามัน ปล่อยมลพิษกันอย่างไม่บันยะบันยัง รวมไปถึงความขัดแย้ง และความแตกต่างทางชนชั้น และปัญหาทางเศรษฐกิจที่ประสบกันอยู่ปัจจุบันนี้ ผมว่าหนังเรื่องนี้ได้ฉายภาพอนาคตได้ใกล้เคียงของจริงตามความรู้สึกผมมากที่สุด ในส่วนของดราม่าทางชนชั้นที่หนังเอามาเล่า โดยให้ชนชั้นสองเป็นมนุษย์ต่างดาวนั้น เล่นเอาหงายเงิบไปเลย ถึงมันจะสุดโต่งแต่มันก็เป็นไปได้จริงๆ ตอนนั้นสิ่งที่ชอบอันดับแรกก็คือ การออกแบบงานสร้างและพล็อตดราม่าที่ประทับใจครับ
สำหรับ elysium นั้น หนังมีประเด็นดราม่าน้อยกว่า(ยังเน้นการแบ่งชนชั้นเหมือนเดิม) แต่จะเน้นหนักไปทางแอกชั่นซะมาก ซึ่งเห็นหลายคนบอกว่าอ่อน ไม่ค่อยมีอะไร แต่ผมกลับชอบน่ะ เนื้อเรื่องมันชัดเจนดี คนข้างล่างอยากขึ้นไปข้างบนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า เป็นธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว ส่วนตัวละครที่ชอบที่สุดก็คือ โจดี้ ฟอสเตอร์ครับ ที่เป็นนายพลผู้ดูแลความสงบเรียบร้อยของ Elysium ที่ถึงแม้เธอจะดูเหี้ยมโหด แต่ก็มีความเด็ดขาด ยึดมั่นในหลักการ ในขณะที่ประธานธิบดีก็เก่งแต่เรื่องสร้างภาพและเล่นการเมือง แอบเห็นด้วยที่เธอคิดจะโค่นล้มอำนาจเพื่อเป็นขึ้นเป็นผู้นำแทน ส่วนที่ประทับใจที่สุดก็ต้องยกให้เป็นงานด้านภาพที่ทำใด้ดีกว่าหนังเรื่องก่อนมาก คงเพราะทุนสร้างที่เยอะกว่าด้วย แต่มันก็ไม่ได้ดูโอเวอร์เกินจริง ถ้าจะให้เปรียบ elysium ก็คงเหมือน เมืองคนรวยอย่าง ไมอามี่ แต่แค่อยู่บนอวกาศเท่านั้น ตอนที่เห็น elysium ครั้งแรก ส่วนตัวผมก็แอบร้องอู้อ้าในใจเลยครับ คือมันสวยและไฮโซมาก สังคมบนนั้น นอกจากงานออกแบบสร้างที่ยอดเยี่ยมแล้ว ผมยังชอบเทคนิคการถ่ายภาพที่มันดูแปลกตา รวมทั้งการเลือกใช้ดนตรีประกอบที่ออกแนว ผ่าง ผ่าง มันทำให้แต่ละฉากดูยิ่งใหญ่ อลังการแบบพอดีๆ ผมว่าแค่ไปดูงานสร้างก็คุ้มแล้วล่ะ ฉากแอ้กชั่นก็เยอะมาก อาจจะโหดไปหน่อยสำหรับคนกลัวเลือดน่ะครับ
โดยสรุป โดยรวมแล้ว ผมให้คะแนน 8 เต็ม 10 ครับ
Elysium รีวิวเล็กๆ ครับ
จากประสบการณ์ที่ได้ดูหนังไซไฟ อวกาศ เท่าที่ผ่านตามานั้น ถึงแม้จะมี production อลังการแค่ไหน แต่ไม่เคยมีเรื่องไหนเลยที่ให้ความรู้สึก "จริง" นี่หมายรวมถึงพวก action sci-fi ชื่อดังอย่าง avatar และ prematius ด้วยน่ะครับ สาเหตุหลักๆคือมันดูเฟค ในแง่ของสภาพสังคม สภาพแวดล้อมที่ดูหลอก แต่ก็มาโดนใจกับหนัง district 9 ที่ทำให้คิดว่า นี่หละ ภาพอนาคตของจริงยิ่งถ้าดูจากสถานการณ์ปัจจุบันที่เราเผาผลาญทรัพยากรกันอย่างเมามัน ปล่อยมลพิษกันอย่างไม่บันยะบันยัง รวมไปถึงความขัดแย้ง และความแตกต่างทางชนชั้น และปัญหาทางเศรษฐกิจที่ประสบกันอยู่ปัจจุบันนี้ ผมว่าหนังเรื่องนี้ได้ฉายภาพอนาคตได้ใกล้เคียงของจริงตามความรู้สึกผมมากที่สุด ในส่วนของดราม่าทางชนชั้นที่หนังเอามาเล่า โดยให้ชนชั้นสองเป็นมนุษย์ต่างดาวนั้น เล่นเอาหงายเงิบไปเลย ถึงมันจะสุดโต่งแต่มันก็เป็นไปได้จริงๆ ตอนนั้นสิ่งที่ชอบอันดับแรกก็คือ การออกแบบงานสร้างและพล็อตดราม่าที่ประทับใจครับ
สำหรับ elysium นั้น หนังมีประเด็นดราม่าน้อยกว่า(ยังเน้นการแบ่งชนชั้นเหมือนเดิม) แต่จะเน้นหนักไปทางแอกชั่นซะมาก ซึ่งเห็นหลายคนบอกว่าอ่อน ไม่ค่อยมีอะไร แต่ผมกลับชอบน่ะ เนื้อเรื่องมันชัดเจนดี คนข้างล่างอยากขึ้นไปข้างบนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า เป็นธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว ส่วนตัวละครที่ชอบที่สุดก็คือ โจดี้ ฟอสเตอร์ครับ ที่เป็นนายพลผู้ดูแลความสงบเรียบร้อยของ Elysium ที่ถึงแม้เธอจะดูเหี้ยมโหด แต่ก็มีความเด็ดขาด ยึดมั่นในหลักการ ในขณะที่ประธานธิบดีก็เก่งแต่เรื่องสร้างภาพและเล่นการเมือง แอบเห็นด้วยที่เธอคิดจะโค่นล้มอำนาจเพื่อเป็นขึ้นเป็นผู้นำแทน ส่วนที่ประทับใจที่สุดก็ต้องยกให้เป็นงานด้านภาพที่ทำใด้ดีกว่าหนังเรื่องก่อนมาก คงเพราะทุนสร้างที่เยอะกว่าด้วย แต่มันก็ไม่ได้ดูโอเวอร์เกินจริง ถ้าจะให้เปรียบ elysium ก็คงเหมือน เมืองคนรวยอย่าง ไมอามี่ แต่แค่อยู่บนอวกาศเท่านั้น ตอนที่เห็น elysium ครั้งแรก ส่วนตัวผมก็แอบร้องอู้อ้าในใจเลยครับ คือมันสวยและไฮโซมาก สังคมบนนั้น นอกจากงานออกแบบสร้างที่ยอดเยี่ยมแล้ว ผมยังชอบเทคนิคการถ่ายภาพที่มันดูแปลกตา รวมทั้งการเลือกใช้ดนตรีประกอบที่ออกแนว ผ่าง ผ่าง มันทำให้แต่ละฉากดูยิ่งใหญ่ อลังการแบบพอดีๆ ผมว่าแค่ไปดูงานสร้างก็คุ้มแล้วล่ะ ฉากแอ้กชั่นก็เยอะมาก อาจจะโหดไปหน่อยสำหรับคนกลัวเลือดน่ะครับ
โดยสรุป โดยรวมแล้ว ผมให้คะแนน 8 เต็ม 10 ครับ