เมื่อมีพระภิกษุที่พ่ายแพ่แก่กิเลสตัณหา ต้องสิกขาลาเพศ เพราะผุ้หญิง มักจะมีผุ้ตามมาทับถม เย้ยหยัน
แต่สำหรับพระพุทธองค์ ท่านจะยกตัวอย่างว่า
อย่างแต่พระสาวกผู้มีบารมีสร้างมาน้อย ขนาดพระองค์ผู้บำเพ็ญเป็นพระพุทธเจ้าก็ยังเคยพ่ายมาแล้วในอดีต อย่างเช่น
เรื่องตักกชาดก
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ทรงปรารภภิกษุผู้กระสันอยากสึกเพราะหญิงรูปหนึ่ง ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในเมืองพาราณสี มีฤาษีอยู่ตนหนึ่งสร้างอาศรมอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา มีลูกสาวของเศรษฐีตระกูลหนึ่งชื่อทุษฐกุมารี เป็นหญิงดุร้าย หยาบช้า มักด่า มักทุบตีพวกทาสคนรับใช้เสมอ
วันหนึ่ง ลูกสาวของเศรษฐีและบริวารพากันไปเล่นน้ำในแม่น้ำคงคาจนตะวันตกดิน ขณะนั้นได้มีลมฝนตั้งเค้าขึ้น ผู้คนพากันวิ่งหนีกลับบ้านหมด เหลือแต่ลูกสาวเศรษฐีและผู้รับใช้เท่านั้น พวกทาสรับใช้ด้วยความชิงชังในตัวลูกสาวเศรษฐีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงพากันปล่อยให้นางอยู่คนเดียวหนีกลับไปบ้านหมด พอถึงบ้าน เศรษฐีถามหาลูกสาว ก็ตอบว่า
" นางมาก่อนพวกตนแล้ว ไม่รู้ว่านางไปไหน " พวกญาติๆ พากันออกติดตามค้นหาก็ไม่พบ
ฝ่ายลูกสาวเศรษฐีถูกลมฝนพัดลอยไปตามน้ำ ร้องไห้เสียงดังไปทางอาศรมของฤาษี ฤาษีได้ยินเสียงคนร้องไห้ จึงออกไปช่วยนางขึ้นมาจากน้ำ ให้ผิงไฟ หาผลไม้ให้กิน และถามถึงสาเหตุที่ตกน้ำ นางจึงเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง เนื่องจากมีอาศรมอยู่หลังเดียว ฤาษีจึงให้นางพักในอาศรม ส่วนตนเองออกไปอยู่กลางแจ้ง
เวลาผ่านไปสองสามวัน ฤาษีจึงบอกให้นางกลับบ้าน ฝ่ายลูกสาวเศรษฐีกลับคิดจะทำลายศีลของฤาษี และพากลับไปบ้านด้วยจึงไม่ยอมกลับบ้าน ตั้งแต่วันนั้นมานางจึงแสดงมายาหญิงยั่วยวนจนฤาษีเสียศีลเสื่อมฌานในอีกสองวันต่อมา ดาบสได้ชวนเธออยู่ในป่า นางไม่ยอมจะไปอยู่ในหมู่บ้าน จึงชวนกันไปอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งทำการค้าขายเลี้ยงชีพ เพราะดาบสขายเปรียง(น้ำมันชนิดหนึ่ง)เลี้ยงชีพ ชาวบ้านจึงเรียกเขาว่า ตักกบัณฑิต
วันหนึ่ง มีโจรป่ากลุ่มหนึ่ง ลงจากเขามาปล้นหมู่บ้านได้จับเอาตัวลูกสาวเศรษฐีขึ้นเขาไปด้วย หัวหน้าโจรพอใจในตัวนางจึงแต่งนางเป็นภรรยา ฝ่ายตักกบัณฑิตด้วยความรักในภรรยาจึงคอยนางอยู่ที่บ้าน หวังว่าวันหนึ่งโจรจะปล่อยนางลงมา ส่วนลูกสาวเศรษฐีมีความสุขอยู่กับโจรกลัวว่าตักกบัณฑิตจะมานำนางกลับไปจึงวางแผนฆ่าเขา ด้วยการส่งคนไปบอกตักกบัณฑิตขึ้นมารับนางกลับบ้าน ในขณะที่พวกโจรไม่อยู่บ้าน พอตักกบัณฑิตมารับนางก็เหนี่ยวรั้งเอาไว้ให้ถึงกลางคืนแล้วค่อยหนีไปด้วยกัน จึงให้ตักกบัณฑิตขึ้นไปซ่อนตัวอยู่ในยุ้งข้าว
พอตกเย็นหัวหน้าโจรกลับมาถึงบ้านด้วยอาการเมา นางจึงบอกเขาว่า " พี่ ศัตรูของพี่ แอบซ่อนตัวอยู่ในยุ้งข้าวนี้เอง " หัวหน้าโจรจึงถือเอาดาบเดินไปที่ยุ้งข้าว ชกตักกบัณฑิตล้มลงเตะต่อยจนหนำใจ ส่วนตักกบัณฑิตขณะที่ถูกเตะถูกต่อยได้แต่พูดว่า
" ขี้โกรธ อกตัญญู ชอบส่อเสียดประทุษร้ายมิตร " อย่างเดียวเท่านั้น มิได้พูดอย่างอื่น
โจรจับเขามัดไว้แล้วกินข้าวเย็นเสร็จก็เข้านอน ตื่นเช้าขึ้นมาสร่างเมา ก็เริ่มเตะ ต่อยและโบยตักกบัณฑิตอีก เขาก็กล่าวเพียง ๔ คำนั้น โจรแปลกใจจึงถามว่า
" ท่านพูดอะไร ไม่เห็นพูดอย่างอื่น "
ตักกบัณฑิต จึงเล่าเรื่องราวต่างๆให้โจรฟัง โจรจึงคิดว่า
" นางคนนี้ชั่วรายนัก ชายคนนี้มีคุณธรรม นางยังคิดจะฆ่าเสีย ถึงตัวเรา วันหนึ่งนางก็ต้องฆ่า "
จึงตัดสินใจฆ่านาง ด้วยการเดินไปปลุกลูกสาวเศรษฐีให้มาจับมือตักกบัณฑิตไว้ ชักดาบออกทำทีว่าจะฟันตักกบัณฑิตกลับฟันนางตายคาที่ ส่วนโจรและตักกบัณฑิตตัดสินใจบวชเป็นฤาษีต่อไป
พระพุทธองค์ ได้ตรัสเล่าอดีตนิทานแล้ว จึงตรัสพระคาถาว่า
" ธรรมดาหญิงมีนิสัยมักโกรธ อกตัญญู มักพูดส่อเสียด ชอบทำลายมิตร
ภิกษุ เธอจงประพฤติพรหมจรรย์เถิด จักไม่เสื่อมจากสุข "
นายโจร กำเนิดเป็น พระอานนท์
ตักกบัณฑิต เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า
เรื่องที่ ๓ ในอิตถีวรรค หน้า ๑๓๐-๑๓๖ พระสูตรและอรรถกถาแปล ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่มที่ ๓ ภาคที่ ๒
จากเว็บ
http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt123.php
เมื่อมีผู้ทับถม เย้ยหยัน พระที่พ่ายแก่อิสสตรี พระพุทธองค์มักจะยกตัวอย่างว่า ในอดีตพระองค์ก็พ่ายมาแล้วเช่นกัน
แต่สำหรับพระพุทธองค์ ท่านจะยกตัวอย่างว่า
อย่างแต่พระสาวกผู้มีบารมีสร้างมาน้อย ขนาดพระองค์ผู้บำเพ็ญเป็นพระพุทธเจ้าก็ยังเคยพ่ายมาแล้วในอดีต อย่างเช่น
เรื่องตักกชาดก
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ทรงปรารภภิกษุผู้กระสันอยากสึกเพราะหญิงรูปหนึ่ง ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในเมืองพาราณสี มีฤาษีอยู่ตนหนึ่งสร้างอาศรมอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา มีลูกสาวของเศรษฐีตระกูลหนึ่งชื่อทุษฐกุมารี เป็นหญิงดุร้าย หยาบช้า มักด่า มักทุบตีพวกทาสคนรับใช้เสมอ
วันหนึ่ง ลูกสาวของเศรษฐีและบริวารพากันไปเล่นน้ำในแม่น้ำคงคาจนตะวันตกดิน ขณะนั้นได้มีลมฝนตั้งเค้าขึ้น ผู้คนพากันวิ่งหนีกลับบ้านหมด เหลือแต่ลูกสาวเศรษฐีและผู้รับใช้เท่านั้น พวกทาสรับใช้ด้วยความชิงชังในตัวลูกสาวเศรษฐีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงพากันปล่อยให้นางอยู่คนเดียวหนีกลับไปบ้านหมด พอถึงบ้าน เศรษฐีถามหาลูกสาว ก็ตอบว่า
" นางมาก่อนพวกตนแล้ว ไม่รู้ว่านางไปไหน " พวกญาติๆ พากันออกติดตามค้นหาก็ไม่พบ
ฝ่ายลูกสาวเศรษฐีถูกลมฝนพัดลอยไปตามน้ำ ร้องไห้เสียงดังไปทางอาศรมของฤาษี ฤาษีได้ยินเสียงคนร้องไห้ จึงออกไปช่วยนางขึ้นมาจากน้ำ ให้ผิงไฟ หาผลไม้ให้กิน และถามถึงสาเหตุที่ตกน้ำ นางจึงเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง เนื่องจากมีอาศรมอยู่หลังเดียว ฤาษีจึงให้นางพักในอาศรม ส่วนตนเองออกไปอยู่กลางแจ้ง
เวลาผ่านไปสองสามวัน ฤาษีจึงบอกให้นางกลับบ้าน ฝ่ายลูกสาวเศรษฐีกลับคิดจะทำลายศีลของฤาษี และพากลับไปบ้านด้วยจึงไม่ยอมกลับบ้าน ตั้งแต่วันนั้นมานางจึงแสดงมายาหญิงยั่วยวนจนฤาษีเสียศีลเสื่อมฌานในอีกสองวันต่อมา ดาบสได้ชวนเธออยู่ในป่า นางไม่ยอมจะไปอยู่ในหมู่บ้าน จึงชวนกันไปอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งทำการค้าขายเลี้ยงชีพ เพราะดาบสขายเปรียง(น้ำมันชนิดหนึ่ง)เลี้ยงชีพ ชาวบ้านจึงเรียกเขาว่า ตักกบัณฑิต
วันหนึ่ง มีโจรป่ากลุ่มหนึ่ง ลงจากเขามาปล้นหมู่บ้านได้จับเอาตัวลูกสาวเศรษฐีขึ้นเขาไปด้วย หัวหน้าโจรพอใจในตัวนางจึงแต่งนางเป็นภรรยา ฝ่ายตักกบัณฑิตด้วยความรักในภรรยาจึงคอยนางอยู่ที่บ้าน หวังว่าวันหนึ่งโจรจะปล่อยนางลงมา ส่วนลูกสาวเศรษฐีมีความสุขอยู่กับโจรกลัวว่าตักกบัณฑิตจะมานำนางกลับไปจึงวางแผนฆ่าเขา ด้วยการส่งคนไปบอกตักกบัณฑิตขึ้นมารับนางกลับบ้าน ในขณะที่พวกโจรไม่อยู่บ้าน พอตักกบัณฑิตมารับนางก็เหนี่ยวรั้งเอาไว้ให้ถึงกลางคืนแล้วค่อยหนีไปด้วยกัน จึงให้ตักกบัณฑิตขึ้นไปซ่อนตัวอยู่ในยุ้งข้าว
พอตกเย็นหัวหน้าโจรกลับมาถึงบ้านด้วยอาการเมา นางจึงบอกเขาว่า " พี่ ศัตรูของพี่ แอบซ่อนตัวอยู่ในยุ้งข้าวนี้เอง " หัวหน้าโจรจึงถือเอาดาบเดินไปที่ยุ้งข้าว ชกตักกบัณฑิตล้มลงเตะต่อยจนหนำใจ ส่วนตักกบัณฑิตขณะที่ถูกเตะถูกต่อยได้แต่พูดว่า
" ขี้โกรธ อกตัญญู ชอบส่อเสียดประทุษร้ายมิตร " อย่างเดียวเท่านั้น มิได้พูดอย่างอื่น
โจรจับเขามัดไว้แล้วกินข้าวเย็นเสร็จก็เข้านอน ตื่นเช้าขึ้นมาสร่างเมา ก็เริ่มเตะ ต่อยและโบยตักกบัณฑิตอีก เขาก็กล่าวเพียง ๔ คำนั้น โจรแปลกใจจึงถามว่า
" ท่านพูดอะไร ไม่เห็นพูดอย่างอื่น "
ตักกบัณฑิต จึงเล่าเรื่องราวต่างๆให้โจรฟัง โจรจึงคิดว่า
" นางคนนี้ชั่วรายนัก ชายคนนี้มีคุณธรรม นางยังคิดจะฆ่าเสีย ถึงตัวเรา วันหนึ่งนางก็ต้องฆ่า "
จึงตัดสินใจฆ่านาง ด้วยการเดินไปปลุกลูกสาวเศรษฐีให้มาจับมือตักกบัณฑิตไว้ ชักดาบออกทำทีว่าจะฟันตักกบัณฑิตกลับฟันนางตายคาที่ ส่วนโจรและตักกบัณฑิตตัดสินใจบวชเป็นฤาษีต่อไป
พระพุทธองค์ ได้ตรัสเล่าอดีตนิทานแล้ว จึงตรัสพระคาถาว่า
" ธรรมดาหญิงมีนิสัยมักโกรธ อกตัญญู มักพูดส่อเสียด ชอบทำลายมิตร
ภิกษุ เธอจงประพฤติพรหมจรรย์เถิด จักไม่เสื่อมจากสุข "
นายโจร กำเนิดเป็น พระอานนท์
ตักกบัณฑิต เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า
เรื่องที่ ๓ ในอิตถีวรรค หน้า ๑๓๐-๑๓๖ พระสูตรและอรรถกถาแปล ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่มที่ ๓ ภาคที่ ๒
จากเว็บ http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt123.php