ถามคุณ Fortuneteller เรื่องการสอนภาษาอังกฤษครับ

ผมเป็นติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษอยู่ครับ พร้อมกับการเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัย แต่ไม่ได้เรียนด้านครูนะครับ

ผมกำลังสอน Reading Skills ให้เด็กนักเรียนเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ปัญหามีอยู่ว่าในเด็กกลุ่มนั้น 2 คนมีคลังคำศัพท์ติดตัวพอสมควร เวลาอ่าน Passage หรือ ข่าวสั้นๆ จาก Bangkok Post ก็สามารถใช้ Reading Skill เข้ามาปะติดปะต่อให้พอเข้าใจ Passage ยากๆ และพัฒนาการอ่านได้ เช่น การเดาศัพท์จากบริบท การเดาโครงสร้างข่าว หรือลำดับความคิดของผู้เขียน

แต่มีเด็กอยู่คนหนึ่งที่เค้ารู้ศัพท์ค่อนข้างน้อย เมื่อสอน Reading Skill ไปก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าไร

ปัญหาที่พบคือ 1. เด็กรู้ศัพท์น้อย 2. อ่านไปแปลไปทีละคำ 3. เอาความหมายที่ท่องมาจาก Dic อังกฤษ-ไทยมาแปะในเรื่อง ทั้งๆ มันไม่ได้แปลตายตัวอย่างนั้น

จึงอยากถามว่า 1. จะมีวิธีพัฒนาคำศัพท์ให้กับเด็กคนนี้อย่างไร ที่จะช่วยให้เขาพร้อมมากที่สุดที่จะไปข้อสอบอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้

และจะมีวิธีสอนเด็กกลุ่มหนึ่งที่มีพื้นฐานศัพท์ต่างกันพอสมควรอย่างไร

คุณ Fortuneteller หรือผู้รู้ท่านอื่นๆ ช่วยไขข้อข้องใจทีครับ ขอบคุณทุกท่านครับ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
วิธีการสอนที่เราใช้นะ อยู่ใน คคห 1 กระทู้นี้
http://2g.ppantip.com/cafe/library/topic/K12077457/K12077457.html

^
นี่หมายถึงสอนนักเรียนที่ไม่อ่อนมากเกินไปให้อ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษหรืออ่าน articles ทั่วๆไปนะ

แต่ถ้านักเรียนรู้ศัพท์จำกัดมากๆถึงขั้นใช้ dictionaries อังกฤษ-อังกฤษยังไม่ได้  คุณควรเปลี่ยนกลยุทธ์การสอนใหม่ โดยการใช้สื่ออย่างอื่นแทน เช่น มันมีสื่อการสอนเป็น audio เป็นเสียงฝรั่งคนหนึ่งพูดคำศัพท์ตัวหนึ่ง แล้วฝรั่งอีกคนหนึ่งพูดประโยคที่สร้างขึ้นด้วยคำศัพท์ตัวนั้น เอา audio แบบนี้ให้นักเรียนฟังแล้วพูดตามเป็นประโยคสั้นๆก่อน  แล้วครูแต่งประโยคตัวอย่างสำหรับคำศัพท์แต่ละคำเพิ่มให้อีกหลายๆประโยค (โดยยังไม่ให้นักเรียนพยายามอ่าน passage ยาวๆ) จนนักเรียน expand vocab ไปได้ในระดับหนึ่ง  ซึ่งในช่วงนี้ก็ให้นักเรียนเอาการศัพท์ แต่ไม่ใช่เอาการแบบครูประถมสอนกันทั่วๆไป (ที่ท่องศัพท์กับความหมายเป็นคำๆโดดๆ) นะ แต่ให้เอาการโดยให้นักเรียนพูดประโยคพลิกแพลงหลายๆประโยคที่เค้าฟังจาก audio และที่ครูแต่งประโยคเพิ่มให้ พลิกแพลงกลับไปกลับมาหลายๆรอบ แล้วทดสอบว่าเค้าเข้าใจเรื่องที่เค้าพูดมาหรือเปล่า โดยครูอาจถามปัญหาที่เกี่ยวข้อง (ถามเป็นภาษาอังกฤษ)  และให้นักเรียนพยายามตอบเป็นภาษาอังกฤษประโยคง่ายๆ  ตอนเอาการนักเรียนให้สร้างบรรยากาศเหมือน "ชวนเด็กเล่นเกมทายปัญหา คือตอบปากเปล่า แล้วตอบเป็นการพิมพ์หรือเขียนลงไป"  หรือหาตัวอย่างประโยคที่ออกแนว dialogues ในชีวิตประจำวันให้เด็กหัดพูดหัดเขียนเล่นๆสนุกๆ

เมื่อนักเรียนรู้ศัพท์ง่ายๆมากพอแล้ว ก็สอนในระดับสูงกว่านั้นหน่อยคือเปลี่ยนเป็นใช้สื่อที่เป็น stories สั้นๆ ที่ illustrate ความหมายของศัพท์ตัวเดียวกัน แต่ใช้ใน contexts ที่ไม่เหมือนกัน (ในเนื้อเรื่องเดียวกันมันใช้ศัพท์ตัวเดียวกันซ้ำๆกันหลายที แต่ความหมายไม่เหมือนกัน)  ซึ่งสื่อการสอนแบบนี้จะทำเป็น series แบ่งระดับความยากง่ายไว้

หลักการสำคัญในการพัฒนาวิธีการสอนใหม่ๆ นั่นก็คือ ต้องหมั่น survey ตลาด textbooks และสื่อการสอนภาษาอังกฤษดีๆจากต่างประเทศ และหามันมาไว้ในครอบครองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้  เมื่อคุณหัดใช้สื่อพวกนี้จนชำนาญ และเห็นมันมามากแล้ว อีกหน่อยคุณจะเขียนบทเรียนได้เอง และพัฒนาหลักสูตรได้เอง

เราค้นคว้าเรื่องการสอนภาษาอังกฤษด้วยความสนใจโดยเป็นการส่วนตัว แต่เราแทบไม่ได้สอนใครเลย นานๆจะสอนที แต่เรากลายเป็นมี textbooks และสื่อการสอนภาษาอังกฤษดีๆจากต่างประเทศอยู่ในครอบครอง เผลอๆมากกว่าที่โรงเรียนสอนภาษาใหญ่ๆมีกันซะอีก

เมื่อ 2-3 เดือนนี้เราเกือบจะเริ่มลงมือสอนเป็น class จริงๆจังๆในบ้านตัวเองแล้ว แต่พอคิดว่าต้องไปซื้อ projector จอ โต๊ะเก้าอี้ และต้องทำการตลาดด้วย คงต้องจ้างรถปิ๊กอัพไปขนของที่ซื้อวุ่นวายพอสมควร เราก็เลยผลัดวันประกันพรุ่งนั่งๆนอนๆแล้วขี้เกียจขึ้นสมองแฮะ เลยจนป่านนี้ก็ยังไม่ได้เปิดสอนซักที  สงสัยเราจะต้องดูทิศทางลมซะก่อนว่าจะมีใครติดต่อมาเรียนกับเรามากน้อยแค่ไหน มั้ง ในขณะที่เราว่างมากๆเราก็ศึกษาตำรา Feng Shui ไปเรื่อยๆ เผื่อถ้าไม่มีนักเรียนจะสอนจริงๆเราก็จะได้เปลี่ยนอาชีพไปเป็นหมอดูได้จริงๆในที่สุด...555+++...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่