เคล็ดลับ สอบ SAT Critical Reading อย่างไรให้ได้ 800 เต็ม

สวัสดีค่ะ วันนี้จขกทมาแชร์ความรู้และประสบการณ์การสอบ SAT ของ College Board ค่า ใครที่อยากไปเรียนเมืองนอกหรือใครที่อยากต่ออินเตอร์ที่ไทยคงเคยได้ยินมาแล้ว หรืออาจจะเคยลองสอบมาแล้ว ก็จะรู้ว่ามันยาก 5555 ยากแบบโหดจริงๆ

Disclaimer นะคะ จขกทเคยเรียนอินเตอร์สมัยเด็กๆ เลยอาจมีพื้นฐานภาษาอังกฤษค่อนข้างดี แต่ขอเหอะ ไอ้ SAT เนี่ย ขนาดฝรั่งที่พูดภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็กยังได้ไม่ค่อยเท่าไหร่เลยนะคะ อย่างในอเมริกาคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 490 เอง ตอนแรกๆที่ทำจขกทได้ประมาณ 600 คาบเส้น ทำเท่าไหร่สักพักคะแนนไม่กระเดื้องไม่เคยเกิน 700 เลย แต่สุดท้ายก็ทำได้! เพราะฉะนั้นอย่าท้อนะคะ เพราะจขกทได้ลองทดสอบมาแล้ว ว่าการได้ SAT Reading เต็มเนี่ย ที่สำคัญคือต้อง

อึด ถึก ทน…

แหมสอบทีมันยาวนานมากกกก ขนาดว่าเขาให้เอาขนมเข้าไปกินค่ะ เพราะฉะนั้นทุกคนเอาเข้าไปนะคะ ขนมลูกอมอะไรเนี่ย ไปเพิ่มน้ำตาลในสมอง ช่วยได้มากจริงๆ อีกอย่างคือ อย่างีบหลับนะคะ! คือที่ไทยบางมหาวิทยาลัยเอาไม่เอาคะแนน writing ดังนั้นถึง writing part ปุ๊บ หัวคว่ำปั๊บ อย่างนี้นี่ไม่ดีนะคะ อย่าเลยยยย การงีบหลับแค่ 10-15 นาที เขาเรียกว่า junk sleep ค่ะ เป็นการหลอกสมองว่าเธอจะได้พักแล้วนะ กว่าสมองเราจะกลับมาตื่นตัวได้อีกก็อาจจะไม่ทันแล้ว และอีกอย่าง ถ้าหลับยาว ทำยังไงคะ 555 เขาไม่มาปลุกนะ

เพราะฉะนั้น หาอะไรทำเถอะค่ะ ทำพาร์ท writing ไปเล่นๆก็ได้ ไม่ต้องฝนคำตอบก็ได้ แต่อย่าหลับค่า


โอเคค่ะ มา technical aspects กัน

1. Vocabulary ศัพท์นรก
อยากบอกว่าการท่องศัพท์ไม่ได้ช่วยมากหรอกค่ะ นอกจากว่าอยากได้คะแนนเต็ม ถ้าเรารู้คำศัพท์พื้นฐาน (แบบอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษแล้วเข้าใจ) เอาเวลาไปฝึก reading comprehension เถอะค่ะ คุ้มกว่ามาก เพราะเรื่องของเรื่องคือ ภาษาอังกฤษมีศัพท์กี่ศัพท์กัน ท่องยังไงก็ท่องไม่หมด ท่องแล้วจะออกสอบหรือเปล่ายังไม่รู้เลย
ส่วนตัวแล้วจขกทท่องค่ะ เพราะตอนนั้นนั่งอ่านกับเพื่อนแล้วฮีกเหิม มันสนุกค่ะ

แต่วิธีท่องคือ จำเป็นประโยคค่ะ

เช่น ถ้าอยากจำคำว่า ruminate ซึ่งแปลว่า การพินิจพิจารณา ไตร่ตรอง ให้จำว่า
Cows ruminate. ทำไมเหรอ? เพราะวัวจะขย้อนสิ่งที่กินไปแล้วขึ้นมาเคี้ยวกินใหม่ไง เหมือนการที่เราจะเอาอะไรที่เรารู้แล้วขึ้นมาคิดเรื่อยๆ
อีกตัวอย่างก็เช่นคำว่า voracious ที่แปลว่า ตะกละ มากมาย ให้จำว่า
She has a voracious appetite. เพราะการ link คำว่า voracious กับ appetite (ความอยากอาหาร) จะช่วยให้เราจำคำว่าตะกละได้ไงคะ ถ้าจำโดดๆ เดี๋ยวก็ไปสับสนกับคำว่า vicious ที่แปลว่าชั่วร้าย หรือ veracity ที่แปลว่าความจริง ความซื่อสัตย์

2. Reading Comprehension อ่าน คิด วินาศ
Passage นึงนี่ยาวมาก ยาวจริงๆ ยาวอย่างเดียวไม่พอ อาจมีการให้ไป compare กับอีก passage นึงที่ยาวพอกันอีกค่ะ เพราะฉะนั้น อึด ถึก ทน
อย่างแรกนะคะ

อ่านคำถามก่อนอ่าน passage ค่ะ

ทำไมน่ะเหรอ เพราะการอ่านคำถามจะช่วยให้เราจับ focus ของบทความได้ค่ะ แล้วตอนทำก็ทำทีละคำถาม คำถามถาม paragraph ไหน ก็ค่อยไปอ่าน paragraph นั้น คนที่อ่อนภาษาอังกฤษจะได้ไม่เจอ passage ยาวๆทีเดียว ไม่งง จนมึน จนเอียน จนท้อค่ะ แต่! SAT มันส์กว่านั้น บางคำถามเขาจะให้ compare and contrast ทั้ง paraprah ค่ะ เพราะฉะนั้น

ขีดเส้นใต้ใจความสำคัญของ paragraph ไว้ค่ะ

เพราะงานเขียนใน SAT เขาจะต้องเขียนให้ได้มาตรฐาน คือทุก paragraph ต้องมี point สำคัญอยู่ ขีดเส้นใต้มันไว้แล้ว move on ค่ะ อย่าไปสนใจกับรายละเอียดมากนัก เพราะเราจำไม่ได้อยู่แล้ว พอเจอคำถามที่ถามค่อยย้อนกลับมาอ่านค่ะ เป็นการประหยัดเวลาที่ดี ทำให้เราไม่โดนรายละเอียดใน paragraph หลอกด้วย

นี่คือทริคหลักๆของการทำข้อสอบนะคะ ถ้าจขกทคิดอะไรได้เพิ่มจะมาแชร์เป็นความรู้ค่ะ
ที่แชร์เนี่ยเพราะมีเพื่อนๆที่รู้จักหลายคนมากๆมาบอกว่าช่วยบอกเคล็ดลับให้หน่อย จขกทก็บอกไปตามบนเนี้ยน่ะค่ะ แต่คิดว่าอาจมีน้องๆหลายคนสนใจเหมือนกัน
เคล็ดลับพวกนี้เอาไปใช้ได้กับข้อสอบภาษาอังกฤษหลายๆอย่างนะคะ พวก TOEFL IELTS เนี่ย อย่าง IELTS จขกทสอบมาแล้วก็ต้องขอบอกว่าไม่มีอะไรยากเท่า SAT Critical Reading อีกแล้วค่ะ

สู้ๆนะคะ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่