ไปซื้อเครื่องออกกำลังกาย แต่เจอเคสนี้ ขอความเห็นหน่อยครับ

กระทู้คำถาม
เมื่อวานพาแฟนไปเดินดูเครื่องออกกำลังที่ห้างดังแห่งหนึ่งกลาง siamsquare เซลล์ที่เข้ามาขายเป็นคนของบริษัทเจ้าของเครื่องเลย ไม่ใช่เซลล์แผนกกีฬา
จากป้ายราคาที่ติดไว้ โปรโมชั่น ณ บัดนาว 8x,xxx ลดเหลือ 69,990 โปรโมชั่นวันที่ 1-30 กันยายน ศกนี้
ไอ้เราพอได้ลอง ก็รู้สึกว่า เออ มันใช้ได้เลยนะเนี่ย แต่ราคามันแพงไปนี้ด บทสนทนาจึงเกิดขึ้น (แบบคร่าวๆนะครับ)

เรา "มีรุ่นถูกกว่านี้ไหมครับ งบไม่พอ"

เซลล์ "มีครับ แต่ว่าไม่ได้โชว์ (พร้อมกับมุดลงไปหยิบโบร์ชัวร์มาให้ผมดู)

เปิดดูปั๊บ มีมากมายหลายรุ่น ละลานตาไปหมด ตาเหลือบเห็นรูปของรุ่นที่พึ่งลองตะกี้เลยในโบร์ชัวร์ ราคาในโบร์ชัวร์ราคาเต็ม 69,990 (เป็นตัวพิมพ์เลยนะครับ แปลว่าราคา8x,xxx ที่ตั้งนี่ เอ่อ...) แต่ยิ่งกว่านั้น
มีรอยปากกามีขีดฆ่าราคา 69,990 แล้วเขียนด้วยลายมือหวัดๆ 48,990 เห็นแล้วงงสองเด้งเลย เงยหน้าถามเซลล์ทันที

เรา "อ้าว แล้วราคาที่เขียนด้วยลายมือไว้เนี่ย มันคือลดอีกเหรอครับ"

เซลล์ "ใช่ครับ คือถ้าผมขายในราคา 69,990 ได้ ผมได้ 5%, แต่ถ้าผมขาย 48,990 ผมได้ 2% ผมเลยบอกราคาแรกไว้ก่อน ส่วนราคา 48,990 จัดถึงวันที่ 20 นี้นะครับ สนใจรับ ไปเลยไหม"

เรา "......" (คิดในใจ แล้วถ้ากรูไม่ขอดูโบร์ชัวร์ แล้วหน้ามืดซื้อไปเลยนี่ เสียค่าหญ้า 20,000 เลยนะ...")

เลยชวนแฟนเดินออกมาเลย และก็มีเสียงลอยมาจากข้างหลัง "พี่ดูไปเลยไหม เด๋วผมแถมของให้ด้วยนะ" ไม่ต้องแล้วแหละ ไม่แม้แต่จะหันไปมอง

วันนี้ผมโทรไปถามบริษัทเค้าเลย ได้ความว่าเป็นนโยบายของเค้าครับ ตั้งให้ต่อครับ

คือถ้าเจอเคสแบบนี้ัเนี่ยมันเป็นเทคนิคการตลาดที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน ปรกติเวลาซื้อของถ้าเป็นร้านนอกห้างผมต่ออยู่แล้ว แต่ในห้างผมจะถามเสมอว่ามีส่วนลดอะไรอีกมั้ย ในเคสนี้ ผมว่าผมบอกเซลล์ไปแล้วนะ ว่างบไม่พอ ในความคิดของผม ถ้าเซลล์ที่ดี เค้าจะบอกโปรนี้ให้ลูกค้าทราบหรือเปล่า

ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่านครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่