"ผัดไทกุ้งถุง" อภิรมย์ สั่งอย่างกระแทกเสียง
"ใหนว่าไม่อร่อย ทำไมพี่ถึงสั่งผัดไท กระดังงาทุกวันเลย" อีกล้วยแม่ค้า ที่ชอบเรียกตัวเองว่ากระดังงา เจรจา
"แม่สั่งให้มาซื้อ เออไม่ต้องเผ็ดมากน่ะ แสบปาก"
สามเดือนแล้ว ที่ครอบครัวของ อภิรมย์ ย้ายมาอยู่แถวท่าพะเนียง
หลังจากที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ เมื่อสองปีก่อน
เพื่อนบ้านใหม่ถามเค้า น้ำท่วมหนักถึงขั้นต้องย้ายบ้านหนีเชียวหรือ
อภิรมย์ ก็จะตอบคนเหล่านั้นตามจริงว่า "ป่าว ข้าเหม็นหน้า ผู้ว่า"
ไม่มีใครรู้ว่าเค้าเหม็นหน้าผู้ว่าราชการจังหวัดจริงๆ หรือพูดให้คนหยุดถามต่อ
บางคนอาจจะยังไม่ทราบ อาชีพช่างตีทองคำเปลว เป็นอาชีพที่หนักหนาสาหัสมากเท่าไหร่
อยู่หน้าเตาหลอม ใช้ฆ้อนหนักๆ ตีทองคำ เป็นบาทๆ จน กลายเป็นแผ่นบาง ที่เกือบจะต้องวัดเป็นไมครอน
เค้าเลยอาจจะเป็นคน ฉุนเฉียวไปบ้าง คนละแวกบ้านอภิรมย์นั้น ทั้งเกรงกลัวและรำคาญเสียงตีทอง
อย่างที่รู้ไม่มีใครกล้ามาว่า อภิรมย์ แน่นอน ถึงเค้าจะ ฉุนเฉียวไปบ้างแต่ไม่เคยคิดร้ายหรือ ทำความลำบากคนอื่น
ตอนเช้าเค้าจะกินข้าวต้มกับครอบครัว ตอนบ่ายก็จะซื้อผัดไท มากินกัน
อภิรมย์ เดินผ่านร้าน ก๋วยเตี๋ยวแม่เตือนที่ไร เด็กเสริฟ์ มักจะนินทาเค้าเรื่องอายุเสมอ
"แกว่าไอ รมย์ มันอายุเท่าไหร่ว่ะ"
"ชั้นว่าน่ะจะ 37น่ะเจ้ หน้า
ไม่ยิ้มเลย เห็นว่าปากก็แกร่งด้วย"
"เจ้ว่า ดูๆไป ก็น่ากินน่ะ" เจ้ยุง กลัด
"อี๋เจ้ สกปรกหว่ะ"
"อีห่าน แกหน่ะพวกโลกสวย"
อภิรมย์ ได้ยินสม่ำเสมอ แต่ไม่เคยสนใจ
อภิรมย์ ผู้ไม่เคยอ่อนแอ ให้สิ่งใด
เค้าทำงานทุกวี่ทุกวัน ทำเหมือนว่าจะเก็บเงินเพื่อ ไปขอซื้อจังหวัดกรุงเทพคืน จากผู้ว่าคนนั้น
"พักผ่อนบ้างน่ะลูก" พ่อเตือน
"ครับ"
กลางคืน กลางคืนเท่ากับความสุขของ อภิรมย์
เค้าจะนั่งดูละคร และรอฟังเรื่องผีของพี่ป๋องพร้อมนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
อยากจะมีรถซักคัน พ่อจะได้ไม่ต้องถือทองขึ้นรถเมลล์
ปืนก็ไม่มี พกแค่มีดคว้านไว้ป้องกันตัว โจรรู้คงไม่อยากจะปล้น
อยากจะมีทีวีจอใหญ่ๆ น้องจะได้เอาไว้หาข้อมูลเพื่อการเรียน (ไม่แน่ใจว่าเค้าเอาน้องมาอ้างแทนละครหลังข่าวหรือไม่)
พอ พอ พอ นอนเถอะไอรมย์ ขี้เกียดคิด
รุ่งเช้ามาถึง เหมือนนอนยังไม่เต็มอิ่ม ลุกขึ้นมาเตรียมข้าวต้ม ให้ทุกๆคน
ไฟในเตาที่ถูกเป่าลมเข้าไปเพื่อเผาทอง ทำให้ขาเค้าเกิดเป็นรอยไหม้ ไปตลอดชีวิต
"กล้วย"
"เอาอะไรค่ะพี่ รมย์ วันนี้ กระดังงาจะทำให้พิเศษเลย" อีกล้วยตรัส
"ขายอย่างอื่นด้วยเหรอ" ลุงชุ่ย แซว
"ผัดไทกุ้งถุง ไม่เอาเผ็ดน่ะ"
อีกล้วย ผู้ร่าเริง
กล้วยทำงานมาทุกๆอย่าง ยกเว้นขายร่างกาย
เธอเป็นคนร่าเริง ผิวสีแทนออกจะน้ำผึ้งมากกว่า ผมหยิก มักชอบทาปากสีแดง
เป็นขวัญใจของวินมอไซและช่างประปารวมถึง บุรุษไปรษณีย์วันพุธ
ปัจจุบัน กล้วยขายผัดไท อยู่กลางซอยถัดจากร้านยายเตือนไปซองคูหา
หากเปรียบความอร่อยเป็น ความรัก อีกล้วยคงอกหัก ตลอดชาตินี้และชาติหน้าด้วย
แต่ก็มีผู้คนมาซื้อมันกินอยู่ไม่ขาด คงไม่ต้องเอ่ย ว่าเป็นคนประเภทใหน
ในความคราวนี้ อีกล้วย ผู้ที่ดูเริงร่าเพียงแค่ สิ่งเคลือบ ในใจมันนั้น แสนจะบริสุทธิ
ใช่ อีกล้วย หลงรัก พี่รมย์
โดยตัวรมย์เองไม่รู้เลยว่า ในแต่ละบ่ายนั้น ทำให้ใคร ปลื้มใจและเสียใจไปพร้อมกัน คือ อีกระดังงากล้วย นั้นเอง
"อีกล้วย ชอบ อีรมย์ จริงๆเหรอว่ะ วันๆ
ตีแต่ทอง ไม่รู้หม้อเม่อเคยตีบ้างใหม" เจ้ยุง สมอง
ไม่มีไรนอกจากเรื่องอย่างว่า
"เจ้ยุง ถ้าไม่ได้ทะลึ่ง เจ้จะ-ข้าวไม่ได้หรือไง" กล้วยเอาคืนเบาๆ
กล้วยอยากรู้ คนอย่างเค้าจะรักใครไม่ได้เลยหรือ ตัวเองก็เป็นคนเอางานเอาการ เป็นแม่บ้านที่ดี
"อะพี่ รมย์ วันนี้พิเศษกุ้งให้เลยน่ะ อย่าบอกใครล่ะ"
"ขอบใจมาก"
ใครจะไปรู้ใจรมย์ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค้ารักเป็นใหม
"ลูกเอ๊ย ช่วงนี้เหนื่อยหน่อยน่ะ ออกพรรษา ลูกค้าเค้าสั่งเยอะเป็นพิเศษเลย" พ่อให้กำลังใจอย่างไม่อ้อม
"ครับ ได้ครับพ่อ" ทำไมต้องใช้ทองคำเปลวกันเยอะขนาดนี้ว่ะ ทองคำเปลวของปลอมก็เยอะแยะ นิ่ขายแผ่นตั้งเจ็ดบาท ยังจะสั่งเยอะอีก
อภิรมย์ คิดได้แค่วุบแล้วล้มเลิกไปเพราะกลัวบาป
พ่อมองลูกชายตัวเองอย่างรู้สึกห่วง อยากให้มันมีคู่ชีวิตบ้างมีลูกมีครอบครัวของตัวเอง
เผื่อชีวิตมันจะดีกว่านี้ ดีกว่าที่พ่อมันเป็น
เสียงตีทองยังดังอยู่ทุกวันๆ เวลา ไม่รอใครอยู่แล้ว พร่ำเดินอย่างต่อเนื่อง
ร่างกายบางช่วงก็ร้องบอก "พักบ้างเถอะ รมย์ ตีทอง จนกล้ามแขนปูดจะชนเพดานอยู่แล้ว"
ป่วยจนได้ หลังของอภิรมย์ เหมือนมี ฆ้อนพาดขวางอยู่บนหลัง
"นิ่ยาคลายกล้ามเนื้อน่ะคะ ส่วนนิ่ยาลดปวด กินหลังอาหารทันทีน่ะคะ ยามันแรง" พยาบาลสาว กล่าวสรรพคุณ
"ไม่มีแก้เหงาหรือครับ"
"อะไรน่ะค่ะ"
"อ่อ ผมถามว่าไม่มียาแก้เหงาบ้างหรอครับ" อภิรมย์ รมณ์ใหน (หวานเป็นด้วยนะ ไอรมย์)
"อ๋อ มีแต่ จุดสองสอง แก้ไข้ จะรับไปใหมคะ" พยาบาลยวนกลับ
"ไม่เป็นไรครับ พรุ่งนี้ไม่ว่างตาย" อภิรมย์ เตะท้ิงก่อนจาก
เฮ้ยเค้าทำงานหนักๆอย่างงี้เพื่อ ตายคนเดียวหรือวะ
พ่อเค้าอีก พ่อเค้าต้องการให้เค้าเป็นอย่างงี้จริงๆเหรอเนี่ย
"เก่งเข้าไปครับ เอาเครื่องสีดำเข้าไปด้วย" พี่ป๋อง
ใจร้ายหว่ะ อภิรมย์สบถ โดยที่หูฟัง สมองคิดเรื่องเก่า
ตีสามจะครึ่งแล้ว วันนี้เค้านอนไม่หลับ คิดแต่เรื่องอนาคตของเค้า แปดโมง เวลาเตรียมข้าวต้ม
ตึก ตึก ตึก เสียงตีทอง ดังก้องในหัว
เหมือนทุกๆวัน เค้าได้แต่คิดเรื่อง อนาคตที่อยากจะทำ เค้าได้แต่คิดจริงๆ
"ผัดไท สองถุง ไม่เอาเผ็ดน่ะแสบปาก" เหมือนเดิมเล้ยอภิรมย์
"ทำไมวันนี้เอาสองถุงล่ะ พี่กินด้วยใช่มั้ยหล่ะจ๊ะ" กระดังงาแอบยิ้มแบบแสดงออก
"ป่าว มีแขกมาบ้านหน่ะ แม่ไม่รู้จะทำไงถึงจะไล่มันไปได้ ข้าเลยซื้อผัดไทแกให้มัน ข้าว่ามันไม่กล้ากลับมาแน่"
ใจร้าย ใจร้าย ไอรมย์ ใจร้าย
ประโยคนี้ทำ อีกระดังงา น้ำตาซึม
"เจ้ ชั้นว่าชั้นจะไม่ชอบพี่รมย์แล้วหว่ะ
เอาผัดไทชั้นไปให้แม่ทุกวันเลย มันไม่คิดจะซื้อไปกินเองบ้างหรือไง
ไม่ก็อย่างน้อย บอกชั้นหน่อยก็ได้ว่าแม่ชมว่าอร่อย ชั้นหละหมดพลังจะชอบมันแล้ว"
"แกพูดถึงแม่ใครน่ะ" อียุงถาม เอ้ย เจ้ยุงถาม
"ก็แม่พี่รมย์ไง ให้มาซื้อผัดไทชั้นทุกวันเลย"
"เห้ย อีกล้วย อีรมย์ มันไม่มีแม่"
คุณกระดังงา น้ำตาหยุดไหล
อาจจะเพราะรู้ว่าผัดไทตนเองหมาไม่-และพี่อภิรมย์ไม่ได้ซื้อให้แม่
อภิรมย์มีสีฟาดที่แก้ม
กล้วยกระดังงา
"ใหนว่าไม่อร่อย ทำไมพี่ถึงสั่งผัดไท กระดังงาทุกวันเลย" อีกล้วยแม่ค้า ที่ชอบเรียกตัวเองว่ากระดังงา เจรจา
"แม่สั่งให้มาซื้อ เออไม่ต้องเผ็ดมากน่ะ แสบปาก"
สามเดือนแล้ว ที่ครอบครัวของ อภิรมย์ ย้ายมาอยู่แถวท่าพะเนียง
หลังจากที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ เมื่อสองปีก่อน
เพื่อนบ้านใหม่ถามเค้า น้ำท่วมหนักถึงขั้นต้องย้ายบ้านหนีเชียวหรือ
อภิรมย์ ก็จะตอบคนเหล่านั้นตามจริงว่า "ป่าว ข้าเหม็นหน้า ผู้ว่า"
ไม่มีใครรู้ว่าเค้าเหม็นหน้าผู้ว่าราชการจังหวัดจริงๆ หรือพูดให้คนหยุดถามต่อ
บางคนอาจจะยังไม่ทราบ อาชีพช่างตีทองคำเปลว เป็นอาชีพที่หนักหนาสาหัสมากเท่าไหร่
อยู่หน้าเตาหลอม ใช้ฆ้อนหนักๆ ตีทองคำ เป็นบาทๆ จน กลายเป็นแผ่นบาง ที่เกือบจะต้องวัดเป็นไมครอน
เค้าเลยอาจจะเป็นคน ฉุนเฉียวไปบ้าง คนละแวกบ้านอภิรมย์นั้น ทั้งเกรงกลัวและรำคาญเสียงตีทอง
อย่างที่รู้ไม่มีใครกล้ามาว่า อภิรมย์ แน่นอน ถึงเค้าจะ ฉุนเฉียวไปบ้างแต่ไม่เคยคิดร้ายหรือ ทำความลำบากคนอื่น
ตอนเช้าเค้าจะกินข้าวต้มกับครอบครัว ตอนบ่ายก็จะซื้อผัดไท มากินกัน
อภิรมย์ เดินผ่านร้าน ก๋วยเตี๋ยวแม่เตือนที่ไร เด็กเสริฟ์ มักจะนินทาเค้าเรื่องอายุเสมอ
"แกว่าไอ รมย์ มันอายุเท่าไหร่ว่ะ"
"ชั้นว่าน่ะจะ 37น่ะเจ้ หน้าไม่ยิ้มเลย เห็นว่าปากก็แกร่งด้วย"
"เจ้ว่า ดูๆไป ก็น่ากินน่ะ" เจ้ยุง กลัด
"อี๋เจ้ สกปรกหว่ะ"
"อีห่าน แกหน่ะพวกโลกสวย"
อภิรมย์ ได้ยินสม่ำเสมอ แต่ไม่เคยสนใจ
อภิรมย์ ผู้ไม่เคยอ่อนแอ ให้สิ่งใด
เค้าทำงานทุกวี่ทุกวัน ทำเหมือนว่าจะเก็บเงินเพื่อ ไปขอซื้อจังหวัดกรุงเทพคืน จากผู้ว่าคนนั้น
"พักผ่อนบ้างน่ะลูก" พ่อเตือน
"ครับ"
กลางคืน กลางคืนเท่ากับความสุขของ อภิรมย์
เค้าจะนั่งดูละคร และรอฟังเรื่องผีของพี่ป๋องพร้อมนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
อยากจะมีรถซักคัน พ่อจะได้ไม่ต้องถือทองขึ้นรถเมลล์
ปืนก็ไม่มี พกแค่มีดคว้านไว้ป้องกันตัว โจรรู้คงไม่อยากจะปล้น
อยากจะมีทีวีจอใหญ่ๆ น้องจะได้เอาไว้หาข้อมูลเพื่อการเรียน (ไม่แน่ใจว่าเค้าเอาน้องมาอ้างแทนละครหลังข่าวหรือไม่)
พอ พอ พอ นอนเถอะไอรมย์ ขี้เกียดคิด
รุ่งเช้ามาถึง เหมือนนอนยังไม่เต็มอิ่ม ลุกขึ้นมาเตรียมข้าวต้ม ให้ทุกๆคน
ไฟในเตาที่ถูกเป่าลมเข้าไปเพื่อเผาทอง ทำให้ขาเค้าเกิดเป็นรอยไหม้ ไปตลอดชีวิต
"กล้วย"
"เอาอะไรค่ะพี่ รมย์ วันนี้ กระดังงาจะทำให้พิเศษเลย" อีกล้วยตรัส
"ขายอย่างอื่นด้วยเหรอ" ลุงชุ่ย แซว
"ผัดไทกุ้งถุง ไม่เอาเผ็ดน่ะ"
อีกล้วย ผู้ร่าเริง
กล้วยทำงานมาทุกๆอย่าง ยกเว้นขายร่างกาย
เธอเป็นคนร่าเริง ผิวสีแทนออกจะน้ำผึ้งมากกว่า ผมหยิก มักชอบทาปากสีแดง
เป็นขวัญใจของวินมอไซและช่างประปารวมถึง บุรุษไปรษณีย์วันพุธ
ปัจจุบัน กล้วยขายผัดไท อยู่กลางซอยถัดจากร้านยายเตือนไปซองคูหา
หากเปรียบความอร่อยเป็น ความรัก อีกล้วยคงอกหัก ตลอดชาตินี้และชาติหน้าด้วย
แต่ก็มีผู้คนมาซื้อมันกินอยู่ไม่ขาด คงไม่ต้องเอ่ย ว่าเป็นคนประเภทใหน
ในความคราวนี้ อีกล้วย ผู้ที่ดูเริงร่าเพียงแค่ สิ่งเคลือบ ในใจมันนั้น แสนจะบริสุทธิ
ใช่ อีกล้วย หลงรัก พี่รมย์
โดยตัวรมย์เองไม่รู้เลยว่า ในแต่ละบ่ายนั้น ทำให้ใคร ปลื้มใจและเสียใจไปพร้อมกัน คือ อีกระดังงากล้วย นั้นเอง
"อีกล้วย ชอบ อีรมย์ จริงๆเหรอว่ะ วันๆตีแต่ทอง ไม่รู้หม้อเม่อเคยตีบ้างใหม" เจ้ยุง สมองไม่มีไรนอกจากเรื่องอย่างว่า
"เจ้ยุง ถ้าไม่ได้ทะลึ่ง เจ้จะ-ข้าวไม่ได้หรือไง" กล้วยเอาคืนเบาๆ
กล้วยอยากรู้ คนอย่างเค้าจะรักใครไม่ได้เลยหรือ ตัวเองก็เป็นคนเอางานเอาการ เป็นแม่บ้านที่ดี
"อะพี่ รมย์ วันนี้พิเศษกุ้งให้เลยน่ะ อย่าบอกใครล่ะ"
"ขอบใจมาก"
ใครจะไปรู้ใจรมย์ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค้ารักเป็นใหม
"ลูกเอ๊ย ช่วงนี้เหนื่อยหน่อยน่ะ ออกพรรษา ลูกค้าเค้าสั่งเยอะเป็นพิเศษเลย" พ่อให้กำลังใจอย่างไม่อ้อม
"ครับ ได้ครับพ่อ" ทำไมต้องใช้ทองคำเปลวกันเยอะขนาดนี้ว่ะ ทองคำเปลวของปลอมก็เยอะแยะ นิ่ขายแผ่นตั้งเจ็ดบาท ยังจะสั่งเยอะอีก
อภิรมย์ คิดได้แค่วุบแล้วล้มเลิกไปเพราะกลัวบาป
พ่อมองลูกชายตัวเองอย่างรู้สึกห่วง อยากให้มันมีคู่ชีวิตบ้างมีลูกมีครอบครัวของตัวเอง
เผื่อชีวิตมันจะดีกว่านี้ ดีกว่าที่พ่อมันเป็น
เสียงตีทองยังดังอยู่ทุกวันๆ เวลา ไม่รอใครอยู่แล้ว พร่ำเดินอย่างต่อเนื่อง
ร่างกายบางช่วงก็ร้องบอก "พักบ้างเถอะ รมย์ ตีทอง จนกล้ามแขนปูดจะชนเพดานอยู่แล้ว"
ป่วยจนได้ หลังของอภิรมย์ เหมือนมี ฆ้อนพาดขวางอยู่บนหลัง
"นิ่ยาคลายกล้ามเนื้อน่ะคะ ส่วนนิ่ยาลดปวด กินหลังอาหารทันทีน่ะคะ ยามันแรง" พยาบาลสาว กล่าวสรรพคุณ
"ไม่มีแก้เหงาหรือครับ"
"อะไรน่ะค่ะ"
"อ่อ ผมถามว่าไม่มียาแก้เหงาบ้างหรอครับ" อภิรมย์ รมณ์ใหน (หวานเป็นด้วยนะ ไอรมย์)
"อ๋อ มีแต่ จุดสองสอง แก้ไข้ จะรับไปใหมคะ" พยาบาลยวนกลับ
"ไม่เป็นไรครับ พรุ่งนี้ไม่ว่างตาย" อภิรมย์ เตะท้ิงก่อนจาก
เฮ้ยเค้าทำงานหนักๆอย่างงี้เพื่อ ตายคนเดียวหรือวะ
พ่อเค้าอีก พ่อเค้าต้องการให้เค้าเป็นอย่างงี้จริงๆเหรอเนี่ย
"เก่งเข้าไปครับ เอาเครื่องสีดำเข้าไปด้วย" พี่ป๋องใจร้ายหว่ะ อภิรมย์สบถ โดยที่หูฟัง สมองคิดเรื่องเก่า
ตีสามจะครึ่งแล้ว วันนี้เค้านอนไม่หลับ คิดแต่เรื่องอนาคตของเค้า แปดโมง เวลาเตรียมข้าวต้ม
ตึก ตึก ตึก เสียงตีทอง ดังก้องในหัว
เหมือนทุกๆวัน เค้าได้แต่คิดเรื่อง อนาคตที่อยากจะทำ เค้าได้แต่คิดจริงๆ
"ผัดไท สองถุง ไม่เอาเผ็ดน่ะแสบปาก" เหมือนเดิมเล้ยอภิรมย์
"ทำไมวันนี้เอาสองถุงล่ะ พี่กินด้วยใช่มั้ยหล่ะจ๊ะ" กระดังงาแอบยิ้มแบบแสดงออก
"ป่าว มีแขกมาบ้านหน่ะ แม่ไม่รู้จะทำไงถึงจะไล่มันไปได้ ข้าเลยซื้อผัดไทแกให้มัน ข้าว่ามันไม่กล้ากลับมาแน่"
ใจร้าย ใจร้าย ไอรมย์ ใจร้าย
ประโยคนี้ทำ อีกระดังงา น้ำตาซึม
"เจ้ ชั้นว่าชั้นจะไม่ชอบพี่รมย์แล้วหว่ะ เอาผัดไทชั้นไปให้แม่ทุกวันเลย มันไม่คิดจะซื้อไปกินเองบ้างหรือไง
ไม่ก็อย่างน้อย บอกชั้นหน่อยก็ได้ว่าแม่ชมว่าอร่อย ชั้นหละหมดพลังจะชอบมันแล้ว"
"แกพูดถึงแม่ใครน่ะ" อียุงถาม เอ้ย เจ้ยุงถาม
"ก็แม่พี่รมย์ไง ให้มาซื้อผัดไทชั้นทุกวันเลย"
"เห้ย อีกล้วย อีรมย์ มันไม่มีแม่"
คุณกระดังงา น้ำตาหยุดไหล
อาจจะเพราะรู้ว่าผัดไทตนเองหมาไม่-และพี่อภิรมย์ไม่ได้ซื้อให้แม่
อภิรมย์มีสีฟาดที่แก้ม