ขอเกริ่นก่อนเลยนะครับ ผมเป็นหนึ่งคนที่เคยขับรถยนต์แต่เนื่องจากปัญหารถติดและความชอบส่วนตัวเลยผันตัวเองมาขับ bigbike 650 cc และตั้งแต่ผมขับ bigbike มา 1 เดือนเต็มเจอด่านตำรวจมาประมาณ 20 ครั้ง ผมไม่เคยโดนจับเลยสักครั้งครับ เพราะอะไรหรอครับ ? ผมถึงไม่เคยโดนตำรวจจับเลยสักครั้ง เพราะผมไม่ทำผิดกฏหมาย( ที่มี ณ ตอนนี้ ) ไงครับ ผมขับชิดซ้าย ไม่แต่งท่อเสียงดัง สวมหมวกกันน็อค รถมีป้ายทะเบียน และถึงแม้ว่าตำรวจจะจับผม ผมก็พร้อมที่จะแก้ต่างให้ตัวเอง ซึ่งผมเชื่อว่าผมศึกษากฏหมายมาดีพอ และปฏิบัติอย่างถูกต้องเคร่งครัด
       เนื่องจากผมได้อ่านหลายๆกระทู้ที่เข้ามาบ่นกันถึงกฏหมายและสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับการขับมอเตอร์ไซด์ ตำรวจที่มาตั้งด่านจับ ความเคารพกฏหมาย ความคิดเห็นต่าง ที่ต่างๆกัน มันจึงเป็นที่มาให้ผมมาตั้งกระทู้นี้และมีหลายประเด็นที่ผมอยากจะพูด    มาเริ่มกันด้วยประเด็นที่ 1 เลยครับ

ประเด็นที่ 1  "ที่โดนจับเพราะคุณทำผิดกฏหมายหรือเพราะตำรวจมาหากิน"
      จากข้อความที่ผมได้กล่าวมาแล้วข้างต้นครับว่าผมไม่เคยโดนจับเลย เพราะผมไม่เคยทำผิดกฏหมาย สิ่งนี้จึงทำให้ประเด็นนี้สำคัญขึ้นมาซึ่งจะมาแย้งกับคำที่ว่าตำรวจมาหากิน ถ้าตำรวจมาหากินจริง แต่คุณไม่ทำผิดกฏหมายละ เขาจะเอาอะไรมาจับ ปรับ คุณได้ครับ ซึ่งถ้ามองในแง่นี้ หลายๆท่านเท่าที่ผมเคยเห็นก็จะตอบว่า " เด่วมันก็หาอะไรทำให้ผิดจนได้ เช่น ขับรถเร็วไป ขับไม่ชิดซ้าย เสียงรถดังเกินไป " เป็นต้น  พูดกันต่อได้เลยว่าแล้วที่คุณตำรวจกล่าวมานั้นจริงไหม ? ถ้าจริงแล้วยังผิดในกฏหมาย คุณก็สมควรโดนจับ ปรับไม่ใช่หรือ?

ประเด็นที่ 2 "หน้าที่ของตำรวจกับผู้รักษากฏหมาย"
           แน่นอนครับตำรวจหน้าที่ของเขาคือรักษากฏหมายเฉกเช่นเดียวกับประชาชน หรือประชาชนผู้ขับขี่มอเตอร์ไซด์ ที่ต้องปฏิบัติตามกฏหมาย เมื่อตำรวจเห็นผู้ที่ไม่ปฏิบัติหรือละเมิดกฏหมายก็ต้องจับ ปรับ เป็นธรรมดาเบสิกที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งถ้าตำรวจไม่ทำตามหน้าที่แล้วจะมีตำรวจไว้ทำไมละ ผู้คนคงไม่กลัวและละเมิดกฏหมายสังคมคงวุ่นวายกันน่าดูนะครับ  ( ในประเด็นนี้ผมอยากจะชี้แจงว่าเป็นคนละเรื่องกับการให้ส่วย หรือลักไก่ในการจ่ายค่าปรับหรือใบสั่งนะครับ )
ประเด็นที่ 2.1 "มุมมองที่ผู้คนในปัจจุบันมองตำรวจ "
          ประเด็นนี้สำคัญมากเลยนะครับซึ่งความรู้สึกส่วนตัวของผมเองรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก( ขอระบายหน่อยนะครับ) เวลาผมนั่งรถไปกับ พี่ๆ เพื่อนๆ พ่อ แม่ คนรู้จัก เวลาขับผ่านตำรวจที่ตั้งด่านตรวจ ไม่ว่าจะเป็นด่านตรวจแอลกอฮอล หรือ ป้อมตรวจเรื่องจราจร ทั่วไปธรรมดา  คนที่ผมนั่งในรถไปด้วยเกือบร้อยทั้งร้อย พร้อมใจกัน ด่าว่า
" ดูมันสิมาหากินกันอีกละ " " ดูดิเนี่ยปลายเดือนหาเงินไปจ่ายค่าเทอมลูกมั้ง " ผมฟังแล้วรู้สึกเจ็บใจและรับไม่ได้กับมุมมองของผู้คนรอบข้าง ที่มองกันแบบนี้เลยนะครับ ทั้งๆที่มุมมองที่ควรจะเป็นในการมองตำรวจที่ตั้งด่าน ทั้งที่เขากินเงินภาษีเราแล้วออกมาตั้งด่านทำหน้าที่จับคนที่ละเมิดกฏหมาย เพื่อให้ผู้คนกลัวการทำผิดอยู่ในกรอบเกณฑ์ที่กฏหมายกำหนด กลับเป็นสิ่งที่น่าเชยชมเสียมากกว่าด้วยซ้ำ ( สามารถกลับไปอ่านในประเด็นที่ 1 และ 2 ได้ และยังย้ำอยู่ว่าที่ผมพูดนี้ยังไม่เกี่ยวกับเรื่องส่วย เรื่อง ลักไก่จ่ายค่าปรับเพราะถ้าจะพูดคงเป็นประเด็นใหญ่และยาวกว่านี้ )

ประเด็นที่ 3 " คุณกำลังทำในสิ่งที่ผิดแล้วหาข้ออ้างมาอ้างเพื่อสิ่งที่คุณคิดว่าถูกในความคิดคุณ แต่มันผิดในกฏหมาย จริงหรือไม่ "
           อึดอัดอีกแล้วครับกับประเด็นนี้ มีหลายๆ กระทู้ใน pantip และบอร์ดอื่นๆ ชอบมีคนมาตั้งคำถามประมาณว่า
" มอเตอร์ไซ์ ขับในมอเตอร์เวย์ มันผิดกฏหมายหนิ วันนี้เห็น bigbike หลายคันขับตามกันมา"    หรือบ่นว่า.  " ก็ถนนฝั่งซ้ายมันเป็นหลุดเป็นบ่อ ใครมันจะไปยอมวิ่งวะ ".    " ฝั่งซ้ายมีแต่รถเมล์ แท็กซี่ก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ ขับชิดซ้ายก็เสี่ยงตาย "        " bigbike วิ่งเลนขวารถเก๋งขับตามไม่ทัน เครื่องแรงกว่าเยอะบิดนิดเดียวก็แซงแล้วในทางมอเตอร์เวย์โล่ง ๆ"  
บอกตามตรงครับเหตุผลที่พวกคุณหลายๆคนมาแก้ต่างนั้นฟังดูค่อนข้างตลกไหมครับ คุณกำลังพูดจับพลัดจับพลูอ้างในสิ่งที่คุณคิดเองเอยเอง เพื่อมาทำในสิ่งที่ผิดกฏหมายที่เห็นอยู่อย่างชัดๆ เป็นข้ออ้างที่ตลกมากๆ ในสายตาผม
ถึงแม้ว่าข้ออ้างนั้นมีสาระและผมก็เป็นหนึ่งคนหละที่เห็นว่า นัยยะในข้ออ้างที่คุณอ้างนั้นบางเรื่องก็เป็นเรื่องจริง
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเอามาอ้างเพื่อทำให้สิ่งที่คุณผิดทำกลายเป็นสิ่งที่ถูกขึ้นมาทั้งๆที่มันผิดอยู่เต็มๆตา

ประเด็นที่ 4 " ถ้าอ้างก็ไม่ได้ บ่นอะไรก็ไม่ดี ควรทำอย่างไรหละ? "
               คำถามนี้มีหลายๆคนในบอร์ด pantip และกลุ่มอื่นๆ ได้หาทางออกไว้ให้แล้ว โดยการรวมตัวกันขึ้นเพื่อแก้กฏหมายที่เห็นว่ามันควรเปลี่ยนไปแล้วตามยุคสมัยและความเหมาะสม โดยนำเหตุผลที่พวกคุณอ้างๆ กันนี้หละมาเป็นเหตุเป็นผลในการแก้ข้อกฏหมาย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ดีมากๆ  แต่ตราบใดก็ตามที่กฏหมายเก่ายังบังคับใช้อยู่ เราก็ควรที่จะปฏิบัติตามในสิ่งที่ถูกต้องตามกฏหมาย ไม่ใช่ ทำสิ่งที่ผิดที่ตัวเองคิดว่าถูดในประเด็นที่ผมอธิบายก่อนหน้านี้ เพราะมันจะกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง ที่ไม่ใช่ทางออกเลยด้วยซึ้งครับ

สรุป   ในทุกประเด็นที่ผมพูดมาเป็นความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ ผมมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ของแค่ คนขับมอเตอร์ไซด์ กับกฏหมายจราจร มันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น มันเป็นเรื่องของ กฏหมาย ความเคารพในกฏหมาย
สิทธิ เสรีภาพ หน้า อำนาจอธิปไตยของประชาชน พลังของประชาชน ที่สามารถรวมตัวกันเพื่อแก้ไขกฏหมายและหาทางออกโดยวิธีที่ถูกต้อง รวมถึงสามัญสำนึกในการกระทำยึดมั่นในความถูกต้องของพื้นฐานทางสังคมที่ตกลงกันไว้
เพราะว่าที่บ้านเมือง ( ไม่อยากแว๊ปเข้าเรื่องการเมืองเลยแค่เพียงอยากยกตัวอย่าง) มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันในทุกวันนี้มันมาจาก ผู้คนอยากได้ตามที่ตนเองอยากมากกว่าหลักการ กฏหมาย ที่ควรยึดมั่นร่วมกัน ซึ่งผมก็เชื่อว่าถ้าทุกคนร่วมกันปลูกฝังให้ยึดมั่นในหลักการ อุดมการณ์ ผลประโยชน์ของส่วนรวม มากกว่า ความต้องการของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ผลประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง นั้น ปัญหาคงไม่เกิดและบานปลายมาจนถึงวันนี้ครับ

ปล.ผมสนับสนุนเต็มที่นะครับ และขอเป็นหนึ่งในกำลังใจให้กับพี่ๆที่รวมตัวกันเพื่อออกมาแก้กฏหมายนี้อย่างถูกต้องตามวิธีการครับ