ทางตัน เดินต่อไปยังไงดี

เราเคยโพสเรื่องของเราเกี่ยวกับการตัดสินใจขายบ้านเพื่อเอาเงินมาลงทุนทำธุรกิจและย้ายมาอยู่บ้านสามีค่ะ และตอนนี้ก็กำลังจะหมดตัวแบบไม่มีอะไรเลย ขอเล่าเรื่องเลยค่ะ หลังจากขายบ้านและรถ (ตอนขายบ้านขายให้กับญาติค่ะ เอาเงินไปปิดหนี้ที่แบงค์ และเงินที่เหลือประมาณ 500000 มาลงทุนทำโรงงานนํ้าดื่มตามที่ตั้งใจ) เริ่มด้วยการที่ให้แม่สามีหาคนมาสร้างโรงงาน โรงงานไม่ใหญ่มากขนาด 8x5m แต่ทำตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำทุกอย่าง (รายละเอียดตรงนี้ไม่ขอเล่ามากค่ะ เพราะไม่เกี่ยวข้องเท่าไร) แม่สามีให้ญาติมาทำให้ แต่ไม่ได้ราคาญาติกันเลยค่ะโรงงานขนาดนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน หมดไปรวมค่าของค่าแรง 180000 ค่ะ อึ้ง แต่พูดอะไรไม่ออก ซํ้าฝนตก นํ้าซึมอีกค่ะ หลังจากโรงงานเสร็จ เราก็หาช่างที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบนํ้ามาติดตั้งเครื่องให้ ช่างคิดราคา 200000 ค่ะ ก็เงินเราอีก ตั้งแต่เดือน มกราคมมา สามีไม่ได้ทำงานค่ะ ออกจากงานที่ กทม เพราะสาเหตุมีเมียน้อย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตกอยู่กับเราหมด (ทุกอย่างเลยค่ะ) รวมทั้งค่ารถ จยย ของเขาที่เป็นชื่อเรา เราก็ต้องจ่าย มาอยู่ ตจด ไม่มีรถลำบากมาก ก็เลยตัดสินใจเพราะให้แม่สามีช่วยเรื่องทำเรื่องซื้อรถ โดยใช้ชื่อแม่สามี แต่เราเป็นคนผ่อน (อย่าพึ่งว่าเราตรงจุดนี้น่ะค่ะ เราท้องตอนนี้ได้ 7เดือน เป็นแท้งคุกค้าม แท้งมาแล้ว 6ครั้งก่อนจะมีลูกชาย ตอนนี้ 1.10ปี ต้องหาหมอบ่อย ซึ่ง รพ ห่างจากบ้าน 50km ค่ะ เป็นเหตุที่ทำให้อยากมีรถด้วย) และรถก็กะเอาใช้ส่งนํ้าด้วย ค่าใช้จ่ายหมดไปเกือบ 100000

และแล้วมันก็เกิดปัญหาจนได้ อย. เราผ่านแล้ว เจ้าหน้าที่มาตรวจบริเวณแล้ว ทุกอย่างผ่านค่ะ สามารถเปิดทำธุรกิจได้แล้ว แต่เงินเราหมดแล้วค่ะ เหลือเงินหมื่นนิดนิดเอง ไม่พอกับการซื้อขวด ลัง ถัง ได้ ไม่มีใครสามารถช่วยเรากับลูกได้แล้วค่ะ สามีก็เฉยเฉย ไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร ไม่หางานทำ ไม่ช่วยเลี้ยงลูก ไม่ช่วยงานบ้าน กินเหล้าเฮฮากับเพื่อน เรานอนร้องไห้ หาทางออกไม่เจอแล้วค่ะ หมดตัวแถมยังเป็นหนี้ ไหนจะลูกอีก ตันไปหมดแล้วค่ะ ลงทุนไปเยอะ ขายสมบัติที่มีทั้งหมด ตอนนี้นอนน้องไห้ค่ะ มองหน้าลูกแล้วเศร้า อีกคนในท้องก็ดิ้นไปดิ้นมา ยอมรับค่ะ ว่าเครียดมากและเครียดมานาน จนรู้สึกสงสารลูกในท้อง จะยืมญาติก็ไม่หวังเลยค่ะ  เพราะนอกจากไม่ให้ยังซํ้าเติมด้วย

ยังพอมีทางออกทางไหนให้เรากับลูกไหมค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
คุยกับสามี บอกทุกอย่างให้เค้ารับทราบ และกลับตัวกลับใจ หันมาเอางาน และครอบครัว

สามีคุณจะทำได้มั้ยอ่ะครับ

ส่วนเรื่องเงินทุน ตอนนี้คุณมีกิจการแล้ว และโรงงาน กับเครื่องผลิต รถยนต์ น่าจะเอาไปเป็นหลักประกันในการขอกู้กับแบงค์ได้นะครับ

อาจจะกู้ไม่เยอะ เพียงแค่พอส่งให้กับลูกค้าที่หาได้ก่อน

ตอนนี้คุณต้องเดินหน้าอย่างเดียวแล้วครับ ถอยหลังไม่ได้อีกแล้ว

ยังไงลองไปปรึกษากับทางแบงค์ก่อนว่าพอจะช่วยเหลืออะไรคุณได้บ้าง หากอยู่ ตจว. ก็ลองปรึกษา ธกส. หรือ ออมสิน ดูครับ

เรื่องเงิน ผมว่า หากมีโรงงาน มีเครื่องผลิต มีรถยนต์ อย่างน้อยก็น่าจะหาทุนมาไว้สำรอง หรือเริ่มต้นได้บ้าง

แล้วคุณก็รีบหาลูกค้า และเก็บเงินสด เอามาไว้หมุนให้ผ่านไปวัน ๆ ให้ได้ก่อน

เรื่องกำไรทำไปเรื่อย ๆ ระยะยาว เดี๋ยวมันก็มาเป็นกรอบเป็นกำเองครับ

ยังไงขอเอาใจช่วยให้คุณสามีคิดได้ และกลับมาช่วยกันทำมาหากิน สร้างเนื้อ สร้างตัว ปลดปัญหาหนี้สิน ให้ได้แล้วกันนะครับ

ถ้าหากสามีแย่จนกลับมาไม่ได้ ก็อดทนให้มาก

หากต้องการคนช่วยงาน ก็ต้องหาจ้างใครที่ไว้ใจได้มาช่วยทำให้ธุรกิจของคุณเดินต่อไปให้ได้อ่ะครับ

แต่ที่สำคัญ เรื่องการเก็บเงิน การจ่ายค่าสินค้า หรือเรื่องอะไรต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเงิน คุณต้องทำเองทั้งหมดครับ

อย่าให้ใครยุ่งเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นแม่ผัว หรือสามีของคุณ

อดทนสู้ ๆ ไปครับ ในชีวิตคนเราย่อมมีขึ้น มีลง มีสุข มีทุกข์ แต่มันมีทางออกของมันเสมอ เพียงแค่รอเวลา

แต่หากปัญหานึง หรือความทุกข์นึงหมดไป มันก็จะมีปัญหาใหญ่ ๆ ใหม่ ๆ เข้ามาอีกมากมาย และมีเข้ามาให้เราแก้ไข

ให้ได้ตลอดแหละครับ

ยังไงหากผ่านร้านหนังสือ ก็ลองซื้อหนังสือของคุณตัน อิชิตัน มาอ่านเล่นก็ได้ครับ

วันแรกที่เค้าเปิดกิจการชาเขียว เครื่องผลิตของเค้าก็มีปัญหาแล้วเหมือนกัน แล้วเค้าก็ต้องเป็นคนลงมือเข้าไปแก้ไขเอง

ดูแล้วอาจจะคล้าย ๆ กับคุณในตอนนี้ ที่พอกำลังจะเริ่มต้นชีวิตที่ดี ก็เริ่มมีอุปสรรค แต่พอผ่านไปได้ก็จะสำเร็จ

ร่ายยาวมาตั้งเยอะคงไม่รำคาญกันนะครับ อยากให้คุณสู้ต่อไป หาทางออกไปเรื่อย ๆ ไม่มีใครให้ปรึกษา ก็มาปรึกษาเพื่อน ๆ ในนี้ได้ครับ

หรือไม่ ก็ไปปรึกษาแบงค์ เหมือนน้อง ต๊อป เถ้าแก่น้อยอ่ะครับ (ลองหาหนังเรื่องนี้มาดูด้วยแล้วกัน)

อย่าอยู่คนเดียว อย่าคิดคนเดียว และสำคัญที่สุด อย่ามองโลกในแง่ร้าน หรือแง่ลบ

ชีวิตคุณมีดีกว่าคนอื่นเยอะ อย่างน้อย ๆ คุณก็ไม่ต้องไปเสี่ยงลุ้นว่า จะตายวันไหน เพราะมีข่าวตายกันเป็นรายวน เหมือนทหารที่ไปรักษาความสงบที่ชายแดนใต้

ที่รู้ว่า ตัวเองต้องไปตาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะมันเป็นหน้าที่

( ขอบคุณเหล่าทหารกล้าทุกท่านด้วยครับ )

พาพันไฟท์ติ้งพาพันไฟท์ติ้งพาพันไฟท์ติ้งพาพันไฟท์ติ้งพาพันไฟท์ติ้งพาพันไฟท์ติ้งพาพันไฟท์ติ้งพาพันไฟท์ติ้งพาพันไฟท์ติ้ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่