2 ข้อกล่าวหาของวัดพระธรรมกายที่ยุติแล้วทั้ง 2 ศาล แต่คุณทวนทองและคณะทำไมยังไม่จบสักที...

กระทู้สนทนา
เรียนเพื่อนสมาชิกชาวพันทิปผู้ทรงเกียรติทุกท่าน

กระแสรัฐสภาและกระแสม็อบช่วงนี้ ก็ตกลงบ้างไปแล้ว
แต่กระแสวัดกระแสพระ กลับมีมาตลอดและแรงขึ้น โดยเฉพาะวัดพระธรรมกาย
ช่างตีเหล็กบอกว่า เวลาตีเหล็กต้องตีตอนยังร้อน จึงจะได้รูปที่สวยงาม
ตอนนี้ ผมจึงคิดว่า ถึงเวลาเหมาะที่จะพูดถึงเรื่องวัดพระธรรมกายอีกครั้งหนึ่ง....

อตีเต กาเล ย้อนอดีตกลับไป...
ตอนที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายโดนกล่าวหา
และถูกฟ้องศาล ทั้งจากศาลสงฆ์และศาลอาญา
ด้วยข้อกล่าวหาฉกรรจ์ ใครทุกคนก็ฟันธงว่าไม่รอดหรอก
โดนแค่ศาลเดียวก็อ่วมอรทัยแล้ว ฝ่ายตรงข้ามนัดฉลองกันแล้วที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
แต่แล้วก็กลับเก้อ ด้วยไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง...เพราะอะไร

ศาลสงฆ์ โดยมหาเถรสมาคมมอบหมายให้เจ้าคณะภาค ๑ ในขณะนั้นเป็นประธาน
ท่านรวบรวมตรวจสอบเอกสารหลักฐานข้อกล่าวหาทั้งหมด
จึงสรุปไว้  ๔ ข้อว่า....

ประการที่ 1 พิจารณาเห็นว่า
"วัดพระธรรมกายมีความรู้ความเข้าใจในด้านคันถธุระหรือพระปริยัติธรรมยังไม่สมบูรณ์
จึงดำเนินการให้วัดพระธรรมกายจัดตั้งสถานศึกษาพระอภิธรรม ให้มีการเรียนการสอนวิชาพระอภิธรรมกันอย่างจริงจัง
เพื่อเพิ่มเติมศักยภาพในด้านคันถธุระของวัดพระธรรมกายให้สูงขึ้น อันจะก่อให้เกิดประโยชน์โสตถิผลแก่วัดพระธรรมกายเอง

ประการที่ 2 พิจารณาเห็นว่า
"วัดพระธรรมกายมีความรู้ความเข้าใจในด้านวิปัสนาธุระ หรือพระปฏิบัติธรรมยังไม่สมบูรณ์
จึงดำเนินการให้วัดพระธรรมกายจัดตั้งสถานที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ให้มีการปฏิบัติการบอกวิปัสสนากรรมฐานที่ถูกต้องตามพระคัมภีร์กันอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มเติมศักยภาพในด้านวิปัสสนาธุระของวัดพระธรรมกายให้สูงขึ้น อันจะเกิดคุณประโยชน์แก่วัดพระธรรมกายเอง

ประการที่ 3 พิจารณาเห็นว่า
"วัดพระธรรมกายมีการเผยแพ่พระพุทธศาสนามากมายหลายด้านเป็นที่จับตามองของสาธารณชนในวงกว้าง อาจจะมีโอกาสประพฤติผิดพลาดขึ้นมาได้จะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม
จึงดำเนินการ โดยแนะนำให้พยายามสำรวมระวัง และปฏิบัติตามพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัด ทั้งนี้เพื่อป้องกันโลกวัชชะที่จะพึงบังเกิดขึ้นจากเจตนาที่ดี ทั้งที่พึงจะบังเกิดขึ้นจากวิสังวาทนเจตนาก็ตามที

ประการที่ 4 พิจารณาเห็นว่า
"วัดพระธรรมกายจะต้องทำงานหนัก จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคอีกมากมายหลายด้าน เพราะว่างานที่เริ่มต้นไว้เพื่อประโยชน์พระพุทธศาสนา ล้วนแต่เป็นงานที่ใหญ่โตกว้างขวางทั้งสิ้น จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกหลายฝ่าย อาจจะเกิดความประมาทพลาดผิดไปก็ได้
จึงดำเนินการโดยแนะนำให้วัดพระธรรมกายบริหารงานให้ถูกต้อง โดยปฏิบัติตามกฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช คำสั่งของผู้บังคับบัญชาเหนือตน โดยเคร่งครัด
ทั้งนี้เพื่อความเรียบร้อยดีงามของวัดและพระพุทธศาสนา

ซึ่งวัดพระะรรมกายก้ได้ดำเนินการดังกล่าว
ตามข้อสรุปของศาลสงฆ์ โดยไม่มีข้อโต้แย้งแต่ประการใด
แต่เหตุไฉน ข้อกล่าวหาที่ยุติแล้ว จึงยังไม่จบสักที...

หลังจากนั้น...
และศาลอาญา ก็ได้ถอนฟ้องพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (สมณศักดิ์ในขณะนั้น)
โดยมีบทสรุป ๓ ข้อ
และที่สำคัญ เหตุผลที่ถอนฟ้องก็เป็นการรับรองว่า

1. พระธัมมชโยได้คืนเงินให้แก่ทางวัดพระธรรมกายครบถ้วนทุกบาททุกสตังค์แล้ว
ถือว่าได้ปฏิบัติตามพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

จึงไม่มีเหตุผลที่จะฟ้องร้องเอาผิดอีกต่อไป

2. เรื่องพระธรรมคำสอน ได้รับความคิดเห็นสนับสนุนจากผู้รู้และมียศตำแหน่งในทางพระพุทธศาสนาสำคัญ 3 ท่าน คือ
1.อธิบดีกรมการศาสนา 2.ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 3.เจ้าคณะภาค 1
ซึ่งทั้งสามท่านยืนยันว่า พระธัมมชโยมิได้สอนสั่งนอกพระไตรปิฎกแต่อย่างใด

ทั้งจำเลยยังได้ช่วยเหลือกิจการคณะสงฆ์ไทยเป็นอันมาก ทั้งในด้านการศึกษา การเผยแผ่ และสาธารณูปการ รวมทั้งการสาธารณสงเคราะห์ด้วย ซึ่งผลงานของวัดพระธรรมกายนั้นเป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล มิใช่เฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น

3. ถ้าฟ้องร้องต่อไปให้สิ้นสุดกระบวนการ ก็จะเป็นการสร้างความแตกแยกในศาสนจักรและประชาชนคนไทยในชาติ

ข้อกล่าวหาเรื่องพระลิขิตฯก็ยุติแล้ว
ข้อกล่าวหาเรื่องยักยอกทรัพย์ก็ยุติแล้ว ตามคำสั่งของศาลอาญา

อธิกรณ์ที่พวกคุณทวนทองและคณะยกขึ้นมาก็ล้วนเป็นเรื่องเก่าที่ยุติแล้วทั้งนั้น
อธิกรณ์ที่สงฆ์ทำโดยชอบและยุติแล้ว ใครจะยกขึ้นมาแสดงอีกไม่ได้
ด้วยมีข้อห้ามตามพระวินัย ผู้ล่วงละเมิดเป็นพระยกขึ้นมาอีก ย่อมต้องโทษทางพระวินัยทุกครั้ง....

แต่ที่เป็นฆราวาสย่อมต้องตระหนักด้วย เพราะสงฆ์ที่ละเมิดยังมีโทษขนาดกลาง
แล้วฆราวาสที่ล่วงละเมิด จะมีโทษขนาดไหน
พวกท่านคงรู้แก่ใจดี....

ขอขอบคุณ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่