อันดับแรกของการจะไปขอวีซ่า ไม่ว่าจะประเทศใดๆก็ตาม เกณฑ์หลักๆก็คงเหมือนกันก็คือ คุณไปแล้วจะกลับมาประเทศไทยหรือป่าวและคุณจะไม่ไปทำความเดือนร้อนให้ประเทศเค้าแน่นอน แค่มีคุณสมบัติหลักๆ 2 ข้อนี้ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว เด้อ! อิอิ แต่ว่าผมก็เข้าใจบางท่านที่จะไปขอประเภทวีซ่าไม่ตรงวัตุประสงค์ พอท่านไปอยู่ที่โน่นก็ต้องลำบากหลบซ่อนเหมือนเดิม เห้อ ทำไงละก็บ้านเรามันทำมาหากินยากนิ แต่ว่าไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าบ้านเราหรอกนะครับ อยู้บ้านเราดีกว่ายิ่งไกลยิ่งหนาวยิ่งเหงา...... มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ประสบการณ์ขอวีซ่าของผมคร่าวๆดังนี้ ผมเป็นเจ้าของกิจการ 3 ปี และก็กำลังเรียน ป.โท ปีที่ 2 อายุเพิ่ง 26 ขวบเอง เอกสารคงไม่ต้องบรรยายเนาะ
อันดับแรก ถ่ายรูปฉากหลังสีขาว มีขนาด 2x2 นิ้ว และขอไฟล์รูปกับทางร้านมาด้วยหรือสแกนก็ได้ เพราะต้องใช้ในการกรอก DS-160 ออนไลน์ และนำไปวันสัมภาษณ์ 2 แผ่นเอง! ถ่ายมาเป็นโหลๆ รูปก็ไม่ได้แต่ง ดิสสดหน้าบานเท่ากระด้ง เอิ๊กๆ
ต่อมาไปที่
https://ceac.state.gov/genniv เพื่อทำการกรอกข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดและแผนการเดินทางด้วย ขั้นตอนการกรอก ข้อนข้างสำคัญมากๆ เพราะสิ่งที่เราจะทำการพิมพ์ลงไป ต้องถูกต้องและต้องมีเอกสารหลักฐานยืนยันในบางข้อ(ดูให้ละเอียดๆนะครับ) กรอกไปสักพักก็กดบันทึกไว้ได้แล้วเข้ามาทำต่อ เพราะระบบจะรีเซ็ตใหม่ทุกๆ 15-30 นาที่ โดยประมาณ กรอกเสร็จปริ้นให้เรียบร้อย จะมี 2 ชุด ชุดแรกนำไปด้วยวันไปสัมภาษณ์ อีกชุดนึงจะมีตัวแดงๆบอกว่าไม่ต้องนำไป ก็ให้เก็บไว้อ่านทบทวน
ต่อไปคือการไปซื้อพินเพื่อทำการนัดสัมภาษณ์ มีสองวิธีคือ ซื้อที่ไปรษณีหรือจะซื้อแล้วตัดผ่านบัตรเครดิตรได้เลย ประมาณ 360 บาท ซื้อเสร็จก็ทำการกรอกสมัครเข้าระบบการจอง แล้วก็จองวันว่าง สีเขียวๆเลือกวันและเวลาได้ตามสะดวก จองแล้วสามารถเปลี่ยนวันและเวลาได้ จนกว่าระบบจะมีการบอกเดทไลน์การเปลี่ยนแปลงว่าเปลี่ยนได้สุดท้ายวันไหน ฟังแล้ว งงๆ ขนาดเขียนไปยัง งง เอ้ย! (ผมเปลี่ยนไป มา 4 รอบ ถ้าอยากได้วันใกล้ๆก็หมั่นเข้าระบบ วันว่างสีเขียวมันจะเด้งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวถ้ามีคนเลื่อนออกไปวันนั้นก็จะว่างเสร็จเราเบย เอิ๊กๆ) ของเราสมัครวันที่ 9 กันยายน ซื้อพินออนไลน์ผ่านบัตร เปลี่ยนวันสัมภาษณ์ไปมา จนได้วันที่ 12 กันยายน หะ! อีก3 วันสัมภาษณ์แล้วหรอ เอกสารละ? ยุไหน!! เร็ว ใกล้สะใจจริงไรจริง
ต่อมาก็ไปชำระค่าเสียหายซะโดยดี (ค่าวีซ่า) ที่ไปรษณีไทย บริการด้วยใจ เชื่อมไทย เชื่อมโลก นั่นเอง 4,800 บาทถ้วนๆ ชื่อและนามสกุล ภาษาอังกฤษให้ตรงกะพาสปอร์ตเด้อ เก็บใบเสร็จและใบสีชมพูไว้ให้ดีสุดชีวิต เก็บใส่แฟ้มเอกสารสำคัญที่จะนำไปขอวีซ่าเลย
ต่อมาจองตั๋วเครื่องบิน ขอนแจ่น-กรุงเทพ เพื่อไปสัมภาษณ์ (เกี่ยวกันไหมนิ) ฮ่าๆ ตื่นเต้นๆๆ หายใจบ่อิ่ม แงๆ
มาถึงนาทีระทึกขวัญสยองโลก พฤหัสบดี ที่ 12 กันยายน 2556 เวลานัด 8.00 น. แปดโมงเซ้า
เราพักโรงแรมแถวสนามเป้า ติดรถไฟฟ้า นอนหลับสบาย ก่อนนอนทวบทวนสิ่งที่กรอกนิดๆ เช็คเอกสารให้แน่ใจ และสวดมนต์นิดๆ ฝันดีครับ
ตื่นๆๆๆ!!! หะ!!ตื่น 7 โมง! นาฬิกาปลุกทรยศจริงๆ ตายๆทันไหมเนี่ย วิ่งคับวิ่ง วิ่งๆๆๆๆ แทบจะกระโดษขึ้นรถไฟฟ้าคนเยอะเบียดเสียด เง้อคิดถึงบ้านนอกผมจัง ป่านนี้คงถึงละ..........15 นาทีเอง ถึงสถานีเพลินจิต วิ่งต่อครับ วิ่งๆตามแนวทางถนนวิทยุฝ่าดงฝูงชนนับพัน ช่วงเวลางานเค้าเนาะ แซงซ้ายแซงขวาปาดหน้าเค้าไปทั่ว ดีนะที่ฟ้าคลึ้ม อากาศเลยไม่ร้อน
ถึงหน้าสถานทูต 07.55 นาที (ไม่แนะนำครับ ต้องไปถึงก่อนเวลานัดอย่างน้อย 30 นาที) เห็นคนพูดนักหนาว่าคนเข้าแถวยาวเหยียด ที่ไหนได้ มี 2 คนอ่ะ เกิดอะไรขึ้น? หรือเค้าปิด หรือเค้าไปไหน? คิดไปทั่ว! ถาม รปภ. บอกว่ารอบแรกรอบสองเพิ่งเรียกเข้าไปครับ เลยไม่เหลือคนรอ อ้อ โล่ง! ผมคิวที่สามของรอบนี้ สักพักเจ้าหน้าที่มาตรวจใบนัด แล้วก็ให้เข้าไป สักพักเจ้าหน้าที่บอกเราว่า เข้าไปไม่ได้!! เอ้าเป็นหยัง? เพราะกฏใหม่ ให้เอากระเป๋าสะพายข้างเข้าไปได้ ยกเว้นแบบเป้ และห้ามนำไอแพด พอด กาแลกซี่ ตระกูลอิเรคทรอนิกต่างๆเข้า แม้กระทั้งโทรศัพย์ก็ฝากได้แค่เครื่องเดียว เรานำมาสองเครื่องเค้าไม่ให้เข้าทำยังไงก็ได้ให้เหลือโทรศัพย์แค่เครื่องเดียว ตายๆๆ เลยออกมา เดินวกไปวนมา 10 นาที ไปเซเว่น ถามพนักงาน พี่ครับผมฝากโทรศัพย์หน่อยนะครับ พนักงานบอกจะเก็บให้แต่ไม่รับผิดชอบใดๆนะค่ะ! เอ้า ยังไงก็ได้ แค่ไอโฟนห้าเองเย้ย ขนหน้าแข้งผมจะร่วง ฝากด้วยนะครับ อิอิ
เดินกลับมายิ้มใส่ รปภ เดินเข้าไปอย่างสำบายใจ เจอด่านตรวจเอกสารก็ตรวจๆแยกๆ ส่วนนึงเก็บไว้เผื่อท่านกงศุลขอดู อ้อเรามีพาสปอร์ตเล่มเก่าไปด้วย ลืมบอกว่าเคยมีวีซ่า USA J1 ตอนไปเวิร์ค สมัยยังหนุ่มๆเป็นบ่าวโน้น!!!
แล้วพนักงานก็บอกให้เราเข้าไปข้างในเลย ไปต่อแถวช่อง 14-15 เอ้า งง ทำไมไม่ได้สแกนนิ้วมือเหมือนคนอื่นอ่ะ เดินเข้าไปแบบ งงๆ
พอเข้าไป ก็ต่อแถวช่อง 14 เพราะมีคิวเดียว อากาศทำไมมันเย็นๆ วิเวกโหวกเหวกวังเวงโหวงหวาง แบบนี้ ถึงคิวแล้ว พนักงานผู้ชาย น่าจะคนไทยนะ ถามว่า
ไปทำอะไรครับ?
-ไปเที่ยวครับ
ไปกับใครครับ?
-ไปคนเดียวครับ
อ้าวทำไมไปคนเดียวละ?
-อ่อ ผมชวนเพื่อนแล้วครับ ไม่มีใครว่างเลยต้องไปคนเดียวและอีกอย่างชอบเที่ยวแบบแบคแพ็ค ด้วยคับ
อืมม....สแกนนิ้วมือครับ แล้วไปต่อช่องที่ 9 พร้อมคืนพาสปอร์ตและเอกสาร? คิดว่า หะ! ทำไมอ่ะ ไม่ผ่านหรอ เริ่มสั่นๆ
พอไปช่องที่ 9 ก้เจอฝรั่งสวยผมยาว ยื่นเอกสารให้ ก็ยิงบาร์โคต และก็บอกสแกนนิ้วมือแล้วไปต่อช่อง 13 เอ้า งง (สรุปสิให้สัมภาษณ์บ่ครับ คือไล่ไป ไล่มาแถะละ หนหวยแล้วเด้) บ่นพรำพรัมเป็นภาษาบ้านเกิด
พอมาช่องที่ 13 ต่อเป็นคนที่ 5 พอได้พัก แต่ก็ยืน งงๆ ว่าทำไมผมไม่ได้นั่งรอเหมือนคนอื่นๆที่มาก่อน แถมไปหลายช่องด้วยอ่ะ หรือว่าเราจะมีปัญหานะ คิดไปสารพัด ผ่านไปสามคนแถวก็สั้นลงๆ ยัง งง อยู่เหมือนเดิม เลยแอบกระซิบคนข้างหน้า ว่า พี่ๆครับผมขอถามอะไรหน่อยนะ ทำไมผมได้คิว 9 ร้อยกว่า และไม่ได้รอและไปสามช่อง? พี่เค้าเลยตอบว่า คนที่เคยถือวีซ่ามาก่อน จะเป้นแบบนี้แหละ ไม่มีอะไร เค้าอิงข้อมูลเดิมเป็นหลัก อ่อๆๆ จังซั่นติ อืมมม เข้าใจละ
ถึงคิวสักทีนะ ร่ำมายาวมาก ....คนสัมภาษณ์เป็นผู้หญิงเหมือนเป็นคนเอเชีย ก็พูดอังกฤษปนไทย นิดๆ ...
คุณจะไปทำอะไร กี่วัน? (พูดภาษาอังกฤษนะ)
-ไปเที่ยวครับ กะไว้ 2 อาทิตย์
ไปกับใคร?
-คนเดียวครับ
จะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง?
-วางแผนไว้จะไป นิวยอร์ค ฟิลาเดเฟีย และวอร์ชิงตันดีซี ถ้ามีเวลาพอ อยากไปน้ำตกไนแองกาล่า ด้วยคับ
คุณทำงานอะไร?
-ผมเป็นเจ้าของกิจการ......ที่ขอนแก่นครับ
มีใบรับรองหรือทะเบียนการค้าไหม?
-มีครับ นี่ครับ (ค้นหาแล้วยื่นตัวจริงให้)
แล้วมีรายต่อเดือนได้เท่าไหร่?
-ประมาณ 50,xxxx บาท ครับ
ขอดูสมุดบัญชีหน่อย?
-นี่ครับ ยื่นให้ 2 เล่มเลย SCB และ K-Bank ลายโดเรม่อน (สงสัยนางชอบโดเรม่อน ยิ้มใหญ่เลยบอกว่าสมุดน่ารักนะค่ะ) คิดในใจ สรุปจะดูเงินหรือดูโดเรม่อนนิ? พลิกไปมา! อ่อ เรามีเงินค้างบัญชี 2 เล่มรวมกัน ประมาณ 5xx,xxx กว่าบาทครับ
คุณกำลังศึกษาด้วยหรอ?
-ใช่ครับ กำลังศึกษา MBA.........ปีที่สองครับ นี่ครับหนังสือรับรอง
เคยไปต่างประเทศไหม?
-เคยไปล่าสุดเกาหลี ญี่ปุ่น ฮองกง จีน สิงค์โป และเวิคแอนทราเวล USA ปี 2008 ครับ
กิจการของคุณมีพนักงานกี่คน แล้วในระหว่าคุณไปเที่ยว ใครจะดุแลกิจการของคุณ?
-ทั้งหมด 15 คน และในระหว่างที่ไม่อยู่ก็คงต้องเซ็ตงานไว้ล่วงหน้า และให้พนักงานทำงานเพิ่มแล้วก็จ่าย OT ทดแทนครับ
ค่ะ ขอบคุณค่ะ ขอให้เที่ยวสนุกนะค่ะ ไปจ่ายค่าไปรษณีนะค่ะ (พร้อมยืดพาสปอร์ตและใบทะเบียนการค้าตัวจริงผมไป) เอ้า เบรอมั้ง
ผมเลือก มารับเองในวันต่อมาช่วงบ่าย เพราะใจร้อนอยากเห็นวีซ่า ก็สามารถมารับเองได้ที่ไปรษณี รองเมือง (แถวๆหลังจุฬา)
พอมารับบ่ายก็ได้รับซองเหลืองๆ ค่อยแกะค่อยๆลุ้น เอ้าใบอะไรนิ?? อ้อ นางแนบใบทะเบียนการค้าคืนมาด้วย ฮ่าๆๆ เอาไปหยังบ่ทราบ
สรุป 10 ปี ครับ เฮ้ๆๆๆ ฉลองๆๆ แต่ไม่รุจะไปเมื่อไหร่นะสิ นี่แระปัญหา ฮ่าๆ
แนะนำให้กรอกเอกสารเองหรือถ้าให้เอเจ่นหรือคนอื่นกรอก ต้องติวดีๆอ่านให้สอดคล้องกับกงศุลถาม
ถ้าผมเขียดผิดตรงไหน ก็ขออภัยด้วยนะคร้าบ โชคดีทุกท่านนะครับ
[CR] ประสบการณ์ การขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา USA VISA ได้มา 10 ปีเลย เด้อออออ
อันดับแรก ถ่ายรูปฉากหลังสีขาว มีขนาด 2x2 นิ้ว และขอไฟล์รูปกับทางร้านมาด้วยหรือสแกนก็ได้ เพราะต้องใช้ในการกรอก DS-160 ออนไลน์ และนำไปวันสัมภาษณ์ 2 แผ่นเอง! ถ่ายมาเป็นโหลๆ รูปก็ไม่ได้แต่ง ดิสสดหน้าบานเท่ากระด้ง เอิ๊กๆ
ต่อมาไปที่ https://ceac.state.gov/genniv เพื่อทำการกรอกข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดและแผนการเดินทางด้วย ขั้นตอนการกรอก ข้อนข้างสำคัญมากๆ เพราะสิ่งที่เราจะทำการพิมพ์ลงไป ต้องถูกต้องและต้องมีเอกสารหลักฐานยืนยันในบางข้อ(ดูให้ละเอียดๆนะครับ) กรอกไปสักพักก็กดบันทึกไว้ได้แล้วเข้ามาทำต่อ เพราะระบบจะรีเซ็ตใหม่ทุกๆ 15-30 นาที่ โดยประมาณ กรอกเสร็จปริ้นให้เรียบร้อย จะมี 2 ชุด ชุดแรกนำไปด้วยวันไปสัมภาษณ์ อีกชุดนึงจะมีตัวแดงๆบอกว่าไม่ต้องนำไป ก็ให้เก็บไว้อ่านทบทวน
ต่อไปคือการไปซื้อพินเพื่อทำการนัดสัมภาษณ์ มีสองวิธีคือ ซื้อที่ไปรษณีหรือจะซื้อแล้วตัดผ่านบัตรเครดิตรได้เลย ประมาณ 360 บาท ซื้อเสร็จก็ทำการกรอกสมัครเข้าระบบการจอง แล้วก็จองวันว่าง สีเขียวๆเลือกวันและเวลาได้ตามสะดวก จองแล้วสามารถเปลี่ยนวันและเวลาได้ จนกว่าระบบจะมีการบอกเดทไลน์การเปลี่ยนแปลงว่าเปลี่ยนได้สุดท้ายวันไหน ฟังแล้ว งงๆ ขนาดเขียนไปยัง งง เอ้ย! (ผมเปลี่ยนไป มา 4 รอบ ถ้าอยากได้วันใกล้ๆก็หมั่นเข้าระบบ วันว่างสีเขียวมันจะเด้งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวถ้ามีคนเลื่อนออกไปวันนั้นก็จะว่างเสร็จเราเบย เอิ๊กๆ) ของเราสมัครวันที่ 9 กันยายน ซื้อพินออนไลน์ผ่านบัตร เปลี่ยนวันสัมภาษณ์ไปมา จนได้วันที่ 12 กันยายน หะ! อีก3 วันสัมภาษณ์แล้วหรอ เอกสารละ? ยุไหน!! เร็ว ใกล้สะใจจริงไรจริง
ต่อมาก็ไปชำระค่าเสียหายซะโดยดี (ค่าวีซ่า) ที่ไปรษณีไทย บริการด้วยใจ เชื่อมไทย เชื่อมโลก นั่นเอง 4,800 บาทถ้วนๆ ชื่อและนามสกุล ภาษาอังกฤษให้ตรงกะพาสปอร์ตเด้อ เก็บใบเสร็จและใบสีชมพูไว้ให้ดีสุดชีวิต เก็บใส่แฟ้มเอกสารสำคัญที่จะนำไปขอวีซ่าเลย
ต่อมาจองตั๋วเครื่องบิน ขอนแจ่น-กรุงเทพ เพื่อไปสัมภาษณ์ (เกี่ยวกันไหมนิ) ฮ่าๆ ตื่นเต้นๆๆ หายใจบ่อิ่ม แงๆ
มาถึงนาทีระทึกขวัญสยองโลก พฤหัสบดี ที่ 12 กันยายน 2556 เวลานัด 8.00 น. แปดโมงเซ้า
เราพักโรงแรมแถวสนามเป้า ติดรถไฟฟ้า นอนหลับสบาย ก่อนนอนทวบทวนสิ่งที่กรอกนิดๆ เช็คเอกสารให้แน่ใจ และสวดมนต์นิดๆ ฝันดีครับ
ตื่นๆๆๆ!!! หะ!!ตื่น 7 โมง! นาฬิกาปลุกทรยศจริงๆ ตายๆทันไหมเนี่ย วิ่งคับวิ่ง วิ่งๆๆๆๆ แทบจะกระโดษขึ้นรถไฟฟ้าคนเยอะเบียดเสียด เง้อคิดถึงบ้านนอกผมจัง ป่านนี้คงถึงละ..........15 นาทีเอง ถึงสถานีเพลินจิต วิ่งต่อครับ วิ่งๆตามแนวทางถนนวิทยุฝ่าดงฝูงชนนับพัน ช่วงเวลางานเค้าเนาะ แซงซ้ายแซงขวาปาดหน้าเค้าไปทั่ว ดีนะที่ฟ้าคลึ้ม อากาศเลยไม่ร้อน
ถึงหน้าสถานทูต 07.55 นาที (ไม่แนะนำครับ ต้องไปถึงก่อนเวลานัดอย่างน้อย 30 นาที) เห็นคนพูดนักหนาว่าคนเข้าแถวยาวเหยียด ที่ไหนได้ มี 2 คนอ่ะ เกิดอะไรขึ้น? หรือเค้าปิด หรือเค้าไปไหน? คิดไปทั่ว! ถาม รปภ. บอกว่ารอบแรกรอบสองเพิ่งเรียกเข้าไปครับ เลยไม่เหลือคนรอ อ้อ โล่ง! ผมคิวที่สามของรอบนี้ สักพักเจ้าหน้าที่มาตรวจใบนัด แล้วก็ให้เข้าไป สักพักเจ้าหน้าที่บอกเราว่า เข้าไปไม่ได้!! เอ้าเป็นหยัง? เพราะกฏใหม่ ให้เอากระเป๋าสะพายข้างเข้าไปได้ ยกเว้นแบบเป้ และห้ามนำไอแพด พอด กาแลกซี่ ตระกูลอิเรคทรอนิกต่างๆเข้า แม้กระทั้งโทรศัพย์ก็ฝากได้แค่เครื่องเดียว เรานำมาสองเครื่องเค้าไม่ให้เข้าทำยังไงก็ได้ให้เหลือโทรศัพย์แค่เครื่องเดียว ตายๆๆ เลยออกมา เดินวกไปวนมา 10 นาที ไปเซเว่น ถามพนักงาน พี่ครับผมฝากโทรศัพย์หน่อยนะครับ พนักงานบอกจะเก็บให้แต่ไม่รับผิดชอบใดๆนะค่ะ! เอ้า ยังไงก็ได้ แค่ไอโฟนห้าเองเย้ย ขนหน้าแข้งผมจะร่วง ฝากด้วยนะครับ อิอิ
เดินกลับมายิ้มใส่ รปภ เดินเข้าไปอย่างสำบายใจ เจอด่านตรวจเอกสารก็ตรวจๆแยกๆ ส่วนนึงเก็บไว้เผื่อท่านกงศุลขอดู อ้อเรามีพาสปอร์ตเล่มเก่าไปด้วย ลืมบอกว่าเคยมีวีซ่า USA J1 ตอนไปเวิร์ค สมัยยังหนุ่มๆเป็นบ่าวโน้น!!!
แล้วพนักงานก็บอกให้เราเข้าไปข้างในเลย ไปต่อแถวช่อง 14-15 เอ้า งง ทำไมไม่ได้สแกนนิ้วมือเหมือนคนอื่นอ่ะ เดินเข้าไปแบบ งงๆ
พอเข้าไป ก็ต่อแถวช่อง 14 เพราะมีคิวเดียว อากาศทำไมมันเย็นๆ วิเวกโหวกเหวกวังเวงโหวงหวาง แบบนี้ ถึงคิวแล้ว พนักงานผู้ชาย น่าจะคนไทยนะ ถามว่า
ไปทำอะไรครับ?
-ไปเที่ยวครับ
ไปกับใครครับ?
-ไปคนเดียวครับ
อ้าวทำไมไปคนเดียวละ?
-อ่อ ผมชวนเพื่อนแล้วครับ ไม่มีใครว่างเลยต้องไปคนเดียวและอีกอย่างชอบเที่ยวแบบแบคแพ็ค ด้วยคับ
อืมม....สแกนนิ้วมือครับ แล้วไปต่อช่องที่ 9 พร้อมคืนพาสปอร์ตและเอกสาร? คิดว่า หะ! ทำไมอ่ะ ไม่ผ่านหรอ เริ่มสั่นๆ
พอไปช่องที่ 9 ก้เจอฝรั่งสวยผมยาว ยื่นเอกสารให้ ก็ยิงบาร์โคต และก็บอกสแกนนิ้วมือแล้วไปต่อช่อง 13 เอ้า งง (สรุปสิให้สัมภาษณ์บ่ครับ คือไล่ไป ไล่มาแถะละ หนหวยแล้วเด้) บ่นพรำพรัมเป็นภาษาบ้านเกิด
พอมาช่องที่ 13 ต่อเป็นคนที่ 5 พอได้พัก แต่ก็ยืน งงๆ ว่าทำไมผมไม่ได้นั่งรอเหมือนคนอื่นๆที่มาก่อน แถมไปหลายช่องด้วยอ่ะ หรือว่าเราจะมีปัญหานะ คิดไปสารพัด ผ่านไปสามคนแถวก็สั้นลงๆ ยัง งง อยู่เหมือนเดิม เลยแอบกระซิบคนข้างหน้า ว่า พี่ๆครับผมขอถามอะไรหน่อยนะ ทำไมผมได้คิว 9 ร้อยกว่า และไม่ได้รอและไปสามช่อง? พี่เค้าเลยตอบว่า คนที่เคยถือวีซ่ามาก่อน จะเป้นแบบนี้แหละ ไม่มีอะไร เค้าอิงข้อมูลเดิมเป็นหลัก อ่อๆๆ จังซั่นติ อืมมม เข้าใจละ
ถึงคิวสักทีนะ ร่ำมายาวมาก ....คนสัมภาษณ์เป็นผู้หญิงเหมือนเป็นคนเอเชีย ก็พูดอังกฤษปนไทย นิดๆ ...
คุณจะไปทำอะไร กี่วัน? (พูดภาษาอังกฤษนะ)
-ไปเที่ยวครับ กะไว้ 2 อาทิตย์
ไปกับใคร?
-คนเดียวครับ
จะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง?
-วางแผนไว้จะไป นิวยอร์ค ฟิลาเดเฟีย และวอร์ชิงตันดีซี ถ้ามีเวลาพอ อยากไปน้ำตกไนแองกาล่า ด้วยคับ
คุณทำงานอะไร?
-ผมเป็นเจ้าของกิจการ......ที่ขอนแก่นครับ
มีใบรับรองหรือทะเบียนการค้าไหม?
-มีครับ นี่ครับ (ค้นหาแล้วยื่นตัวจริงให้)
แล้วมีรายต่อเดือนได้เท่าไหร่?
-ประมาณ 50,xxxx บาท ครับ
ขอดูสมุดบัญชีหน่อย?
-นี่ครับ ยื่นให้ 2 เล่มเลย SCB และ K-Bank ลายโดเรม่อน (สงสัยนางชอบโดเรม่อน ยิ้มใหญ่เลยบอกว่าสมุดน่ารักนะค่ะ) คิดในใจ สรุปจะดูเงินหรือดูโดเรม่อนนิ? พลิกไปมา! อ่อ เรามีเงินค้างบัญชี 2 เล่มรวมกัน ประมาณ 5xx,xxx กว่าบาทครับ
คุณกำลังศึกษาด้วยหรอ?
-ใช่ครับ กำลังศึกษา MBA.........ปีที่สองครับ นี่ครับหนังสือรับรอง
เคยไปต่างประเทศไหม?
-เคยไปล่าสุดเกาหลี ญี่ปุ่น ฮองกง จีน สิงค์โป และเวิคแอนทราเวล USA ปี 2008 ครับ
กิจการของคุณมีพนักงานกี่คน แล้วในระหว่าคุณไปเที่ยว ใครจะดุแลกิจการของคุณ?
-ทั้งหมด 15 คน และในระหว่างที่ไม่อยู่ก็คงต้องเซ็ตงานไว้ล่วงหน้า และให้พนักงานทำงานเพิ่มแล้วก็จ่าย OT ทดแทนครับ
ค่ะ ขอบคุณค่ะ ขอให้เที่ยวสนุกนะค่ะ ไปจ่ายค่าไปรษณีนะค่ะ (พร้อมยืดพาสปอร์ตและใบทะเบียนการค้าตัวจริงผมไป) เอ้า เบรอมั้ง
ผมเลือก มารับเองในวันต่อมาช่วงบ่าย เพราะใจร้อนอยากเห็นวีซ่า ก็สามารถมารับเองได้ที่ไปรษณี รองเมือง (แถวๆหลังจุฬา)
พอมารับบ่ายก็ได้รับซองเหลืองๆ ค่อยแกะค่อยๆลุ้น เอ้าใบอะไรนิ?? อ้อ นางแนบใบทะเบียนการค้าคืนมาด้วย ฮ่าๆๆ เอาไปหยังบ่ทราบ
สรุป 10 ปี ครับ เฮ้ๆๆๆ ฉลองๆๆ แต่ไม่รุจะไปเมื่อไหร่นะสิ นี่แระปัญหา ฮ่าๆ
แนะนำให้กรอกเอกสารเองหรือถ้าให้เอเจ่นหรือคนอื่นกรอก ต้องติวดีๆอ่านให้สอดคล้องกับกงศุลถาม
ถ้าผมเขียดผิดตรงไหน ก็ขออภัยด้วยนะคร้าบ โชคดีทุกท่านนะครับ