คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ผมคิดว่า้ต้องใช้สัญญาเดิม แล้วเขียนเพิ่มเติมแนบท้ายสัญญาประมาณว่า
1. ผู้ขายยินยอมให้ผู้ซื้อชำระเงินค่าบ้านในส่วนที่เหลืออีกจำนวน .......... บาท "โดยการแบ่งชำระเป็น 2 งวด"
คือ งวดที่ 1 ภายในวันที่ 3 ต.ค. 56 จำนวน 1,000,000 บาท
และ งวดที่ 2 ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 56 จำนวน ............. บาท (ที่เหลือ)
2. ในกรณีที่ผู้ซื้อผิดนัดชำระ ผู้ขายมีสิทธิ์จะยึดเงินที่ชำระมาแล้วทั้งหมด และจะไม่คืนเงินทุกกรณี
ถ้าแนบท้ายไปแบบนี้น่าจะใช้ได้ ถ้าผู้ซื้อผิดชำระไม่ต้องเสียในส่วนของ 1,000,000 บาทให้นายหน้าครึ่งหนึ่ง เพราะว่าไม่ใช้การมัดจำ แค่เป็นการผ่อนชำระค่าบ้านที่เหลือเฉยๆ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนเรื่องที่เจ้าของกระทู้กลัวว่า ผู้ซื้อ และ นายหน้าอาจเปลี่ยนใจไปซื้อหลังอื่นในหมู่บ้านที่มีราคาถูกกว่าประมาณ 700,000 บาท
อาจเกิดได้ก็คือ วันที่ 3 ต.ค. 56 ผู้ซื้อหายไปเลย หรือยกเลิกสัญญาเจ้าของกระทู้ก็ยึดเงินมัดจำ 230,000 บาท แบ่งกับนายหน้าครึ่งๆ ตรงนี้เซ็นต์สัญญาไปแล้วทำอะไรไม่ได้แล้ว
แต่ถ้าในวันที่ 3 ต.ค. 56 ผู้ซื้อมาวางเงินอีก 1,000,000 บาท ก็หายห่วงไม่มีทางที่ผู้ซื้อจะัเปลี่ยนใจไปซิ้อบ้านหลังอื่นที่ถูกกว่า 700,000 บาทแล้วแน่นอนครับ เพราะว่าผู้ซื้อยกเลิกเท่ากับต้องเสีย 1,230,000 บาท เพื่อไปซื้อบ้านที่ถูกกว่า 700,000 บาท ไม่น่าจะเป็นไปได้
1. ผู้ขายยินยอมให้ผู้ซื้อชำระเงินค่าบ้านในส่วนที่เหลืออีกจำนวน .......... บาท "โดยการแบ่งชำระเป็น 2 งวด"
คือ งวดที่ 1 ภายในวันที่ 3 ต.ค. 56 จำนวน 1,000,000 บาท
และ งวดที่ 2 ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 56 จำนวน ............. บาท (ที่เหลือ)
2. ในกรณีที่ผู้ซื้อผิดนัดชำระ ผู้ขายมีสิทธิ์จะยึดเงินที่ชำระมาแล้วทั้งหมด และจะไม่คืนเงินทุกกรณี
ถ้าแนบท้ายไปแบบนี้น่าจะใช้ได้ ถ้าผู้ซื้อผิดชำระไม่ต้องเสียในส่วนของ 1,000,000 บาทให้นายหน้าครึ่งหนึ่ง เพราะว่าไม่ใช้การมัดจำ แค่เป็นการผ่อนชำระค่าบ้านที่เหลือเฉยๆ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนเรื่องที่เจ้าของกระทู้กลัวว่า ผู้ซื้อ และ นายหน้าอาจเปลี่ยนใจไปซื้อหลังอื่นในหมู่บ้านที่มีราคาถูกกว่าประมาณ 700,000 บาท
อาจเกิดได้ก็คือ วันที่ 3 ต.ค. 56 ผู้ซื้อหายไปเลย หรือยกเลิกสัญญาเจ้าของกระทู้ก็ยึดเงินมัดจำ 230,000 บาท แบ่งกับนายหน้าครึ่งๆ ตรงนี้เซ็นต์สัญญาไปแล้วทำอะไรไม่ได้แล้ว
แต่ถ้าในวันที่ 3 ต.ค. 56 ผู้ซื้อมาวางเงินอีก 1,000,000 บาท ก็หายห่วงไม่มีทางที่ผู้ซื้อจะัเปลี่ยนใจไปซิ้อบ้านหลังอื่นที่ถูกกว่า 700,000 บาทแล้วแน่นอนครับ เพราะว่าผู้ซื้อยกเลิกเท่ากับต้องเสีย 1,230,000 บาท เพื่อไปซื้อบ้านที่ถูกกว่า 700,000 บาท ไม่น่าจะเป็นไปได้
แสดงความคิดเห็น
ปรึกษาเรื่องผู้ซื้อเลื่อนกำหนดวันโอนบ้านค่ะ (บ้านมือสองวางมัดจำแล้ว 230,000 บาท)
จขกท ขายบ้านเดี่ยวแถวแจ้งวัฒนะ ผ่านนายหน้า ผู้ซื้อมาวางเงินมัดจำไว้แล้ว 230,000 บาท (ในสัญญานายหน้าขอครึ่งหนึ่งถ้าผู้ซื้อไม่สามารถโอนได้ทันภายในกำหนดคะ)
จขกท ให้ระยะเวลาผู้ซื้อกู้แบงค์ 45 วัน ต้องโอนภายในวันที่ 3 ต.ค 56 ผ่านไป 3 สัปดาห์ลูกค้ายื่นเอกสารให้แบงค์ออมสินแต่ลูกค้าแจ้งว่าหาเงินมาโอนให้ไม่ทันเพราะกู้แบงค์ไม่ผ่าน จะขอเวลาไปขายที่ดินและจะขอยืดเวลาโอนบ้านออกไปถึงสิ้นปี 31 ธ.ค 56. (อีก 3 เดือนโดยประมาณ) โดยจะเอาเงินสดจำนวน 1,000,000 บาท มาวางเพิ่มในวันที่นัดโอนแทน (3 ต.ค 56)
จขกท ตัดสินใจไม่ถูกจึงอยากงรบกวนสอบถามผู้รู้ดังนี้ค่ะ
1. เงินที่เอามาวางเพิ่ม 1,000,000 จะเขียนในสัญญาใหม่ว่าเป็นเงินเพิ่มอะไร อย่างไรค่ะ ควรทำเป็นสัญญาแนบท้ายฉบับเดิมหรือเปล่าค่ะ?หรือฉีกสัญญาเก่าแล้วทำสัญญาใหม่ไปเลย?
2. เงิน 1,000,000 นี้ไม่อยากเขียนว่าค่ามัดจำกลัวนายหน้าจะขอมีส่วนร่วมคะ เพราะสัญญาที่ทำไว้นายหน้าขอมัดจำครึ่งหนึ่งค่ะ กลัวว่าถ้าสิ้นปีไปผู้ซื้อไม่มาโอนนายหน้าจะขอมีเอี่ยว 500,000 บาทด้วยอีกคะ
3. จขกท ควรเรียกอะไรเพิ่มเติมให้รัดกุม ไม่ให้เสียเปรียบนายหน้าและผู้ซื้อหรือเปล่าค่ะ เพราะกลัวว่า ผู้ซื้อ และ นายหน้าอาจเปลี่ยนใจไปซื้อหลังอื่นในหมู่บ้านที่มีราคาถูกกว่าประมาณ 700,000 บาทค่ะ
ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่สละเวลามาตอบคำถามให้นะค่ะ