เมื่อวานออกจากบ้านตั้งแต่11โมง เพื่อไปรอเพื่อนร่วมก๊วนที่คลับเฮ้าส์ของสนามงู สั่งข้าวราดแกงปลาดุกกับไข่ดาวมาจานหนึ่ง น้ำเปล่าอีกหนึ่งขวด เขาคิดราคาแค่ห้าสิบบาท นั่งที่คลับเฮ้าส์ของสนามอื่น ห้าสิบบาทนี่กินอะไรไม่ได้เลย นอกจากน้ำเปล่าสองขวด แต่ที่สนามงู นอกจากได้กินก๋วยเตี๋ยวหรือข้าวแกงรสชาติดีแล้ว อะไร ๆ ก็ขายให้ในราคาย่อมเยาว์ไปเสียหมด
ผมนั่งรอและฆ่าเวลาด้วยการอ่านหนังสือเล่มใหม่ของอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ เขาเขียนถึงการจาริกไปเดินที่อินเดีย อ่านด้วยความเพลิดเพลิน และสนุกสนานมาก คั่นด้วยการเหลือบมองพนักงานเสิร์ฟที่สวมเสื้อยืดสีส้มและกางเกงขาสั้นสีดำเป็นระยะ รู้สึกว่าพนักงานเสิร์ฟแต่ละคนหุ่นดี ผอมเพรียว เอวคอดกิ่วกันเสียทุกคน ครั้งก่อนมานั่งกับเพื่อนที่เป็นขาใหญ่ของที่นี่ พนักงานเสิร์ฟทุกคนต่างก็แวะเข้ามาสวัสดีทักทายพูดเล่นพูดหัวกันเป็นที่ครึกครื้น วันนี้เพื่อนคนเดิมไปต่างประเทศ ผมนั่งคนเดียวกับหนังสือเล่มหนึ่ง รู้สึกเหงานิด ๆ ไม่อยากให้ใครมาก้อร้อก็อติกหรอก แต่ชอบเห็นเวลาเพื่อนต่อปากต่อคำกับสาวน้อยเหล่านี้ รู้สึกว่าเขาเก่ง ที่สามารถหาถ้อยคำแปลก ๆ มาต่อกรกับพวกเธอได้ไม่จนมุม
นั่งอยู่เกือบชั่วโมง เพื่อน ๆ ก็ทะยอยมาถึง มาแล้วก็รีบสั่งก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูมากินก่อน กินอิ่ม จ่ายเงินและเข้าห้องแต่งตัวเปลียนเสื้อผ้า ลงสนามเอาตอนบ่ายโมงแปดนาที
วันนี้ผมไม่ได้สนใจเครื่องบิน ไม่ได้เอากล้องมาบันทุกภาพ ตั้งใจจะเล่นให้ดีกว่าครั้งที่แล้ว แต่นั่นแหละ เหมือนที่หลายคนว่ากอล์ฟมันเป็นเกมของความไม่แน่นอน บางวันดี บางวันไม่ดี เพื่อนนักกอล์ฟรุ่นใหญ่ก็เคยพูดกรอกหูว่า กอล์ฟนั้นดีเป็นวัน ๆ ไม่ใช่ดีทุกวัน
เพราะความตั้งใจเล่นของผมทำให้สกอร์ขยับขึ้นสูงจนหงุดหงิด พาร์สามฟาดไปหก พาร์สี่ล่อไปแปด เก้าหลุมแรก ไม่อยากนับคะแนน รู้สึกหงุดหงิด เพื่อนคนหนึ่งถามว่า เกิดอะไรขึ้นทำไมตีเหมือนเด็กหัดใหม่ ผมรู้ว่าเขาแกล้งแหย่ แต่ก็ไม่ได้ตอบ ใจก็นึกว่า เพราะแดดร้อนมากนี่แหละ
เมื่อวานแดดแรงมาก อุณภูมิไม่น่าจะต่ำกว่าสามสิบห้าองศา แต่เก้าหลุมหลัง เมฆฝนเริ่มก่อตัว อากาศเย็นลง มีลมพัดเป็นระยะ ผมก็เล่นดีขึ้น ไม่ได้พาร์ แต่ก็สามารถรักษาโบกี้ไว้ได้ทุกหลุม ความสขก็พุ่งกระฉูด นึกรักกอล์ฟขึ้นอีกเป็นพะเรอเกวียน
จบหลุมสิบแปด ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก เข้าไปอาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้า และออกมานั่งที่ร้านอาหารในคลับเฮ้าส์ สั่งเนื้อตุ๋นมาหม้อหนึ่ง ยำเนื้ออีกจาน เส้นใหญ่ราดหน้าอีกหนึ่ง นั่งกินไปคุยกันไปเรื่อยเปื่อย วันอาทิตย์นี้นัดพบกันอีกที่สนามบางกอล์ฟคลับ จะชวนน้องนักเขียนคนหนึ่งไปแจมด้วย ฟังเขาเล่าให้ฟังว่า เพิ่งไปเล่นที่พลูตาหลวงมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำสะกอร์ได้สี่สิบหก ได้ยินแล้วก็อยากเห็นฝีมือ
ฝนหยุดตกเอาตอนสามทุ่ม เราลุกจากโต๊ะ และก็แยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน
วันนี้ไม่ได้ตื่นเต้นกับการขึ้นลงของเครื่องบินอีก
ขนาดบินผ่านหัว ก็ยังก้มหน้าก้มตาพัตต์ลูกให้ลงหลุมเฉยเลย
ไปสนามงู ไม่ดูเครื่องบิน
ผมนั่งรอและฆ่าเวลาด้วยการอ่านหนังสือเล่มใหม่ของอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ เขาเขียนถึงการจาริกไปเดินที่อินเดีย อ่านด้วยความเพลิดเพลิน และสนุกสนานมาก คั่นด้วยการเหลือบมองพนักงานเสิร์ฟที่สวมเสื้อยืดสีส้มและกางเกงขาสั้นสีดำเป็นระยะ รู้สึกว่าพนักงานเสิร์ฟแต่ละคนหุ่นดี ผอมเพรียว เอวคอดกิ่วกันเสียทุกคน ครั้งก่อนมานั่งกับเพื่อนที่เป็นขาใหญ่ของที่นี่ พนักงานเสิร์ฟทุกคนต่างก็แวะเข้ามาสวัสดีทักทายพูดเล่นพูดหัวกันเป็นที่ครึกครื้น วันนี้เพื่อนคนเดิมไปต่างประเทศ ผมนั่งคนเดียวกับหนังสือเล่มหนึ่ง รู้สึกเหงานิด ๆ ไม่อยากให้ใครมาก้อร้อก็อติกหรอก แต่ชอบเห็นเวลาเพื่อนต่อปากต่อคำกับสาวน้อยเหล่านี้ รู้สึกว่าเขาเก่ง ที่สามารถหาถ้อยคำแปลก ๆ มาต่อกรกับพวกเธอได้ไม่จนมุม
นั่งอยู่เกือบชั่วโมง เพื่อน ๆ ก็ทะยอยมาถึง มาแล้วก็รีบสั่งก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูมากินก่อน กินอิ่ม จ่ายเงินและเข้าห้องแต่งตัวเปลียนเสื้อผ้า ลงสนามเอาตอนบ่ายโมงแปดนาที
วันนี้ผมไม่ได้สนใจเครื่องบิน ไม่ได้เอากล้องมาบันทุกภาพ ตั้งใจจะเล่นให้ดีกว่าครั้งที่แล้ว แต่นั่นแหละ เหมือนที่หลายคนว่ากอล์ฟมันเป็นเกมของความไม่แน่นอน บางวันดี บางวันไม่ดี เพื่อนนักกอล์ฟรุ่นใหญ่ก็เคยพูดกรอกหูว่า กอล์ฟนั้นดีเป็นวัน ๆ ไม่ใช่ดีทุกวัน
เพราะความตั้งใจเล่นของผมทำให้สกอร์ขยับขึ้นสูงจนหงุดหงิด พาร์สามฟาดไปหก พาร์สี่ล่อไปแปด เก้าหลุมแรก ไม่อยากนับคะแนน รู้สึกหงุดหงิด เพื่อนคนหนึ่งถามว่า เกิดอะไรขึ้นทำไมตีเหมือนเด็กหัดใหม่ ผมรู้ว่าเขาแกล้งแหย่ แต่ก็ไม่ได้ตอบ ใจก็นึกว่า เพราะแดดร้อนมากนี่แหละ
เมื่อวานแดดแรงมาก อุณภูมิไม่น่าจะต่ำกว่าสามสิบห้าองศา แต่เก้าหลุมหลัง เมฆฝนเริ่มก่อตัว อากาศเย็นลง มีลมพัดเป็นระยะ ผมก็เล่นดีขึ้น ไม่ได้พาร์ แต่ก็สามารถรักษาโบกี้ไว้ได้ทุกหลุม ความสขก็พุ่งกระฉูด นึกรักกอล์ฟขึ้นอีกเป็นพะเรอเกวียน
จบหลุมสิบแปด ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก เข้าไปอาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้า และออกมานั่งที่ร้านอาหารในคลับเฮ้าส์ สั่งเนื้อตุ๋นมาหม้อหนึ่ง ยำเนื้ออีกจาน เส้นใหญ่ราดหน้าอีกหนึ่ง นั่งกินไปคุยกันไปเรื่อยเปื่อย วันอาทิตย์นี้นัดพบกันอีกที่สนามบางกอล์ฟคลับ จะชวนน้องนักเขียนคนหนึ่งไปแจมด้วย ฟังเขาเล่าให้ฟังว่า เพิ่งไปเล่นที่พลูตาหลวงมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำสะกอร์ได้สี่สิบหก ได้ยินแล้วก็อยากเห็นฝีมือ
ฝนหยุดตกเอาตอนสามทุ่ม เราลุกจากโต๊ะ และก็แยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน
วันนี้ไม่ได้ตื่นเต้นกับการขึ้นลงของเครื่องบินอีก
ขนาดบินผ่านหัว ก็ยังก้มหน้าก้มตาพัตต์ลูกให้ลงหลุมเฉยเลย