รีโพสกระทู้ จากที่โพสในห้องสยามไปเมื่อเช้าค่ะ
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เราขอสมมติชื่อตัวเองว่า ชมพู และขออนุญาตเรียกแทนตัวเองว่า ชม นะคะ หน้าตาสวยแล้ว ขอชื่อสวยๆเหมือนดาราในดวงใจบ้าง คงไม่ว่ากันนะ ...
วันนี้ชมอยากมาเล่าประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัย สมัยที่ชมเรียนอยู่ปี1ค่ะ ..ซึ่งชมไม่รู้จะจัดว่ามันเป็นเรื่องความรักของสาวสวยแรกแย้ม เรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิต หรือเรื่องตลกโปกฮาจากชิงร้อยชิงล้าน ดีนะคะเพื่อนๆ
ตอนนั้นชมเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัย เป็นมหา'ลัยรัฐแห่งหนึ่งค่ะ เพื่อนๆคงนึกภาพออกใช่ไหมคะ ช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ มักจะมีกิจกรรมมากมาย ให้เฟรชชี่อย่างเราๆมาทำความรู้จักกัน บางกิจกรรมก็รู้สึกประหนึ่งเล่นรายการ take me out อยู่ยังไงยังงั้นแหนะค่ะ ... วันนั้น ชมเข้าร่วมกิจกรรมของคณะ ซึ่งมีรุ่นพี่ชายหญิงมาเป็นmc..หากเป็นสมัยนี้ชมมโนภาพประหนึ่งคุณกาละแมร์ยืนเคียงข้างน้าเน็คอย่างงั้นเลยค่ะ ทั้งคู่มาบอกเล่ากติกาให้เหล่าน้องๆเฟรชชีหน้าใสฟัง กติกามีอยู่ว่า ให้พวกเราใช้โทรศัพท์โทรหาเพื่อนในคณะคนไหนก็ได้ เพื่อแพร่เชื้อผีปอบค่ะ ใช่ค่ะ! เพื่อนๆฟังไม่ผิด กิจกรรมแสนสนุกนี่ให้ชมและเพื่อนหน้าใสเล่นแพร่เชื้อปอบค่ะทุกคน โดยมีข้อแม้ว่า ต้องแพร่เชื้อให้เพศตรงข้ามเท่านั้นนะคะคุณขา เมื่อใครก็ตามที่ได้รับโทรศัพท์จากคนที่เป็นผีปอบก็ต้องกลายเป็นปอบแทน...
ชมนั่งเท้าคางพร้อมกลอกลูกตาซ้ายขวาบนล่างสลับกันไป พรางคิดในใจ..ชั้นคงไม่โดนใครสุ่มโทรมาแพร่เชื้ออะไรนั่นหรอกนะ เฮอะ! ว่าแล้วก็สะบัดบ๊อบสอดส่ายมองหาหนุ่มหล่อในคณะต่อไป... วันเวลาผ่านไป 1อาทิตย์ ระหว่างนั้นชมก็ใช้ชีวิตตามประสาเฟรชชี่สวยๆไปวันๆค่ะ โดยลืมเรื่องผีปอบบ้าบอนั่นไปสนิท... แล้ววันนึง ในขณะที่ชมเข้าเรียนวิชาหนึ่ง ซึ่งต้องเรียนรวมในห้องประชุมใหญ่ และจัดที่นั่งตามเลขทะเบียนนักศึกษา วันนั้นชมเหมือนคนถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเลยค่ะเพื่อนๆ หลังจากที่สวดมนต์ภาวนาทุกคืนก่อนนอน ว่าให้ชมได้นั่งข้างหนุ่มหล่อขาวตี๋เกาหลี ด้วยเถิ๊ดด และแล้วสวรรค์ก็เมตตาเฟรชชี่จิตใจงามอย่างชม ส่งพ่อเทพบุตรสุดหล่อโลกตะลึงมานั่งข้างๆชมค่ะ วันนั้นชมจิตใจเต้นไม่เป็นส่ำ ในสมองไม่มีเรื่องเรียนอยู่เลยแม้แต่น้อย มันวนเวียนอยู่แต่กับพ่อเทพบุตรข้างๆค่ะ
.... พอถึงช่วงพัก เวลาที่ชมรอคอยก็มาถึง ชมชม้อยสายตาพอเป็นพิธี ตามประสาหญิงไทยใจงาม จนพ่อรูปงามทนไม่ไหว เลยต้องหันมาทักทายชม...วินาทีนั้นเหมือนโลกหยุดหมุน ชมตื่นเต้นเหงื่อกาฬแตก เหมือนไปเต้นแอโรบิคต่อด้วยโยคะร้อนเลยค่ะ เราคุยหยอกล้อกันตามประสาข้าวใหม่ปลามัน (!?) ...แหม ล้อเล่นค่ะ เราก็คุยเรื่องทั่วไปแหละค่ะ ได้ความว่าเขามาจากโรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง
เชื่อไหมคะเพื่อนๆ หลังจากนั้น ชมกลับมาที่หอชมได้แต่นั่งคิดถึงพ่อรูปงามคนเดิมประหนึ่งเหมือนชมโดนพรากความบริสุทธิ์ไปเลยละค่ะ อ้อ! ลืมบอกไป สมมติว่าเขาชื่อวิลล่ี ละกันนะคะ (ไม่ต้องสงสัยค่ะ ชื่อสามีชมในอุดมคติเองค่ะเพื่อนๆ)
เวลาผ่านไปสามวัน ชมก็ยังละเมอเพ้อพกถึงเทพบุตรวิลลี่ ผู้พรากความบริสุทธิ์ไปจากจิตใจชม..จนกระทั่งบ่ายวันหนึ่ง โทรศัพท์ชมก็มีเบอร์แปลกหน้าโทรเข้ามา
ชม: ฮัลโหลค่ะ
? : สวัสดีครับ ชมพูหรือเปล่าครับ?
ชม (เอียงคอสงสัยเล็กน้อย เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยมีผู้ชายโทรหา) : ใช่ค่ะ
? : ชมพู จำเราได้ไหม วิลลี่เองนะ ที่เราเรียน.. ด้วยกันวันก่อนไง
ชม: ......... /ตีลังกาหน้า ตามด้วยม้วนหลังสามตลบ พร้อมเต้นปอมปอมเชียร์ด้วยความตกใจ.... อะ อะ เอ่อ ชะ ใช่ ใช่จ๊ะ ชมเอง
วิลลี่ : ชมเรียนอยู่หรอ ไม่สะดวกคุยหรือเปล่า เดี๋ยวเราโทรไปใหม่ก็ได้นะ
ชม (กำลังคุกเข่าด้วยความปลาบปลื้มอยู่ที่พื้นกลางโรงอาหาร) : เฮ้ยยย ปะปะ เปล่าๆๆ คะคะคุยได้ ชมอยู่หอ ว่างจ้ะ ว่างมากๆเลย
วิลลี่ : ...ถามนู่นถามนี่ บลาๆๆ 2-3 ประโยค
ชม (ไม่ค่อยได้สนใจฟังเท่าไร ในใจวาดฝันถึงร้านเวดดิ้งแพลนเรียบร้อย)
.... สุดท้ายหลังจากสนทนาไป 5 นาที
วิลลี่ : ชม เรามีอะไรจะบอกชม
ชม : O.O กลั้นหายใจ พรางกวักมือเรียกเพื่อนมาช่วยพยุง พร้อมคิดถึงอนาคตของเราในวันหน้า
วิลลี่ : คือว่า.. (พูดรัวเร็ว) เราเป็นปอบนะชม ชมจำได้ใช่ไหมที่คณะให้เล่นเกมส์ตั้งแต่วันแรกน่ะ เรา
ไม่รู้จักใครเลย เราเป็นปอบมา 3 วันแล้ว ดีใจมากเลยที่เจอชมพอดี ตอนนี้ชมเป็นปอบแทนเราแล้วนะ
ชม(ลุกขึ้นยืนด้วยแรงดีดเต็มอัตรา) : เ-ี้ยเอ้ย (สบถเบาๆ) อ๋อออ จำได้สิวิลลี่ แหม เล่นกันง่ายๆแบบนี้เลยนะ
วิลลี่ : แหะๆ โอเค งั้นเราไปเรียนก่อนนะ ไว้เจอกันอาทิตย์หน้านะชม
ชม : จ๊ะ / ในใจนึกถึงแต่หน้ายัยรุ่นพี่กาละแมร์คนนั้น พร้อมเดินกลับหอด้วยสภาพเหมือนหญิงโดนรุมโทรม
...... ค่ะ ในที่สุดชมก็ได้เป็นปอบสมใจจนได้นะคะ แต่หลังจากนั้น 1 วัน ด้วยเสน่ห์อันแพรวพราวของชม ชมก็หลอกล่อหนุ่มในคณะแพร่เชื้อปอบไปได้ค่ะ
แต่เรื่องระหว่างพ่อวิลลี่รูปงามและชม ยังไม่จบแค่นั้นนะคะ หลังจากนั้นเราเจอกันในห้องเรียนรวมเกือบทุกอาทิตย์ค่ะ (บางอาทิตย์ไม่ได้เจอ เพราะเขาโดดไม่ยอมเข้า ส่วนชมเหรอคะ แหม ถึงป่วยเจียนตายก็ต้องหอบสังขารไปให้ได้แน่นอนค่ะเพื่อนๆ)
วิลลี่เป็นผู้ชายที่อัธยาศัยดีมาก เป็นสุภาพบุรุษชนมากที่สุดคนหนึ่ง ตั้งแต่ชมเคยพบมาเลยค่ะ (เอ่อ คือชมไม่ได้เจอใครมากหรอกค่ะ ชมจบโรงเรียนหญิงล้วน และยังไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย) รายละเอียดช่วงนี้ชมต้องข้ามไปนะคะ เพราะไม่มีอะไรนอกจาก เจอกันในห้องเรียน คุยเรื่องงานกลุ่ม ถามเรื่องเรียน ไอ้พวกโทรคุย หรือเจอนอกห้องเรียนยังไม่มีให้ชมดีใจเก้อแล้วหละค่ะ
วันเวลาของชมเดินไปอย่างเชื่องช้ายิ่งกว่าเต่าขาขาดเดินข้ามถนนอีกค่ะ ชมนั่งนับวันรอให้ถึงวันที่จะได้มาเรียนวิชานี้เร็วๆ ความสัมพันธ์ระหว่างชมและวิลลี่ยังไม่มีอะไรเดินหน้าดังที่ชมวาดวิมานเอาไว้ จนวันหนึ่งอาจารย์มอบหมายงานกลุ่มเราสองคนได้อยู่กลุ่มเดียวกัน ในกลุ่มมี5-6คนค่ะ แต่เพื่อนคนอื่นจะไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไร เพราะชมสถาปนาตนเองขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่ม โดยมีวิลลี่เป็นเลขาคู่หู..ค่ะ เพื่อนๆฟังไม่ผิดหรอกค่ะ (จริงๆก็ไม่ได้เป็นคนรับผิดชอบหรอกนะคะ แต่นั่นเป็นหนทางเดียวที่จะพาชมเดินตามฝันเข้าบ้านเอเอฟ!? คือ ชมกะใช้เรื่องงานมาบังหน้าในการสานสัมพันธ์เพื่อพิชิตสี่ห้องหัวใจของวิลลี่ค่ะ บอกตามตรงเลย)
.... หลังจากนั้น ชมเหมือนเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ประจำกลุ่มค่ะ ชมรับอาสาเพื่อนทุกคนโทรประสานงาน เวลานัดแนะกันออกมาทำงาน.. ใช่แล้วค่ะ มันคือข้ออ้างในการโทรหาวิลลี่ ทุกครั้งที่โทร ชมก็จะสอดแทรก ถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ตามประสาสาวสวย!? อัธยาศัยดี........ แต่น่าเศร้านะคะ วิลลี่ไม่เคยออกนอกเรื่องบ้างเลยค่ะ แหม พ่อคนจริงจัง พ่อเอาการเอางาน หึ! แต่ไม่เป็นไรค่ะ โชคดีที่ชมเป็นคนไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เราก็โทรคุยเรื่องงานไปเรื่อยๆ
คราวนี้เวลากลับเดินเร็วอย่างกับเสือชีต้าร์ขี่เครื่องบินไอพ่นเลยนะคะ และแล้วก็ถึงวันที่ชมไม่อยากให้มาถึงจนได้...ถึงวันพรีเซ้นท์งานแล้วค่ะ ชมตระหนักดีว่าช่วงเวลาโรแมนติก(!?)ของเรากำลังจะหมดลงแล้วค่ะ... วันนั้นชมเดินออกมาจากหอด้วยดวงตาลึกโบ๋ ขอบตาดำคล้ำเหมือนซากศพที่ขุดจากบ่อน้ำ... เปล่าค่ะ ชมไม่ได้ทำรายงานทั้งคืนจนไม่ได้นอนหรอกนะคะ แต่ชมนอน-ีนก่ายหน้าผากคิดหาวิธีที่จะได้คุยกับวิลลี่หลังจากโปรเจ็คชิ้นนี้เสร็จค่ะ T^T และแล้วด้วยความอ่อนต่อโลกและความเป็นคนใสๆของชม ชมคิดไม่ออกค่ะเพื่อนๆ
แต่แล้วหลังจากนั้นไม่นาน คงเป็นเพราะบุญเก่าที่หนุนนำชมมาแต่ชาติปางก่อน หรือเป็นเพราะโชคชะตา พรหมลิขิตหรืออะไรก็ไม่ทราบนะคะ ทำให้ชมกับวิลลี่โคจรมาพบกันอีก แหม อย่างกับพระ-นางในเรื่องรักปาฏิหารย์เลยนะคะเพื่อนๆ...ที่คณะชมมีกิจกรรมอีกแล้วค่ะ แต่ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดนะคะ ปอบเปิบบ้าบอไม่มีแล้วค่ะ คราวนี้เป็นกิจกรรมสาระล้วนๆ รายละเอียดขอข้ามนะคะ ซึ่งวิลลี่ได้รับเลือกให้เป็น 1ในตัวแทนของคณะในการไปเผยแพร่ข้อมูลต่างๆของงานนี้ค่ะ ส่วนชม ชมทำหน้าที่อื่นค่ะ แต่ทุกครั้งเวลาออกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ เราก็จะไปกันเป็นทีม..ทุกครั้งที่ออกไปทำงานนอกมหา'ลัย ชมจินตนการประหนึ่งเหมือนเราไปฮันนีมูนยังไงยังงั้นเลยค่ะ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขสุดๆเลยหละค่ะ เหมือนเราได้เจอเพื่อนที่คุ้นเคยกันดี เลยสนิทกันกว่าคนอื่นๆ แต่ก็ไม่มีอะไรเกินเลยไปนอกจากเพื่อนร่วมงานค่ะ ( แต่สำหรับชม..คงเกินไปถึงเพื่อนร่วมชีวิตแล้วละมังคะ?!)
.....กิจกรรมที่ว่านานพอสมควรค่ะ กินเวลาถึง 2เดือน นานพอที่จะทำให้ชมรู้สึกคลั่งไคล้ในความเป็น gentleman ของวิลลี่เอามากๆ (ก่อนหน้านั้น ชมเปล่าคลั่งไคล้เลยนะคะ ชมเห็นวิลลี่เป็นแค่เพื่อน (?!) จริงๆค่ะ ) ... ในที่สุด ชมทนเก็บไว้คนเดียวไม่ได้อีกต่อไปค่ะ ชมป่าวประกาศบอกดินบอกฟ้า กู่ร้องก้องมหาลัย! เอ่ออ ไม่ใช่ค่ะๆ ชมแค่เล่าให้เพื่อนสนิทฟังค่ะ ก็ไม่มากนะคะ ในกลุ่มก็ 6-7คน เท่านั้นเอง(!?)จ้าาา
เพื่อนชมไม่มีใครออกความคิดเห็นใดๆ หรืออาสามาเป็นกามเทพช่วยเหลือชมเลยค่ะ น่ารักกันทั้งนั้นเลย จนในที่สุด พิษรักมันแน่น-อก ชมทนไม่ไหวอีกต่อไป ชมเลยตัดสินใจโทรหาวิลลี่ ... แหะๆ ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดค่ะ บอกแล้วไงคะว่าชมเป็นหญิงอ่อนต่อโลก ทำทุกอย่างด้วยความใสซื่อ ไม่มีอะไรแอบแฝงเลยค่ะ......... ชมโทรไปขอยืมหนังสือวิลลี่ค่ะ พร้อมกับนัดแนะเวลาสถานที่ (ชมพยายามนึกถึงสถานที่ที่ล่อแหลมมากที่สุด เพื่อจะได้ทำกิจกรรมอื่นกันด้วยไงคะ) ค่ะ ชมนัดวิลลี่มาเจอกันที่ห้องสมุด เราตัดสินใจอ่านหนังสือกันต่อค่ะ...กิจกรรมยามค่ำคืนของเราดำเนินไปจนถึงเที่ยงคืน ห้องสมุดปิดค่ะ...วิลลี่ปั่นจักรยานมาส่งชมที่หอ วินาทีนั้นชมนึกว่าตัวเองเป็นน้อยหน่าในเรื่องแฟนฉัน กำลังซ้อนจักรยานเจี๊ยบอย่างโรแมนติกสุดๆเลยค่ะ ชมนั่งหลับตาพริ้มประหนึ่งล่องลอยอยู่บนปุยเมฆไปจนถึงหอ
เดทเล็กๆกึ่งตั้งใจ(วางแผน) ของชมจบลง แต่หนังจบอารมณ์ไม่จบ คืนนั้นชมนอนวาดวิมานอีกแล้วค่ะ นอนยิ้มไปจนหลับไปตอนไหนก็ไม่ทราบนะคะ
[เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย] มันเป็นความรัก หรือเรื่องตลก? (เขียนจบแล้วค่ะ)
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เราขอสมมติชื่อตัวเองว่า ชมพู และขออนุญาตเรียกแทนตัวเองว่า ชม นะคะ หน้าตาสวยแล้ว ขอชื่อสวยๆเหมือนดาราในดวงใจบ้าง คงไม่ว่ากันนะ ...
วันนี้ชมอยากมาเล่าประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัย สมัยที่ชมเรียนอยู่ปี1ค่ะ ..ซึ่งชมไม่รู้จะจัดว่ามันเป็นเรื่องความรักของสาวสวยแรกแย้ม เรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิต หรือเรื่องตลกโปกฮาจากชิงร้อยชิงล้าน ดีนะคะเพื่อนๆ
ตอนนั้นชมเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัย เป็นมหา'ลัยรัฐแห่งหนึ่งค่ะ เพื่อนๆคงนึกภาพออกใช่ไหมคะ ช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ มักจะมีกิจกรรมมากมาย ให้เฟรชชี่อย่างเราๆมาทำความรู้จักกัน บางกิจกรรมก็รู้สึกประหนึ่งเล่นรายการ take me out อยู่ยังไงยังงั้นแหนะค่ะ ... วันนั้น ชมเข้าร่วมกิจกรรมของคณะ ซึ่งมีรุ่นพี่ชายหญิงมาเป็นmc..หากเป็นสมัยนี้ชมมโนภาพประหนึ่งคุณกาละแมร์ยืนเคียงข้างน้าเน็คอย่างงั้นเลยค่ะ ทั้งคู่มาบอกเล่ากติกาให้เหล่าน้องๆเฟรชชีหน้าใสฟัง กติกามีอยู่ว่า ให้พวกเราใช้โทรศัพท์โทรหาเพื่อนในคณะคนไหนก็ได้ เพื่อแพร่เชื้อผีปอบค่ะ ใช่ค่ะ! เพื่อนๆฟังไม่ผิด กิจกรรมแสนสนุกนี่ให้ชมและเพื่อนหน้าใสเล่นแพร่เชื้อปอบค่ะทุกคน โดยมีข้อแม้ว่า ต้องแพร่เชื้อให้เพศตรงข้ามเท่านั้นนะคะคุณขา เมื่อใครก็ตามที่ได้รับโทรศัพท์จากคนที่เป็นผีปอบก็ต้องกลายเป็นปอบแทน...
ชมนั่งเท้าคางพร้อมกลอกลูกตาซ้ายขวาบนล่างสลับกันไป พรางคิดในใจ..ชั้นคงไม่โดนใครสุ่มโทรมาแพร่เชื้ออะไรนั่นหรอกนะ เฮอะ! ว่าแล้วก็สะบัดบ๊อบสอดส่ายมองหาหนุ่มหล่อในคณะต่อไป... วันเวลาผ่านไป 1อาทิตย์ ระหว่างนั้นชมก็ใช้ชีวิตตามประสาเฟรชชี่สวยๆไปวันๆค่ะ โดยลืมเรื่องผีปอบบ้าบอนั่นไปสนิท... แล้ววันนึง ในขณะที่ชมเข้าเรียนวิชาหนึ่ง ซึ่งต้องเรียนรวมในห้องประชุมใหญ่ และจัดที่นั่งตามเลขทะเบียนนักศึกษา วันนั้นชมเหมือนคนถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเลยค่ะเพื่อนๆ หลังจากที่สวดมนต์ภาวนาทุกคืนก่อนนอน ว่าให้ชมได้นั่งข้างหนุ่มหล่อขาวตี๋เกาหลี ด้วยเถิ๊ดด และแล้วสวรรค์ก็เมตตาเฟรชชี่จิตใจงามอย่างชม ส่งพ่อเทพบุตรสุดหล่อโลกตะลึงมานั่งข้างๆชมค่ะ วันนั้นชมจิตใจเต้นไม่เป็นส่ำ ในสมองไม่มีเรื่องเรียนอยู่เลยแม้แต่น้อย มันวนเวียนอยู่แต่กับพ่อเทพบุตรข้างๆค่ะ
.... พอถึงช่วงพัก เวลาที่ชมรอคอยก็มาถึง ชมชม้อยสายตาพอเป็นพิธี ตามประสาหญิงไทยใจงาม จนพ่อรูปงามทนไม่ไหว เลยต้องหันมาทักทายชม...วินาทีนั้นเหมือนโลกหยุดหมุน ชมตื่นเต้นเหงื่อกาฬแตก เหมือนไปเต้นแอโรบิคต่อด้วยโยคะร้อนเลยค่ะ เราคุยหยอกล้อกันตามประสาข้าวใหม่ปลามัน (!?) ...แหม ล้อเล่นค่ะ เราก็คุยเรื่องทั่วไปแหละค่ะ ได้ความว่าเขามาจากโรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง
เชื่อไหมคะเพื่อนๆ หลังจากนั้น ชมกลับมาที่หอชมได้แต่นั่งคิดถึงพ่อรูปงามคนเดิมประหนึ่งเหมือนชมโดนพรากความบริสุทธิ์ไปเลยละค่ะ อ้อ! ลืมบอกไป สมมติว่าเขาชื่อวิลล่ี ละกันนะคะ (ไม่ต้องสงสัยค่ะ ชื่อสามีชมในอุดมคติเองค่ะเพื่อนๆ)
เวลาผ่านไปสามวัน ชมก็ยังละเมอเพ้อพกถึงเทพบุตรวิลลี่ ผู้พรากความบริสุทธิ์ไปจากจิตใจชม..จนกระทั่งบ่ายวันหนึ่ง โทรศัพท์ชมก็มีเบอร์แปลกหน้าโทรเข้ามา
ชม: ฮัลโหลค่ะ
? : สวัสดีครับ ชมพูหรือเปล่าครับ?
ชม (เอียงคอสงสัยเล็กน้อย เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยมีผู้ชายโทรหา) : ใช่ค่ะ
? : ชมพู จำเราได้ไหม วิลลี่เองนะ ที่เราเรียน.. ด้วยกันวันก่อนไง
ชม: ......... /ตีลังกาหน้า ตามด้วยม้วนหลังสามตลบ พร้อมเต้นปอมปอมเชียร์ด้วยความตกใจ.... อะ อะ เอ่อ ชะ ใช่ ใช่จ๊ะ ชมเอง
วิลลี่ : ชมเรียนอยู่หรอ ไม่สะดวกคุยหรือเปล่า เดี๋ยวเราโทรไปใหม่ก็ได้นะ
ชม (กำลังคุกเข่าด้วยความปลาบปลื้มอยู่ที่พื้นกลางโรงอาหาร) : เฮ้ยยย ปะปะ เปล่าๆๆ คะคะคุยได้ ชมอยู่หอ ว่างจ้ะ ว่างมากๆเลย
วิลลี่ : ...ถามนู่นถามนี่ บลาๆๆ 2-3 ประโยค
ชม (ไม่ค่อยได้สนใจฟังเท่าไร ในใจวาดฝันถึงร้านเวดดิ้งแพลนเรียบร้อย)
.... สุดท้ายหลังจากสนทนาไป 5 นาที
วิลลี่ : ชม เรามีอะไรจะบอกชม
ชม : O.O กลั้นหายใจ พรางกวักมือเรียกเพื่อนมาช่วยพยุง พร้อมคิดถึงอนาคตของเราในวันหน้า
วิลลี่ : คือว่า.. (พูดรัวเร็ว) เราเป็นปอบนะชม ชมจำได้ใช่ไหมที่คณะให้เล่นเกมส์ตั้งแต่วันแรกน่ะ เรา
ไม่รู้จักใครเลย เราเป็นปอบมา 3 วันแล้ว ดีใจมากเลยที่เจอชมพอดี ตอนนี้ชมเป็นปอบแทนเราแล้วนะ
ชม(ลุกขึ้นยืนด้วยแรงดีดเต็มอัตรา) : เ-ี้ยเอ้ย (สบถเบาๆ) อ๋อออ จำได้สิวิลลี่ แหม เล่นกันง่ายๆแบบนี้เลยนะ
วิลลี่ : แหะๆ โอเค งั้นเราไปเรียนก่อนนะ ไว้เจอกันอาทิตย์หน้านะชม
ชม : จ๊ะ / ในใจนึกถึงแต่หน้ายัยรุ่นพี่กาละแมร์คนนั้น พร้อมเดินกลับหอด้วยสภาพเหมือนหญิงโดนรุมโทรม
...... ค่ะ ในที่สุดชมก็ได้เป็นปอบสมใจจนได้นะคะ แต่หลังจากนั้น 1 วัน ด้วยเสน่ห์อันแพรวพราวของชม ชมก็หลอกล่อหนุ่มในคณะแพร่เชื้อปอบไปได้ค่ะ
แต่เรื่องระหว่างพ่อวิลลี่รูปงามและชม ยังไม่จบแค่นั้นนะคะ หลังจากนั้นเราเจอกันในห้องเรียนรวมเกือบทุกอาทิตย์ค่ะ (บางอาทิตย์ไม่ได้เจอ เพราะเขาโดดไม่ยอมเข้า ส่วนชมเหรอคะ แหม ถึงป่วยเจียนตายก็ต้องหอบสังขารไปให้ได้แน่นอนค่ะเพื่อนๆ)
วิลลี่เป็นผู้ชายที่อัธยาศัยดีมาก เป็นสุภาพบุรุษชนมากที่สุดคนหนึ่ง ตั้งแต่ชมเคยพบมาเลยค่ะ (เอ่อ คือชมไม่ได้เจอใครมากหรอกค่ะ ชมจบโรงเรียนหญิงล้วน และยังไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย) รายละเอียดช่วงนี้ชมต้องข้ามไปนะคะ เพราะไม่มีอะไรนอกจาก เจอกันในห้องเรียน คุยเรื่องงานกลุ่ม ถามเรื่องเรียน ไอ้พวกโทรคุย หรือเจอนอกห้องเรียนยังไม่มีให้ชมดีใจเก้อแล้วหละค่ะ
วันเวลาของชมเดินไปอย่างเชื่องช้ายิ่งกว่าเต่าขาขาดเดินข้ามถนนอีกค่ะ ชมนั่งนับวันรอให้ถึงวันที่จะได้มาเรียนวิชานี้เร็วๆ ความสัมพันธ์ระหว่างชมและวิลลี่ยังไม่มีอะไรเดินหน้าดังที่ชมวาดวิมานเอาไว้ จนวันหนึ่งอาจารย์มอบหมายงานกลุ่มเราสองคนได้อยู่กลุ่มเดียวกัน ในกลุ่มมี5-6คนค่ะ แต่เพื่อนคนอื่นจะไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไร เพราะชมสถาปนาตนเองขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่ม โดยมีวิลลี่เป็นเลขาคู่หู..ค่ะ เพื่อนๆฟังไม่ผิดหรอกค่ะ (จริงๆก็ไม่ได้เป็นคนรับผิดชอบหรอกนะคะ แต่นั่นเป็นหนทางเดียวที่จะพาชมเดินตามฝันเข้าบ้านเอเอฟ!? คือ ชมกะใช้เรื่องงานมาบังหน้าในการสานสัมพันธ์เพื่อพิชิตสี่ห้องหัวใจของวิลลี่ค่ะ บอกตามตรงเลย)
.... หลังจากนั้น ชมเหมือนเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ประจำกลุ่มค่ะ ชมรับอาสาเพื่อนทุกคนโทรประสานงาน เวลานัดแนะกันออกมาทำงาน.. ใช่แล้วค่ะ มันคือข้ออ้างในการโทรหาวิลลี่ ทุกครั้งที่โทร ชมก็จะสอดแทรก ถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ตามประสาสาวสวย!? อัธยาศัยดี........ แต่น่าเศร้านะคะ วิลลี่ไม่เคยออกนอกเรื่องบ้างเลยค่ะ แหม พ่อคนจริงจัง พ่อเอาการเอางาน หึ! แต่ไม่เป็นไรค่ะ โชคดีที่ชมเป็นคนไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เราก็โทรคุยเรื่องงานไปเรื่อยๆ
คราวนี้เวลากลับเดินเร็วอย่างกับเสือชีต้าร์ขี่เครื่องบินไอพ่นเลยนะคะ และแล้วก็ถึงวันที่ชมไม่อยากให้มาถึงจนได้...ถึงวันพรีเซ้นท์งานแล้วค่ะ ชมตระหนักดีว่าช่วงเวลาโรแมนติก(!?)ของเรากำลังจะหมดลงแล้วค่ะ... วันนั้นชมเดินออกมาจากหอด้วยดวงตาลึกโบ๋ ขอบตาดำคล้ำเหมือนซากศพที่ขุดจากบ่อน้ำ... เปล่าค่ะ ชมไม่ได้ทำรายงานทั้งคืนจนไม่ได้นอนหรอกนะคะ แต่ชมนอน-ีนก่ายหน้าผากคิดหาวิธีที่จะได้คุยกับวิลลี่หลังจากโปรเจ็คชิ้นนี้เสร็จค่ะ T^T และแล้วด้วยความอ่อนต่อโลกและความเป็นคนใสๆของชม ชมคิดไม่ออกค่ะเพื่อนๆ
แต่แล้วหลังจากนั้นไม่นาน คงเป็นเพราะบุญเก่าที่หนุนนำชมมาแต่ชาติปางก่อน หรือเป็นเพราะโชคชะตา พรหมลิขิตหรืออะไรก็ไม่ทราบนะคะ ทำให้ชมกับวิลลี่โคจรมาพบกันอีก แหม อย่างกับพระ-นางในเรื่องรักปาฏิหารย์เลยนะคะเพื่อนๆ...ที่คณะชมมีกิจกรรมอีกแล้วค่ะ แต่ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดนะคะ ปอบเปิบบ้าบอไม่มีแล้วค่ะ คราวนี้เป็นกิจกรรมสาระล้วนๆ รายละเอียดขอข้ามนะคะ ซึ่งวิลลี่ได้รับเลือกให้เป็น 1ในตัวแทนของคณะในการไปเผยแพร่ข้อมูลต่างๆของงานนี้ค่ะ ส่วนชม ชมทำหน้าที่อื่นค่ะ แต่ทุกครั้งเวลาออกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ เราก็จะไปกันเป็นทีม..ทุกครั้งที่ออกไปทำงานนอกมหา'ลัย ชมจินตนการประหนึ่งเหมือนเราไปฮันนีมูนยังไงยังงั้นเลยค่ะ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขสุดๆเลยหละค่ะ เหมือนเราได้เจอเพื่อนที่คุ้นเคยกันดี เลยสนิทกันกว่าคนอื่นๆ แต่ก็ไม่มีอะไรเกินเลยไปนอกจากเพื่อนร่วมงานค่ะ ( แต่สำหรับชม..คงเกินไปถึงเพื่อนร่วมชีวิตแล้วละมังคะ?!)
.....กิจกรรมที่ว่านานพอสมควรค่ะ กินเวลาถึง 2เดือน นานพอที่จะทำให้ชมรู้สึกคลั่งไคล้ในความเป็น gentleman ของวิลลี่เอามากๆ (ก่อนหน้านั้น ชมเปล่าคลั่งไคล้เลยนะคะ ชมเห็นวิลลี่เป็นแค่เพื่อน (?!) จริงๆค่ะ ) ... ในที่สุด ชมทนเก็บไว้คนเดียวไม่ได้อีกต่อไปค่ะ ชมป่าวประกาศบอกดินบอกฟ้า กู่ร้องก้องมหาลัย! เอ่ออ ไม่ใช่ค่ะๆ ชมแค่เล่าให้เพื่อนสนิทฟังค่ะ ก็ไม่มากนะคะ ในกลุ่มก็ 6-7คน เท่านั้นเอง(!?)จ้าาา
เพื่อนชมไม่มีใครออกความคิดเห็นใดๆ หรืออาสามาเป็นกามเทพช่วยเหลือชมเลยค่ะ น่ารักกันทั้งนั้นเลย จนในที่สุด พิษรักมันแน่น-อก ชมทนไม่ไหวอีกต่อไป ชมเลยตัดสินใจโทรหาวิลลี่ ... แหะๆ ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิดค่ะ บอกแล้วไงคะว่าชมเป็นหญิงอ่อนต่อโลก ทำทุกอย่างด้วยความใสซื่อ ไม่มีอะไรแอบแฝงเลยค่ะ......... ชมโทรไปขอยืมหนังสือวิลลี่ค่ะ พร้อมกับนัดแนะเวลาสถานที่ (ชมพยายามนึกถึงสถานที่ที่ล่อแหลมมากที่สุด เพื่อจะได้ทำกิจกรรมอื่นกันด้วยไงคะ) ค่ะ ชมนัดวิลลี่มาเจอกันที่ห้องสมุด เราตัดสินใจอ่านหนังสือกันต่อค่ะ...กิจกรรมยามค่ำคืนของเราดำเนินไปจนถึงเที่ยงคืน ห้องสมุดปิดค่ะ...วิลลี่ปั่นจักรยานมาส่งชมที่หอ วินาทีนั้นชมนึกว่าตัวเองเป็นน้อยหน่าในเรื่องแฟนฉัน กำลังซ้อนจักรยานเจี๊ยบอย่างโรแมนติกสุดๆเลยค่ะ ชมนั่งหลับตาพริ้มประหนึ่งล่องลอยอยู่บนปุยเมฆไปจนถึงหอ
เดทเล็กๆกึ่งตั้งใจ(วางแผน) ของชมจบลง แต่หนังจบอารมณ์ไม่จบ คืนนั้นชมนอนวาดวิมานอีกแล้วค่ะ นอนยิ้มไปจนหลับไปตอนไหนก็ไม่ทราบนะคะ