<<ประสบการณ์ชีวิตนักเรียนในเป่ยต้า>>ตอนที่4 งานเลี้ยงเต้นรำเฟรชชี่

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พันทิป

ในตอนนี้ เหม่ยอิ๋งจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับชีวิตนักเรียนปีหนึ่งที่นั่น กิจกรรมต่างๆ และวิชาเลือกที่เหม่ยอิ๋งได้ลงเรียนเทอมที่แล้วค่ะ

เมื่อชีวิตนักเรียนปีหนึ่งเริ่มขึ้น ที่เป่ยต้า นับว่ามีกิจกรรมให้เข้าร่วมเยอะทีเดียวเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่นๆในจีน

ในช่วงเดือนสองเดือนแรก จะมีงานเต้นรำหรืองานเลี้ยงเฟรชชี่จัดขึ้นเยอะมาก โดยแต่ละคณะก็จะจัดของตัวเอง มีที่น่าสนุกบ้างไม่สนุกบ้าง ซึ่งเราก็ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงของคณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ(เมทเราเรียนคณะนี้) สถานที่จัดงานเป็นการจัดงานในโรงแรม ไม่ใหญ่มาก กิจกรรมเล็กๆสนุกๆ ซึ่งเราคิดว่าคณะเราจัดได้ดีกว่า

คณะนิเทศฯของเรา จัดงานเฟรชชี่ร่วมกับคณะวิศวฯคอม มหาวิทยาลัยชิงหวา และคณะศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยเหรินหมิน ส่วนใหญ่แล้วคนที่มาเข้าร่วมงานจะเป็นนักศึกษาจากทางเป่ยต้าและชิงหวาซะมากกว่า

เนื่องจากว่า คณะนิเทศเป่ยต้า เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงล้วน มีผู้ชายในคณะสิบสามคน (เราแอบเครียด) จากร้อยกว่าคนในคณะ พออยู่ไปนานๆ แต่ละนางเริ่มปรากฏตัว จากเพศชายสิบสามคน เราคิดว่า จากสายตาหญิงไทยสแกนแล้ว เหลือชายจีนแท้ไม่ถึงสี่คน

นี่ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดการจัดงานโคกันระหว่างคณะวิศวฯคอมของชิงหวาเกิดขึ้น เพราะว่าคณะนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ชายล้วนเลยก็ว่าได้

เราตื่นเต้นมากที่จะได้เข้าร่วมงานเลี้ยงเฟรชชี่แบบนี้ คือแบบว่าตามสไตล์นักเรียนไทย มันต้องเริ่ด งานพรอมนี่ เราจำได้เพือ่นๆเราแต่ละนางชีเตรียมตัวกันเป็นเทอมเป็นปี วันงานพรอมนี่ก็แต่งหน้าแต่งตัวกันตั้งแต่เช้า กะเอาให้เริ่ดเฉิดฉายในงาน

ไอเราก็ขุดเดรสในตู้ออกมาใส่ งานเริ่มทุ่ม เราเริ่มแต่งหน้าแต่งตัวประมาณบ่ายสามกว่า เราใช้เวลาประมาณสอง ชั่วโมง

หลังจากนั้นเราไปหาเพื่อนเราคนจีนที่หอ เพื่อจะยืมรองเท้า พอไปถึง ตอนนั้นใกล้เวลางานแล้ว เราเป็นเพื่อนเราในสภาพชุดอยู่กับบ้าน หน้าตาไม่ได้แต่ง คือเราเงิบไปห้าวิ ในใจคิด หรือเค้าจะไม่ไปวะ?   ไม่ทันได้ถาม เค้าก็บอก เดี๋ยวเค้าขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อก่อน เราขึ้นไปหอเพื่อนเรารอ

โอ่วว...ชุดเพือ่นเรา มันทำให้เราอึ้งเป้นครั้งที่สอง เป็นกระโปรงยาว แขนยาว แอบออกแนวครั้นทรี่หน่อยๆ แต่มันไม่เข้ากันเลย คือ เราว่าคนไทยคงจะไม่ใส่ชุดแบบนี้ไปงานเต้นรำตอนกลางคืน...เรารับประกัน

เพื่อนเราไม่แต่งหน้า ไปหน้าสด .... เราแบบ โอว

เราเริ่มรู้สึก เราแปลกประหลาดรึเปล่า ระหว่างทางที่เดินไปสถานที่จัดงาน เราเหมือนเราเวอร์มากทั้งชุดทั้งหน้า ทั้งๆที่จริงแถวสยามบ้านเราจัดเต็มกว่าเราในตอนนั้นอีก

พอไปถึงสถานที่จัดงาน เราก็เงิบเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน หลังจากที่เห็นแต่ละคนแต่งตัวแบบ สบายๆมากๆ กระโปรงกับเสื้อยืด แบบว่าไปเรียนหนังสือหรือไปวัด(คือเรียบร้อยมาก) แล้วก็ไม่ค่อยมีคนแต่งหน้า

มันต่างกับงานพรอมตอนมอหกมากๆ ที่ทุกคนจัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผม

ในตอนนั้นเราไม่เข้าใจคอนเซ็ปเค้ามากๆ ว่าการไปงานเต้นรำตอนกลางคืน สำหรับนักเรียนเป่ยต้าปีหนึ่งแล้ว เค้าควรจะแต่งตัวแบบไหน เพราะสำหรับคนไทย หรือในความคิดเรา เราคิดว่า มันควรจะเป็นชุดที่เหมาะสมกับงานเลี้ยงตอนกลางคืน

มันทำให้เราได้เห็นความต่างอย่างมาก สำหรับนักเรียนในมหาลัยจีนที่เป่ยต้าแล้ว เค้าแทบไม่มีใครแต่งหน้าไปเรียนเลย สำหรับคนจีน ในวัยมหาลัย การแต่งหน้าอาจจะไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับเค้า มากเท่ากับหนังสือที่เค้าชอบพกติดตัวตลอดเวลาก็ได้

แต่งานวันนั้น เข้าไปในงาน สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกโอเค ก็คือการที่ผู้ชายจากชิงหวา ใส่ชุดสูททุกคน แต่ละคนถือดอกกุหลาบหนึ่งดอกอยู่ในมือ มันดู โอเคมาก ทำให้เรารู้สึกอยู่งานเลี้ยงขึ้นมาหน่อย

ในงาน ตอนแรกจะมีเปิดคลิปแนะนำงานเลี้ยง แล้วก็จะมีการปิดไฟ และให้ผู้หญิงและผู้ชายยืนแยกกันคนละฝั่ง และมีครูสอนเต้นลีลาศออกมาสอนวิธีการเต้น และให้เราทำตาม หลังจากนั้นพิธีกรก็ประกาศให้แต่ละคนเดินไปหาคู่ของตัวเอง ใครยังไม่มีคู่ อยากคู่เต้นรำกับใครก็ไปขอได้เลย

ตอนนั้นผู้ชายจากฝั่งชิงหวา เฮโลกันเข้ามามาก เราแอบฮา  

เราเพิ่งเคยอยู่ในเหตุการณ์อย่างนี้ครั้งแรก มันก็สนุกดีนะ

ผู้ชายจากชิงหวาทุกคนเต้นลีลาศเป็น เพราะได้รับการสอนมาตั้งแต่เข้ามหาลัยก่อนที่จะมีงานเลี้ยงนี้ขึ้น

และส่วนมาก ผู้หญิงจากเป่ยต้าจะเต้นกันไม่เป็น และแน่นอน ฝ่ายชายจะเป็นคนสอนให้

เหมือนเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ของสองคณะสองมหาลัยให้รู้จักกันอย่างกว้างขวาง

จากประสบการณ์และที่เราเห็นมา ผู้ชายจะเทคแคร์ผู้หญิงค่อนข้างดี หาที่นั่ง หาน้ำหาอะไรมาให้กิน ทั้งๆที่(ส่วนมาก)เพิ่งรู้จักกัน มันเหมือนเป็นมารยาทของเค้า

ตอนแรกเราคิดว่า เต้นรำกับคนนึงเสร็จ ก็เปลี่ยนคู่เต้นรำไปเรือ่ยๆ (คือเราไม่เคยมางานเต้นรำอะไรแบบนี้) แต่ที่นี่ไม่ใช่ ถ้าครั้งแรกคู่กับใครแล้วจะต้องคู่กับคนนั้นจนจบงาน

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเหยียบลูกโป่ง ที่ให้คู่แต่ละคู่มาผูกเท้าติดกันและเหยียบลูกโป่ง เราว่าเป็นอะไรที่สนุกดีนะ

แล้วก็มีเกมแบกคู่ของตัวเองผ่านอุปสรรคต่างๆ (อันนี้เราไม่กล้าเล่น)

ซึ่งในตอนท้ายของงาน ผู้ชายจะต้องไปส่งผู้หญิง (อันนี้เราไม่เคยรู้มาก่อน)

งานเลี้ยงเต้นรำเฟรชชี่ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ประทับใจสำหรับเรามาก มันทำให้เราได้เห็นมุมมองความคิด วัฒนธรรมต่างๆ ของคนจีน และได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ เหมือนเป็นการเปิดสังคมให้กับตัวเองอีกทางหนึ่ง

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่