ท่านเป็นพระที่ค่อนข้าง"แปลก" จาก พระรูปอื่นในยุคปัจจุบัน ซึ่งก็คือท่านเป็นคนที่ ชอบผื่นดิน ชอบป่า เคร่งในศาสนา หลายครั้งที่ท่าน ธุดงเข้าป่าตามลำพัง เพื่อที่จะวิปัสนากรรมฐาน ตามกิจของสงค์ที่พึงมีตั้งแต่อดีตกาล
หลวงพ่อเนื่องท่านมีวัตรปฏิบัติที่แปลกและน่าอัศจรรย์อยู่อย่างหนึ่งคือทั้งปีท่านจะสรงน้ำเพียง ๑ วันเท่านั้นคือในวันสงกรานต์ ซึ่งน่าประหลาดที่ร่างกายของท่านกลับไม่มีกลิ่น และเหงื่อไคลแต่อย่างใดเลย ดังนั้น ศิษยานุศิษย์ที่เคารพนับถือจึงแห่แหนกันมาในวันสงกรานต์อย่างเนืองแน่นเพื่อร่วมสรงน้ำท่านกันทุกปี
ในด้านวิชาอาคม ลูกศิษย์ลูกหาของท่านมักจะมาขอความเมตตาขอใบมะนาวเสกจากหลวงพ่อเนื่อง ซึ่งใบมะนาวเสกถือเป็นของขลังที่หลวงพ่อมักจะหยิบยื่นให้ผู้ที่ไปกราบไหว้อธิษฐานจิตขอในสิ่งที่ปรารถนา เช่น บางคนอยู่เป็นคู่สามีภรรยากันมานานนับสิบๆ ปี ก็ไม่มีลูกสักที แต่เมื่อไปอธิษฐานขอกับหลวงพ่อเนื่องแล้ว ท่านให้ใบมะนาวเสกติดกลับบ้าน ชั่วเวลาไม่นานก็ท้องสมใจ หรือบางกรณีมีผู้ไปขอโชคลาภ ก็ได้ไปด้วยความสุขใจ และมีชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยบารมีแห่งความเป็นผู้หยั่งรู้ ทำให้ครั้งหนึ่งหลวงพ่อเนื่องถูกตั้งกรรมการสอบอธิกรณ์ เพื่อถอดถอนสมณศักดิ์ กรรมการเถระผู้สอบอธิกรณ์ถามหลวงพ่อเนื่องว่า "คุณเนื่องถ้าท่านหยั่งรู้และเห็นเลขจริง ลองให้มาสัก ๒-๓ ตัวซิ" หลวงพ่อเนื่องตอบว่า "พระเดชพระคุณจะให้สัจจะกับเกล้าได้ไหมว่าจะไม่เอาเลขดังกล่าวไปแทงหวย"
ท่านเจ้าคุณรูปนั้นให้สัจจะวาจาหลวงพ่อเนื่องจึงเขียนเลขลงในกระดาษพับใสซอง แล้วยื่นให้ท่านเจ้าคุณนำไปเก็บไว้ในตู้เซฟ พอวันที่หวยออกจึงได้พิสูจน์ความจริง ปรากฏว่าตัวเลขที่หลวงพ่อเนื่องให้ไว้นั้น ถูกรางวัลที่หนึ่งงวดนั้นทุกหลักไม่ผิดเพี้ยนเลย
ภายในกุฏินั่นก็จะมี พระพุทธรูปของหลวงปู่เนื่อง ด้านหลังจะมีร่างของท่านที่ไม่เน่าไม่เปื่อยอยู่ด้านในครับ
วัดจุฬามณี ที่ท่านเป็นเจ้าอาวาสนั้น ซึ่งตามประวัติเป็นวัดโบราณ สันนิษฐาน ว่าสร้างขึ้นระหว่างปี ๒๑๗๒ ถึง ๒๑๙๐ ในรัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง ตามที่สันนิฐานเอาไว้ครับ และท่านก็เป็นเจ้าอาวาทในลำดับที่๘ ของวัดนั้นเอง
อีกหนึ่งสิ่งที่ท่านไม่สนใจเลยคือ "เงิน"ครับ ท่านมักจะบอกแก่ลูกศิษย์ลูกหาว่า เงินทองของนอกกาย เวลามีใครมาถวาย ท่านก็รับมาครับ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะครับ ใส่ไว้ที่หนังสือบ้าง ตามซอกบ้าง เมื่อเท่านมรณะภาพ เหล่าลูกศิษย์ทำการเก็บกวาด ปรากฎว่าเจอเงินครับ แต่มันยังอยู่ในซอง ก็คือท่านไม่ได้เปิดซองออกมาดูเงินด้วยซ้ำ และมีการสันนิษฐานว่า เงินที่รวบรวมได้มีประมาณ 10ล้านบาทครับ ท่านจึงมีคนยกย่องมากขึ้นไปอีกเพราะเรื่องต่างๆนั่นเอง
วันเดือนปีที่ท่านมรณะภาพ กุฏิที่ตั้งศพหลวงพ่อเนื่องเป็นอาคารทรงไทยแฝดสามหลังภายในเขียนลายทองสวยงามมาก ศพหลวงพ่อเนื่องไม่เน่าเปื่อย อยู่ในโลงแก้ว ทุกวันยังมีผู้ที่เคารพนับถือเดินทางไปกราบไหว้ไม่ขาดสาย แม้ว่าหลวงพ่อเนื่องมรณภาพตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2530 เวลา 06.00 น. ด้วยอาการอันสงบ รวมอายุ 78 ปี รวม 56 พรรษา
อภิหารหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณีสมุทรสงคราม
หลวงพ่อเนื่องท่านมีวัตรปฏิบัติที่แปลกและน่าอัศจรรย์อยู่อย่างหนึ่งคือทั้งปีท่านจะสรงน้ำเพียง ๑ วันเท่านั้นคือในวันสงกรานต์ ซึ่งน่าประหลาดที่ร่างกายของท่านกลับไม่มีกลิ่น และเหงื่อไคลแต่อย่างใดเลย ดังนั้น ศิษยานุศิษย์ที่เคารพนับถือจึงแห่แหนกันมาในวันสงกรานต์อย่างเนืองแน่นเพื่อร่วมสรงน้ำท่านกันทุกปี
ในด้านวิชาอาคม ลูกศิษย์ลูกหาของท่านมักจะมาขอความเมตตาขอใบมะนาวเสกจากหลวงพ่อเนื่อง ซึ่งใบมะนาวเสกถือเป็นของขลังที่หลวงพ่อมักจะหยิบยื่นให้ผู้ที่ไปกราบไหว้อธิษฐานจิตขอในสิ่งที่ปรารถนา เช่น บางคนอยู่เป็นคู่สามีภรรยากันมานานนับสิบๆ ปี ก็ไม่มีลูกสักที แต่เมื่อไปอธิษฐานขอกับหลวงพ่อเนื่องแล้ว ท่านให้ใบมะนาวเสกติดกลับบ้าน ชั่วเวลาไม่นานก็ท้องสมใจ หรือบางกรณีมีผู้ไปขอโชคลาภ ก็ได้ไปด้วยความสุขใจ และมีชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยบารมีแห่งความเป็นผู้หยั่งรู้ ทำให้ครั้งหนึ่งหลวงพ่อเนื่องถูกตั้งกรรมการสอบอธิกรณ์ เพื่อถอดถอนสมณศักดิ์ กรรมการเถระผู้สอบอธิกรณ์ถามหลวงพ่อเนื่องว่า "คุณเนื่องถ้าท่านหยั่งรู้และเห็นเลขจริง ลองให้มาสัก ๒-๓ ตัวซิ" หลวงพ่อเนื่องตอบว่า "พระเดชพระคุณจะให้สัจจะกับเกล้าได้ไหมว่าจะไม่เอาเลขดังกล่าวไปแทงหวย"
ท่านเจ้าคุณรูปนั้นให้สัจจะวาจาหลวงพ่อเนื่องจึงเขียนเลขลงในกระดาษพับใสซอง แล้วยื่นให้ท่านเจ้าคุณนำไปเก็บไว้ในตู้เซฟ พอวันที่หวยออกจึงได้พิสูจน์ความจริง ปรากฏว่าตัวเลขที่หลวงพ่อเนื่องให้ไว้นั้น ถูกรางวัลที่หนึ่งงวดนั้นทุกหลักไม่ผิดเพี้ยนเลย
ภายในกุฏินั่นก็จะมี พระพุทธรูปของหลวงปู่เนื่อง ด้านหลังจะมีร่างของท่านที่ไม่เน่าไม่เปื่อยอยู่ด้านในครับ
วัดจุฬามณี ที่ท่านเป็นเจ้าอาวาสนั้น ซึ่งตามประวัติเป็นวัดโบราณ สันนิษฐาน ว่าสร้างขึ้นระหว่างปี ๒๑๗๒ ถึง ๒๑๙๐ ในรัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง ตามที่สันนิฐานเอาไว้ครับ และท่านก็เป็นเจ้าอาวาทในลำดับที่๘ ของวัดนั้นเอง
อีกหนึ่งสิ่งที่ท่านไม่สนใจเลยคือ "เงิน"ครับ ท่านมักจะบอกแก่ลูกศิษย์ลูกหาว่า เงินทองของนอกกาย เวลามีใครมาถวาย ท่านก็รับมาครับ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะครับ ใส่ไว้ที่หนังสือบ้าง ตามซอกบ้าง เมื่อเท่านมรณะภาพ เหล่าลูกศิษย์ทำการเก็บกวาด ปรากฎว่าเจอเงินครับ แต่มันยังอยู่ในซอง ก็คือท่านไม่ได้เปิดซองออกมาดูเงินด้วยซ้ำ และมีการสันนิษฐานว่า เงินที่รวบรวมได้มีประมาณ 10ล้านบาทครับ ท่านจึงมีคนยกย่องมากขึ้นไปอีกเพราะเรื่องต่างๆนั่นเอง
วันเดือนปีที่ท่านมรณะภาพ กุฏิที่ตั้งศพหลวงพ่อเนื่องเป็นอาคารทรงไทยแฝดสามหลังภายในเขียนลายทองสวยงามมาก ศพหลวงพ่อเนื่องไม่เน่าเปื่อย อยู่ในโลงแก้ว ทุกวันยังมีผู้ที่เคารพนับถือเดินทางไปกราบไหว้ไม่ขาดสาย แม้ว่าหลวงพ่อเนื่องมรณภาพตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2530 เวลา 06.00 น. ด้วยอาการอันสงบ รวมอายุ 78 ปี รวม 56 พรรษา