สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เราขอสมมติชื่อตัวเองว่า ชมพู และขออนุญาตเรียกแทนตัวเองว่า ชม นะคะ หน้าตาสวยแล้ว ขอชื่อสวยๆเหมือนดาราในดวงใจบ้าง คงไม่ว่ากันนะ
...
วันนี้ชมอยากมาเล่าประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัย สมัยที่ชมเรียนอยู่ปี1ค่ะ ..ซึ่งชมไม่รู้จะจัดว่ามันเป็นเรื่องความรักของสาวสวยแรกแย้ม เรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิต หรือเรื่องตลกโปกฮาจากชิงร้อยชิงล้าน ดีนะคะเพื่อนๆ
ตอนนั้นชมเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัย เป็นมหา'ลัยรัฐแห่งหนึ่งค่ะ เพื่อนๆคงนึกภาพออกใช่ไหมคะ ช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ มักจะมีกิจกรรมมากมาย ให้เฟรชชี่อย่างเราๆมาทำความรู้จักกัน บางกิจกรรมก็รู้สึกประหนึ่งเล่นรายการ take me out อยู่ยังไงยังงั้นแหนะค่ะ ... วันนั้น ชมเข้าร่วมกิจกรรมของคณะ ซึ่งมีรุ่นพี่ชายหญิงมาเป็นmc..หากเป็นสมัยนี้ชมมโนภาพประหนึ่งคุณกาละแมร์ยืนเคียงข้างน้าเน็คอย่างงั้นเลยค่ะ ทั้งคู่มาบอกเล่ากติกาให้เหล่าน้องๆเฟรชชีหน้าใสฟัง กติกามีอยู่ว่า ให้พวกเราใช้โทรศัพท์โทรหาเพื่อนในคณะคนไหนก็ได้ เพื่อแพร่เชื้อผีปอบค่ะ ใช่ค่ะ! เพื่อนๆฟังไม่ผิด กิจกรรมแสนสนุกนี่ให้ชมและเพื่อนหน้าใสเล่นแพร่เชื้อปอบค่ะทุกคน โดยมีข้อแม้ว่า ต้องแพร่เชื้อให้เพศตรงข้ามเท่านั้นนะคะคุณขา เมื่อใครก็ตามที่ได้รับโทรศัพท์จากคนที่เป็นผีปอบก็ต้องกลายเป็นปอบแทน...
ชมนั่งเท้าคางพร้อมกลอกลูกตาซ้ายขวาบนล่างสลับกันไป พรางคิดในใจ..ชั้นคงไม่โดนใครสุ่มโทรมาแพร่เชื้ออะไรนั่นหรอกนะ เฮอะ! ว่าแล้วก็สะบัดบ๊อบสอดส่ายมองหาหนุ่มหล่อในคณะต่อไป... วันเวลาผ่านไป 1อาทิตย์ ระหว่างนั้นชมก็ใช้ชีวิตตามประสาเฟรชชี่สวยๆไปวันๆค่ะ โดยลืมเรื่องผีปอบบ้าบอนั่นไปสนิท... แล้ววันนึง ในขณะที่ชมเข้าเรียนวิชาหนึ่ง ซึ่งต้องเรียนรวมในห้องประชุมใหญ่ และจัดที่นั่งตามเลขทะเบียนนักศึกษา วันนั้นชมเหมือนคนถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเลยค่ะเพื่อนๆ หลังจากที่สวดมนต์ภาวนาทุกคืนก่อนนอน ว่าให้ชมได้นั่งข้างหนุ่มหล่อขาวตี๋เกาหลี ด้วยเถิ๊ดด และแล้วสวรรค์ก็เมตตาเฟรชชี่จิตใจงามอย่างชม ส่งพ่อเทพบุตรสุดหล่อโลกตะลึงมานั่งข้างๆชมค่ะ วันนั้นชมจิตใจเต้นไม่เป็นส่ำ ในสมองไม่มีเรื่องเรียนอยู่เลยแม้แต่น้อย มันวนเวียนอยู่แต่กับพ่อเทพบุตรข้างๆค่ะ
.... พอถึงช่วงพัก เวลาที่ชมรอคอยก็มาถึง ชมชม้อยสายตาพอเป็นพิธี ตามประสาหญิงไทยใจงาม จนพ่อรูปงามทนไม่ไหว เลยต้องหันมาทักทายชม...วินาทีนั้นเหมือนโลกหยุดหมุน ชมตื่นเต้นเหงื่อกาฬแตก เหมือนไปเต้นแอโรบิคต่อด้วยโยคะร้อนเลยค่ะ เราคุยหยอกล้อกันตามประสาข้าวใหม่ปลามัน (!?) ...แหม ล้อเล่นค่ะ เราก็คุยเรื่องทั่วไปแหละค่ะ ได้ความว่าเขามาจากโรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง
เชื่อไหมคะเพื่อนๆ หลังจากนั้น ชมกลับมาที่หอชมได้แต่นั่งคิดถึงพ่อรูปงามคนเดิมประหนึ่งเหมือนชมโดนพรากความบริสุทธิ์ไปเลยละค่ะ อ้อ! ลืมบอกไป สมมติว่าเขาชื่อวิลล่ี ละกันนะคะ (ไม่ต้องสงสัยค่ะ ชื่อสามีชมในอุดมคติเองค่ะเพื่อนๆ)
มันเป็นความรัก.. หรือเรื่องตลกจากแก๊งค์สามช่า
วันนี้ชมอยากมาเล่าประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัย สมัยที่ชมเรียนอยู่ปี1ค่ะ ..ซึ่งชมไม่รู้จะจัดว่ามันเป็นเรื่องความรักของสาวสวยแรกแย้ม เรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิต หรือเรื่องตลกโปกฮาจากชิงร้อยชิงล้าน ดีนะคะเพื่อนๆ
ตอนนั้นชมเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัย เป็นมหา'ลัยรัฐแห่งหนึ่งค่ะ เพื่อนๆคงนึกภาพออกใช่ไหมคะ ช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ มักจะมีกิจกรรมมากมาย ให้เฟรชชี่อย่างเราๆมาทำความรู้จักกัน บางกิจกรรมก็รู้สึกประหนึ่งเล่นรายการ take me out อยู่ยังไงยังงั้นแหนะค่ะ ... วันนั้น ชมเข้าร่วมกิจกรรมของคณะ ซึ่งมีรุ่นพี่ชายหญิงมาเป็นmc..หากเป็นสมัยนี้ชมมโนภาพประหนึ่งคุณกาละแมร์ยืนเคียงข้างน้าเน็คอย่างงั้นเลยค่ะ ทั้งคู่มาบอกเล่ากติกาให้เหล่าน้องๆเฟรชชีหน้าใสฟัง กติกามีอยู่ว่า ให้พวกเราใช้โทรศัพท์โทรหาเพื่อนในคณะคนไหนก็ได้ เพื่อแพร่เชื้อผีปอบค่ะ ใช่ค่ะ! เพื่อนๆฟังไม่ผิด กิจกรรมแสนสนุกนี่ให้ชมและเพื่อนหน้าใสเล่นแพร่เชื้อปอบค่ะทุกคน โดยมีข้อแม้ว่า ต้องแพร่เชื้อให้เพศตรงข้ามเท่านั้นนะคะคุณขา เมื่อใครก็ตามที่ได้รับโทรศัพท์จากคนที่เป็นผีปอบก็ต้องกลายเป็นปอบแทน...
ชมนั่งเท้าคางพร้อมกลอกลูกตาซ้ายขวาบนล่างสลับกันไป พรางคิดในใจ..ชั้นคงไม่โดนใครสุ่มโทรมาแพร่เชื้ออะไรนั่นหรอกนะ เฮอะ! ว่าแล้วก็สะบัดบ๊อบสอดส่ายมองหาหนุ่มหล่อในคณะต่อไป... วันเวลาผ่านไป 1อาทิตย์ ระหว่างนั้นชมก็ใช้ชีวิตตามประสาเฟรชชี่สวยๆไปวันๆค่ะ โดยลืมเรื่องผีปอบบ้าบอนั่นไปสนิท... แล้ววันนึง ในขณะที่ชมเข้าเรียนวิชาหนึ่ง ซึ่งต้องเรียนรวมในห้องประชุมใหญ่ และจัดที่นั่งตามเลขทะเบียนนักศึกษา วันนั้นชมเหมือนคนถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเลยค่ะเพื่อนๆ หลังจากที่สวดมนต์ภาวนาทุกคืนก่อนนอน ว่าให้ชมได้นั่งข้างหนุ่มหล่อขาวตี๋เกาหลี ด้วยเถิ๊ดด และแล้วสวรรค์ก็เมตตาเฟรชชี่จิตใจงามอย่างชม ส่งพ่อเทพบุตรสุดหล่อโลกตะลึงมานั่งข้างๆชมค่ะ วันนั้นชมจิตใจเต้นไม่เป็นส่ำ ในสมองไม่มีเรื่องเรียนอยู่เลยแม้แต่น้อย มันวนเวียนอยู่แต่กับพ่อเทพบุตรข้างๆค่ะ
.... พอถึงช่วงพัก เวลาที่ชมรอคอยก็มาถึง ชมชม้อยสายตาพอเป็นพิธี ตามประสาหญิงไทยใจงาม จนพ่อรูปงามทนไม่ไหว เลยต้องหันมาทักทายชม...วินาทีนั้นเหมือนโลกหยุดหมุน ชมตื่นเต้นเหงื่อกาฬแตก เหมือนไปเต้นแอโรบิคต่อด้วยโยคะร้อนเลยค่ะ เราคุยหยอกล้อกันตามประสาข้าวใหม่ปลามัน (!?) ...แหม ล้อเล่นค่ะ เราก็คุยเรื่องทั่วไปแหละค่ะ ได้ความว่าเขามาจากโรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง
เชื่อไหมคะเพื่อนๆ หลังจากนั้น ชมกลับมาที่หอชมได้แต่นั่งคิดถึงพ่อรูปงามคนเดิมประหนึ่งเหมือนชมโดนพรากความบริสุทธิ์ไปเลยละค่ะ อ้อ! ลืมบอกไป สมมติว่าเขาชื่อวิลล่ี ละกันนะคะ (ไม่ต้องสงสัยค่ะ ชื่อสามีชมในอุดมคติเองค่ะเพื่อนๆ)